มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 972

สรุปบท บทที่ 972 เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่ 972 เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 972 เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เฉียวชิวเมิ่งดื่มจนเมาเล็กน้อย แต่ฉีเติ่งเสียนก็นึกถึงเรื่องที่หยางกวนกวนถามเขาว่าวันนี้จะไปบ้านตระกูลเหลยหรือไม่

แล้วเขาก็ตระหนักได้ในตอนนั้น!

งานหยาบจริงๆ ด้วย!

ที่แท้ที่หยางกวนกวนถามแบบนั้น เพราะมีแผนนี่เอง...

เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ฉีเติ่งเสียนจำต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษและส่งเฉียวชิวเมิ่งขึ้นรถ

“อยากไปดื่มกาแฟที่บ้านฉันไหม ทักษะการบดกาแฟของฉันถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะ” หลังจากขึ้นไปบนรถ เฉียวชิวเมิ่งก็หันกลับมาพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ...เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว เราต้องเบาอารมณ์ลงสักหน่อย จะรีบร้อนเกินไปไม่ได้” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง

เฉียวชิวเมิ่งถอนหายใจก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะหนักแน่นกับเรื่องนี้ขนาดนี้ ก็ได้ เรื่องแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแหละเนอะ”

เธอยิ้มจางๆ และพูดว่า “งั้นไว้เจอกันใหม่นะ!”

“อืม ลาก่อน!” ฉีเติ่งเสียนโบกมือและพูดอย่างจริงจัง

เฉียวชิวเมิ่งขับรถออกไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีความโศกเศร้าหลงเหลืออยู่ในอากาศ

ฉีเติ่งเสียนกลอกตา ไม่คิดเลยว่าไอคิวของตัวเองจะถูกหยางกวนกวนบดขยี้ได้ จิ๊ ทำไมตอนนั้นเขาถึงโง่ขนาดนี้นะ

เฮ้อ อาจเป็นเพราะว่าชายคนนี้ซื่อสัตย์ ใจดี จริงใจเกินไป เขาจึงโกหกไม่เก่ง!

แต่ยังไงวันนี้ก็ยังมีเรื่องน่ายินดีอยู่ เพราะเขาได้เงินสามร้อยล้านดอลลาร์จากสวี่หู่

เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนกลับมาพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์ หยางกวนกวนก็เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจก่อนจะพูดขึ้นว่า “เป็นไงบ้าง เรื่องวันนี้คงราบรื่นดีสินะ ดื่มไวน์ฉลองมาแล้วนี่!”

ฉีเติ่งเสียนตอบว่า “ผมกินข้าวกับชิวเมิ่งเลยดื่มไวน์ไปสองสามแก้วและระลึกความหลังกัน อย่างที่คุณบอก เรื่องวันนี้ผ่านไปด้วยดี ผมหาเงินได้สามร้อยล้านดอลลาร์จากขี้มูกหนึ่งก้อน!”

หยางกวนกวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอรู้สึกว่าความสามารถในการทำให้คนอื่นตกหลุมพรางของฉีเติ่งเสียนนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สนที่จะปลอมแปลงยาต้านพิษขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่กลับแคะขี้มูกแล้วปั้นเป็นก้อนแบบส่งๆ...

ประเด็นก็คือสวี่หู่กลืนมันลงไปในคราวเดียว

เขาตายไปแล้ว แต่ถ้าถูกชันสูตรวิเคราะห์หาสาเหตุการตายและแคะก้อนขี้มูกออกจากท้อง ก็ไม่รู้ว่าแพทย์นิติเวชจะคิดเห็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามวิธีการหาเงินของฉีเติ่งเสียนวิธีนี้ก็ทำให้หยางกวนกวนได้เปิดโลกทัศน์พอสมควร และเธอก็มีความรู้สึกแวบขึ้นมาว่าการทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์อาจไม่ดีอีกต่อไป

ธุรกิจที่จริงจังทำเงินได้ไวเท่าเขาที่ไหนกันล่ะ

ฉีเติ่งเสียนดำเนินการต่อทันที เขาโอนเงินยี่สิบล้านดอลลาร์ให้กัปตันเรือซึ่งถือเป็นการชำระเงินล่วงหน้า ส่วนการชำระเงินครั้งต่อไปจะจ่ายเป็นก้อนหลังจากทำงานเสร็จ

“กัปตันคนนี้ไม่เรียกเงินมากเกินไปหน่อยเหรอ เงินตั้งยี่สิบล้านดอลลาร์ แถมยังเป็นแค่เงินมัดจำเนี่ยนะ?” หลังจากเห็นฉีเติ่งเสียนโอนเงิน หยางกวนกวนก็แทบจะหมดคำพูด

“ช่วยไม่ได้นี่ ตอนนี้พี่ชายเป็นผู้ก่อการร้าย เขาทำธุระให้ผม ผมก็ต้องเอาเงินให้เขา” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าคุณจะหาคนอื่น ผมคาดว่าคงไม่มีใครกล้าร่วมมือกับผม!”

หยางกวนกวนคิดตาม ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของฉีเติ่งเสียน ใครที่ไหนจะกล้าทำอะไรกับเขาอย่างโจ่งแจ้ง เพราะเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะถูกรวมไว้ในรายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดของผู้ก่อการร้ายและต้องกลายเป็นหนูข้างถนน

ทั้งสองพูดคุยเกี่ยวกับงานชุมนุมการต่อสู้ครั้งนี้ที่จัดขึ้นที่เซียงซาน

“การชุมนุมการต่อสู้ครั้งนี้ มีจ้านเฟยเป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้า แต่เฉินปาเซี่ยและเมิ่งเชียนเซิงจากสมาคมหงก็คู่ควรกับตำแหน่งปรมาจารย์เหมือนกัน! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็เป็นฮีโร่และปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายคนก็หลั่งไหลมาที่เซียงซาน นายแน่ใจเหรอว่าจะปรากฏตัวในนามของตัวเอง” หยางกวนกวนทราบดีว่าทักษะการต่อสู้ของฉีเติ่งเสียนไม่ธรรมดา แต่สีหน้าของเธอก็ยังตึงเครียด

“งั้นก็แล้วแต่นายเลย” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเกียจคร้าน

เขาคิดว่าคนอย่างเหยียนต้งนั้นน่าขยะแขยงมาก แล้วเขาก็เป็นพี่น้องกับเหยียนมู่หลง ดังนั้นจึงไม่เสียหายอะไรถ้าจะฆ่าเขา แต่ในเมื่อหวงชงต้องการแก้แค้นด้วยตัวเอง เช่นนั้นก็ตามแต่ที่เขาต้องการ

แต่ฉีเติ่งเสียนก็ไม่ลืมเตือนหวงชงว่า “นายต้องดูแลหนานอินอินให้ดีนะ ถ้าเหยียนต้งยังคิดจะทำเรื่องชั่วๆ อยู่ มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะบุกไปหาเด็กคนนี้”

หวงชงพยักหน้าอย่างเงียบๆ

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนพาทั้งสองไปฝึกกังฟูเสร็จ เขาก็โทรหาเฉินหยูและบอกว่าเข้าจะไปที่เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่

เฉินหยูตอบรับ “โอเค เดี๋ยวฉันไปบอกเฉินไห่ให้”

เฉินไห่เป็นผู้รับผิดชอบหลักของเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่และเป็นพ่อของเฉินจุ้นอี้

“ถ้าเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ร่วมมือกับผมในการโจมตีเหอกรุ๊ปจิวเวลรี่ คุณจะต้องสูญเสียจำนวนหนึ่ง เมื่อผมมีเงินมากขึ้น ผมจะชดเชยความสูญเสียเหล่านี้ให้พวกคุณ” ฉีเติ่งเสียนพูดเรื่องนี้อย่างสบายๆ

เขาต้องการรอให้ตระกูลเหอลงทุนเงินทั้งหมดของพวกเขากับอัญมณีและตกหลุมพรางอย่างสมบูรณ์เสียก่อน จากนั้นก็ปล่อยให้เฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ลดราคาหยกในตลาดลง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถสร้างแรงกระแทกอย่างใหญ่หลวงให้ตระกูลเหอได้! มีร้านเครื่องประดับที่มีมูลค่าตลาดน่ากลัวอยู่มากมายในเซียงซาน ลำพังแค่เฉินกรุ๊ปจะลดราคาหยกเพียงเจ้าเดียวก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก

แต่ว่าหากร้านขายเครื่องประดับเหล่านี้เห็นว่าพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้บีบเหอกรุ๊ปจิวเวลรี่ได้ พวกเขาก็อาจจะร่วมมือกันอย่างเงียบๆ

เฉินหยูกล่าวว่า “เพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนั้นหรอก”

หลังจากวางสาย ฉีเติ่งเสียนก็โทรหาหลงเฟยอวี่และตรงไปที่สำนักงานใหญ่ของเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่

เพียงฉีเติ่งเสียนและหลงเฟยอวี่ก้าวเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่ พวกเขาก็เห็น “แกะอ้วน” ที่พวกเขาเล็งไว้

จี้ข่ายกำลังคุยธุรกิจกับชายหนุ่มที่แต่งตัวภูมิฐานคนหนึ่ง “ปู่ของผมจะจัดงานวันเกิด ผมวางแผนที่จะมอบของขวัญสุดพิเศษให้เขา...คุณชายจุ้น คุณช่วยเลือกหยกที่ดีที่สุดของเฉินกรุ๊ปจิวเวลรี่และทำเป็นร้อยแปดขุนศึกเพื่อมอบให้เขา...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง