มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 971

สวี่หู่ได้ตายไปแล้ว และกองทัพราตรีนิรันดร์เหล่านี้ที่ถูกเขาทําให้หลงใหล ก็ไม่มีเสาหลักอีกต่อไป

พวกเขามองหน้ากันทีละคน จากนั้นจึงแล้ววางปืนไรเฟิลอัตโนมัติในมือลง

เฉียวชิวเมิ่งพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับทำสัญลักษณ์มือ คนที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้เห็น จึงอดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจออกมา จากนั้นจึงสั่งให้ถอยกองกำลัง

“มา แหวนวงนี้คืนเธอ” ฉีเติ่งเสียนยิ้มไปพูดไป พร้อมกับส่งแหวนคืนไปที่มือของเฉียวชิวเมิ่ง

“อื้ม” เฉียวชิวเมิ่งตอบรับ จากนั้นก็ยืนมือซ้ายออกไป พร้อมกับกระดกนิ้วนิ้วนางขึ้นมา

โดยธรรมชาติแล้วฉีเติ่งเสียนผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำจึงไม่ได้คิดมากอะไร เขาไปสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วของเธอ ไม่มีแม้แต่คำหวานสักคำ

เฉียวชิวเมิ่งคิดในใจ“กังฟูนี่ฝึงซะสูงถึงฟ้าแล้ว แต่ความฉลาดทางอารมณ์ ยังอยู่ในนรกขุมที่สิบแปด......”

หากฉีเติ่งเสียนรู้ความคิดของเธอเข้าล่ะก็ต้องหัวเราะเยาะเย้ยแน่นอน เพราะยังไงตอนนี้เขาก็คิดว่าเขามีความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงแล้ว

กองทัพราตรีนิรันดร์ได้ค่อยๆทยอยออกจากร้านอาหารแล้ว พร้อมกับเก็บศพของสวี่หู่ไปด้วย

การตายของสวี่หู่ครั้งนี้ อาจจะทำให้จ้านเฟยตื่นตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่จ้านเฟยมีนิสัยที่ค่อนข้างที่จะระมัดระวัง เป็นไปได้เกินครึ่งที่เขาจะไม่มาหาเรื่องกับฉีเติ่งเสียน

ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของเขา ได้ไปอยู่ที่งานชุมนุมการต่อสู้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ต้องหลีกทางให้กับเรื่องงานชุมนุมการต่อสู้

การที่สวี่หู่ตายไปนั้น สำหรับเขาแล้ว ก็แค่ได้เสียผู้ช่วยคนหนึ่งไปเท่านั้น ไม่ใช่การสูญเสียใหญ่แต่อย่างใด

ยังไงก็ตาม ก่อนที่สวี่หู่จะมา เขาก็ได้เป็นแชมป์เหนือแชมป์มาแล้ว......เอ่อ เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเซียงซาน!

“หอกข้างแคร่อย่างสวี่หู่ก็ได้กำจัดละเรียบร้อย แต่ว่าเธอก็ต้องระมัดระวังกองทัพราตรีนิรันดร์อาจจะถูกคนอื่นทำให้แตกจากภายใน หากเจอสถานการณ์แบบนี้ล่ะก็ ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” ฉีเติ่งเสียนพูดกับเฉียวชิวเมิ่งด้วยความตั้งใจ

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณนาย หากไม่มีนายช่วยล่ะก็ ไม่รู้จะจัดการกับมันยังไงเลย” เฉียวชิวเมิ่งพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยรอยยิ้ม

“นี่ใคร?!” ฉีเติ่งเสียนถาม

“ฉีเติ่งเสียนไง?!” เฉียวชิวเมิ่งชะงัก

“เอ๋ ตอนที่เธอความจำเสื่อมเธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว

เฉียวชิวเมิ่งแสร้งโง่ตอบ“ผู้ชายหน้าหม้อ?”

ฉีเติ่งเสียนมองเธอด้วยความรู้สึกหมดคำจะพูด จากนั้นจึงส่ายหัวไปมาพร้อมพูดว่า “ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ กว่าจะหาโอกาสคุยเป็นการส่วนตัวได้ไม่ใช่ง่ายๆเลย แต่เธอนี่กลับไม่รู้อะไรซะเลย!”

เฉียวชิวเมิ่งถึงกลับหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก ใครกันแน่ที่ความฉลากทางอารมณ์ต่ำ ไม่รู้ตัวเลยหรือไง?ตอนเด็กบอกจะมาเธอไปเดท แต่กลับไปโผล่ที่สุสานวีรชนแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าใครมันคิดออกมาได้!

เฉียวชิวเมิ่งสงสัยว่าความฉลาดทางอารมณ์นี้คงจะไม่มีวิธีพัฒนา อย่างมากสุดก็คงได้แบบนี้!

“ไปกัน หาที่กินอาหารเจี๋ยเผิงด้วยกันเถอะ” เฉียวชิวเมิ่งพูด

“ทำไมเธอถึงได้ชอบกินอาหารของประเทศเจี๋ยเผิงขนาดนี้?ฉันรู้สึกว่ามันจืดชืดไร้รสชาติ” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความไม่พอใจ

เฉียวชิวเมิ่งไม่พูดพร่ำทำเพลง ออกจากร้านอาหารร้านนี้ไป แล้วหาร้านใกล้ๆแถวนั้น จากนั้นสั่งเมนูพิเศษมาสองสามอย่างด้วยความชำนาญ โดยเฉพาะปลาปักเป้าที่แน่นอนว่าขาดไม่ได้เด็ดขาด

ทุกคนมีรสชาติที่ชอบเป็นของตัวเอง ก็เหมือนฉีเติ่งเสียนที่ชอบดื่มกาแฟขมที่ดำอย่างกับน้ำหมึก เฉียวชิวเมิ่งกลับชอบรสชาติที่อ่อนจืดแบบอาหารประเทศเจี๋ยเผิง

ถายในห้องเล็กที่ตกแต่งเป็นอย่างดี ทั้งสองคนนั่งตรงข้ามกัน

ฉีเติ่งเสียนได้นั่งอย่างเกียจคร้านโดยกางขาออก ขณะที่เฉียวชิวเมิ่งนั่งด้วยท่าทางไขว่ห้างอย่างสง่างาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง