มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 947

สรุปบท บทที่ 947 ประหลาด: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปตอน บทที่ 947 ประหลาด – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

ตอน บทที่ 947 ประหลาด ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“อย่างที่คิด พอฉันมีผลงานที่หนานหยาง ก็มีคนอยากมาเด็ดดอกผลของฉัน!”

สวีเอ้าเสวี่ยถือโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและแฝงไปด้วยความฉุนเฉียวเล็กน้อย

ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเธอและถามว่า “หืม? เกิดอะไรขึ้น ใครกล้ามาเด็ดดอกผลของคุณหนูใหญ่อย่างเธอ”

สวีเอ้าเสวี่ยบอกว่า “ตระกูลเซี่ยที่เกี่ยวดองกับตระกูลจ้าวจากการแต่งงานน่ะ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเซี่ยเทียนอวี้!"

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยว่า “คนของตระกูลเซี่ย? หืม ดูเหมือนเธอจะยังมีปัญหานิดหน่อยนะ!"

หน้าห้องโถงตระกูลเซี่ยตระกูลหวังแต่อดีต* (*กวีจีนโบราณ) พอสวีเอ้าเสวี่ยจัดการกับหวังเจี้ยนเฉิงได้ คนของตระกูลเซี่ยก็มาเด็ดผลงานของเธอไป

อาจกล่าวได้ว่าตระกูลเซี่ยคือผู้ช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุดของตระกูลจ้าว จนเกิดเป็นการเกี่ยวดองที่มั่นคงระหว่างทั้งสองตระกูล

“คุณต้องการันตีความมั่นคงปลอดภัยให้เธอให้ได้ก่อน ทำให้เธอออกจากเซียงซานได้อย่างปลอดภัย” หยางกวนกวนขมวดคิ้วพลางเอ่ยกับฉีเติ่งเสียน

“อืม” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด

“แต่ทำไมคนของตระกูลเซี่ยถึงต้องมาเด็ดดอกผลของเธอ? ตอนนี้ที่หนานหยางเธอเป็นคนตัดสินใจ เธอยังกลัวพวกนั้นอีกหรือ?”

สวีเอ้าเสวี่ยส่ายหน้าและบอกว่า “มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น! คนของตระกูลเซี่ยไปพบกับตระกูลผู้ทรงอิทธิพลของเซียงซานอย่างตระกูลจี้ แค่กักตัวฉันไว้ที่เซียงซานไม่ยอมให้ฉันกลับไปก็บรรลุเป้าหมายกันได้แล้ว”

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยว่า “ตระกูลจี้?”

สวีเอ้าเสวี่ยบอกว่า “ตระกูลจี้นั่นก่อร่างสร้างตัวด้วยการขายพลาสติก! พวกโจรเหี้ยมที่อยู่กับบรรพบุรุษตระกูลเย่ว์มาลักพาตัวคุณชายของตระกูลจี้ไป ทำเอาฮือฮากันไปทั่วโลก”

“โอ้...” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าน้อยๆ อย่างสนใจ

ตระกูลจี้เป็นตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยมาก แต่ตระกูลเหลยเป็นตระกูลใหญ่ที่ทั้งร่ำรวย ทั้งมีอำนาจและมีคนใหญ่คนโตหนุนหลัง ไม่อย่างนั้นทำไมพวกโจรเหี้ยมถึงไม่ลงมือกับตระกูลเหลย?

ยังคงมีระยะห่างระหว่างทั้งสองตระกูล

ฉีเติ่งเสียนบอกให้หยางกวนกวนกลับไปก่อนและบอกให้เธอให้คอยติดตามสถานการณ์ทางหนานเชี่ยน คอยป้องกันไม่ให้คนของเหยียนต้งประสบปัญหา

ตอนแรกหยางกวนกวนอยากจะเฉือนคนเจ้าเล่ห์อย่างฉีเติ่งเสียนให้ได้ แต่ด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ความกังวลและความห่วงใยที่มีต่อเขามีมากกว่าความโกรธ ยิ่งไปกว่านั้นความปลอดภัยของสวีเอ้าเสวี่ยยังเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเธอจึงบอกให้เขาระวังตัวและจากไปอย่างเงียบๆ

ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงเริ่มคิดบัญชีกับสวีเอ้าเสวี่ยที่คอยวางระเบิดให้เขาไม่หยุดหย่อน

ทันใดนั้นเขาก็กดเธอลงบนโต๊ะเพื่อคิดบัญชี จนเธอเริ่มร้องไห้ออกมา...

เป็นครั้งแรกที่สวีเอ้าเสวี่ยผู้เย่อหยิ่งร้องขอความเมตตา แถมยังอ้อนวอนอยู่หลายต่อหลายครั้งก่อนจะถูกปล่อยอย่างไม่เต็มใจ

“ประธานเซี่ยงเล่นงานฉัน ฉันไม่กล้าทำอะไร แต่ถ้าเธอคิดจะเล่นฉัน มันไม่ง่ายขนานนั้น!” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างอวดดี

“อา... ฉันจะฆ่านายให้ได้!” สวีเอ้าเสวี่ยเอ่ยอย่างทะนงตนขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวขยับไม่ได้ราวกับเป็นอัมพาต

สวีเอ้าเสวี่ยกำลังสับสนมึนงงเพราะได้รับข่าวนี้อย่างกะทันหัน จนเธอลืมไปว่าคนอย่างฉีเติ่งเสียนเป็นพวกนอกรีตที่คิดแต่จะแก้แค้น วันนี้เธอเล่นเขาขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่จะถูกเขาแก้แค้น!

เมื่อครู่นี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ต้องเอาตัวหยางกวนกวนไว้ที่นี่ให้ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นไอ้บ้าฉีคงไม่กล้าแก้แค้นเธอแน่

สวีเอ้าเสวี่ยรู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อยและพูดว่า “ทำไมลูกปืนนัดนั้นถึงไม่ฆ่านายให้ตายนะ? ถึงจะรู้ว่าคนสารเลวอย่างนายตั้งใจมาขวาง แต่ฉันก็ยังอดเสียดายไม่ได้”

ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างเหยียดหยามว่า “ถ้าวันนี้ฉันไม่ยื่นมือมาช่วย ต่อให้เธอมีสิบชีวิตก็ยังไม่พอ ยังจะมาพูดประชดประชันฉันอีกหรือ?”

สวีเอ้าเสวี่ยสัมผัสกับประเพณีของเรือนจำโยวตูแล้ว...

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนปล่อยเธอลง เธอก็รีบคว้ามีดมาสู้กับเขาอย่างสุดชีวิต

“คนอย่างนายจะต้องป่วยหนักแน่ๆ ไอ้วิปริต ไอ้ผีบ้า!” สวีเอ้าเสวี่ยขว้างมีดและก่นด่าทั้งที่หายใจหอบ เธอขว้างมีดไปแล้วกว่าสิบเล่มแต่ก็ยังไม่โดน หนำซ้ำเธอกลับเป็นฝ่ายที่เหนื่อยแทบจะขาดใจ

“ต่อไปถ้าเธอกล้าเล่นงานฉันอีก ฉันจะจับเธอแขวนไว้แบบเมื่อกี้อีก” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึมและหยิ่งทะนง

ในความคิดของคนแบบนี้ ใครไม่ฟังที่เขาสั่งสอนเขาก็แค่จับแขวนลงโทษ ถ้าครั้งเดียวไม่ได้ผลก็แขวนรอบที่สอง รอบที่สาม จนกว่าจะพอใจ

สวีเอ้าเสวี่ยคิดว่าชาติก่อนเธอต้องไปขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของหมอนี่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงต้องมาพบเจอกับคนประหลาดที่ทรมานเธอจนเธอแทบอยากจะฆ่าตัวตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด?

“ประธานสวี คนของคุณหนูเซี่ยเพิ่งมาถึงและขอให้ท่านประธานไปพบเธอที่อาคารเหนือทะเลครับ” ทันใดนั้นก็มีโทรศัพท์โทรมาหาสวีเอ้าเสวี่ย

“ให้ฉันไปพบเธองั้นเหรอ” สวีเอ้าเสวี่ยอดชะงักไม่ได้เมื่อได้ยินแบบนั้น จากนั้นไฟโกรธก็คุกรุ่นขึ้นมาในดวงตา “เซี่ยเทียนอวี้คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มเรียบๆ และเอ่ยว่า “อย่าลืมว่าสถานะของเธอตอนนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องประจบประแจงเธอ!"

สวีเอ้าเสวี่ยชะงักอีกครั้ง จากนั้นจึงยิ้มออกมาและบอกว่า “ที่นายพูดมาก็มีเหตุผลจริงๆ นั่นละ ไปกันเถอะ เหนื่อยมาทั้งวัน หิวมาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่ไปหาอะไรกินกันสักหน่อยล่ะ”

ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกไปนอกหน้าต่างและกล่าวว่า “อากาศในเซียงซาน ตอนกลางคืนยังหนาวเล็กน้อย ลมทะเลยังพัดโชย...”

สวีเอ้าเสวี่ยกลอกตาอย่างแรงและบอกว่า “ฉันไม่มีทางสวมถุงน่องดำไปเอาใจคนเลวอย่างนายหรอก!"

ทว่าแค่กางเกงยีนรัดรูปที่สวีเอ้าเสวี่ยใส่ก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดสายตาของผู้คน การเคลื่อนไหวของเรียวขาคู่ยาวทำให้หัวใจคนมองสั่นไหวได้มากทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง