มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 98

ฉีเติ่งเสียนและหวงฉิงเกอเดินมาถึงฟลอร์เต้นรําที่จัดไว้ชั่วคราว และเริ่มเต้นรําไปตามจังหวะเพลงบรรเลง

หลี่เทียนลั่วได้เห็นฉากนั้นก็กําหมัดแน่น จนเล็บของเขาเจาะเข้าไปมือ แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอะไรเลย

“ไอ้คนนั้นมันเป็นใคร?!” หลี่เทียนลั่วหันไปถามคนข้างๆ

“ฉีเติ่งเสียน เป็นคนตระกูลฉีของเมืองหลวง”

“อะไรนะ?!” หลี่เทียนลั่วตกใจกลัว

“เพียงแต่เขาโดนไล่ออกจากตระกูลไปนานแล้ว และก่อนหน้านี้เขายังเคยเป็นคู่หมั้นของเทพแห่งสงครามหญิงอย่างอวี้เสี่ยวหลงอีกด้วยนะครับ”

“แต่ฝ่ายอวี้เสี่ยวหลงได้ฉีกสัญญาแต่งงานนั้นทิ้งไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้แต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งประธานเฉียวกรุ๊ปไปเรียบร้อยแล้วครับ”

“คุณชายหลี่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เขาไม่มีใครคอยสนับสนุน เขาเป็นเพียงแค่ผู้คุมเรือนจำที่ไร้ประโยชน์ก็เท่านั้น”

เมื่อหลี่เทียนลั่วได้ยินแบบนั้นก็โล่งอกทันที ที่แท้ก็เคยเป็นลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยแต่กลับถูกไล่ออกจากตระกูลมาแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องไปกลัว เพราะถ้าเขาอยากจัดการใครก็เพียงแค่ดีดนิ้วคนคนนั้นก็สามารถเข้าสู่ความตายได้ทันที

ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ตระกูลหนึ่งในจงไห่ และพวกเขาได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายชั่วอายุคน และได้เปิดศูนย์ศิลปะการต่อสู้ขึ้นทั่วในตงไห่

มวยตระกูลหลี่เป็นที่รู้จักในฐานะสมบัติของตงไห่

เมื่อหวงเหวินหลั่งเห็นลูกสาวของตัวเองทิ้งหลี่เทียนลั่วไปเต้นรํากับชายที่แต่งงานแล้วอย่างฉีเติ่งเสียน เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันทําให้เขาคิดได้มากมาย ตราบใดที่ลูกสาวของเขามีความสุขมันก็เพียงพอแล้ว

การได้จับมือน้อยๆอันละเอียดอ่อนของหวงฉิงเกอ ที่ค่อยขยับไปตามเพลงบรรเลงบนฟลอร์เต้นรํา ทำให้กระตุ้นความอิจฉาของหลายๆคนในงาน

“เขามีจิตสำนึกบ้างไหมที่คุณหนูหวงเชิญไปเต้นรำอย่างนั้น?”

“ดูเขาใส่ชุดแบบนั้นสิ มันเหมาะสมกับคุณหนูหวงแล้วเหรอ? ตอนนี้มีเพียงแค่คุณชายหลี่เท่านั้นแหละที่จะเหมาะสมที่สุด!”

“ไอ้ขยะแบบนั้นมาเต้นรำกับคุณหนูหวงเหรอ? ถุย!”

แม้ว่าฉีเติ่งเสียนจะเอาชนะเย่จีสงไปได้ แต่ทุกคนก็ยังดูถูกเขา ทุกคนดูถูกเหยียดหยามที่เห็นว่าเขาได้ขึ้นไปเต้นรํากับหวงฉิงเกอ

หวงฉิงเกอมองไปที่ฉีเติ่งเสียนและพูดอย่างจริงจังว่า: “ต้องขอขอบคุณคุณมากๆเลยนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงหนีจากหมอกควันในอดีตไม่ได้ และบางทีนั่นอาจเป็นจุดจบของชีวิตฉันก็ได้!”

“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องเล็กน้อยครับ” ฉีเติ่งเสียนยิ้ม

ถ้าเกิดว่าพั่งซิ่วอวิ๋นได้ยินประโยคนี้ เธอคงรู้สึกว่าเขาอวดดีอย่างแน่นอน

แต่หวงฉิงเกอไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอยิ้มและพูดว่า: “คุณได้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน ฉันควรจะตอบแทนคุณอย่างไรดี?”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างครุ่นคิดว่า: “เห็นคุณค่าของชีวิตและใช้ชีวิตให้มีความสุข!”

ในตอนท้ายของเพลง หวงฉิงเกอปล่อยมือของฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “ฉันขอเบอร์ติดต่อคุณหน่อยค่ะ!”

ฉีเติ่งเสียนมอบโทรศัพท์มือถือให้ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของฉีเติ่งเสียนและพิมพ์เบอร์ของตัวเองลงไป

เฉียวชิวเมิ่งได้เห็นฉากนี้จากระยะไกล ก็รู้สึกหงุดหงิดใจมากขึ้นกว่าเดิม หวงฉิงเกอเชิญฉีเติ่งเสียนให้ไปเต้นรําด้วยแล้วยังต้องแลกเบอร์โทรกันอีกเหรอ?

หลี่อวิ๋นหว่านกัดฟันแน่น——คุณฉีเป็นของฉัน ใครหน้าไหนจะเอาไปไม่ได้!

“คุณฉี คุณก็เกินไป ก็เห็นๆกันอยู่ว่าฉันเชิญคุณมาเต้นรํากับฉันก่อน” หลี่อวิ๋นหว่านพูดบ่นตอนที่ฉีเติ่งเสียนเดินกลับมา

หลังจากพูดจบ หลี่อวิ๋นหว่านก็ดึงตัวเขาไปที่ฟลอร์เต้นรําโดยไม่รอให้เขาพูดอะไร

ตอนแรกหลี่เทียนลั่วกำลังจะเดินเข้ามาเตือนฉีเติ่งเสียน แต่เพียงพริบตาเดียวฉีเติ่งเสียนก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งลากตัวออกไป เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกะพริบด้วยความประหลาดใจแล้วก็รู้สึกโมโห

“คิดไม่ถึงว่าไอ้ขยะนี่จะฮอตในหมู่ผู้หญิงขนาดนี้!” หลี่เทียนลั่วตะคอกอย่างไม่พอใจ

เฉียวชิวเมิ่งยังตกตะลึง เธอก็คิดไม่ถึงว่าหลี่อวิ๋นหว่านจะลากฉีเติ่งเสียนไปเต้นรำด้วย เธอทำได้เพียงแอบกัดฟันอยู่เงียบๆ

“ถ้าเขามาเชิญฉันเต้นรำอีกครั้ง ฉันก็จะไว้หน้าเต้นรำกับเขาสักหน่อย” เฉียวชิวเมิ่งแอบคิด “ฉันไม่ได้หึง ฉันแค่สงสารเขาเท่านั้น! เพราะถึงยังไงก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้าปฏิเสธเขาบ่อยๆอาจจะทำให้เขาเสียหน้าก็ได้”

ร่างกายของหลี่อวิ๋นหว่านเกือบจะอยู่ภายในอ้อมแขนของฉีเติ่งเสียน ด้วยหน้าอกที่สูงตระหง่านของเธอถูกกดลงเบาๆบนหน้าอกของเขาผ่านชุด

“ต่อไปนี้นายห้ามไปเต้นรำกับผู้หญิงคนอื่นอีก!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดจารุนแรงพร้อมกับจ้องไปที่ฉีเติ่งเสียนอย่างดุเดือด

“???” ฉีเติ่งเสียนมองเธอด้วยสีหน้าที่งงงวย

หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยความโกรธว่า: “ได้ยินที่ฉันบอกไหม?”

“เธอมีสิทธิ์อะไร?!” ฉีเติ่งเสียนถามกลับ

“ถึงอย่างไรก็ไม่ได้!” หลี่อิ๋นหว่านพูดอย่างไม่พอใจ และมือเล็กๆของเธอก็คว้าไปตรงที่เป้าของฉีเติ่งเสียนอย่างรุนแรง

การกระทํานี้คลุมเครือมาก แต่ทั้งสองก็ใกล้ชิดกันมากจนไม่มีใครสังเกตเห็นเลย

ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนกําลังจะโกรธ หลี่อิ๋นหว่านก็ปล่อยมือของเธอและพูดอย่างเขินอายว่า: “เห็นนายโอบกอดผู้หญิงอื่น แล้วฉันหึงนะสิ!”

หวงฉิงเกอหันหน้าไปมองฉีเติ่งเสียนที่กําลังเต้นรํากับหลี่อวิ๋นหว่าน เขามีสีหน้าทีเรียบเฉย เป็นเรื่องปกติสําหรับผู้ชายที่มีความสามารถจะดึงดูดผู้หญิงได้

เธอนิ่งสงบไม่ไหวติงไปกับสิ่งเร้าพวกนี้ เพราะเธอมั่นใจในคุณภาพและภูมิหลังครอบครัวของเธอมาก!

ฉีเติ่งเสียนชายหนุ่มที่เติบโตมาในคุกไม่เคยเจอวิธีการจู่โจมของผู้หญิงแบบนี้มาก่อน เขาหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่หลี่อวิ๋นหว่านด้วยสีหน้าทั้งเขินอายและไม่พอใจ ภายในท้องเต็มไปด้วยความร้อนแรงแต่ไม่สามารถระบายออกมาได้

“ได้ มันเป็นความผิดของฉันที่ฉันไม่เคยเห็นโลกภายนอก!” ฉีเติ่งเสียนกล่าวในใจและทนกับการบีบคั้นเมื่อกี้

ฉีเติ่งเสียนไม่ใช่คนดีและอ่อนโยนอะไร เขาใช้มือใหญ่โอบรัดเอวบาง จากนั้นก็เลื่อนลงบีบสัมผัสกับจุดที่ยืดหยุ่นที่สุด!

“อ่า……” หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว ทำให้ร่างของเธอซบอยู่ภายใต้อ้อมแขนของเขา

ผิวที่บอบบางนุ่มละมุนอยู่ภายในอ้อมกอด กลิ่นน้ำหอมชวนหลงใหลทำให้ฉีเติ่งเสียนถึงกับเกร้งตัวแทบไม่อยู่ เมื่อหลี่อวิ๋นหว่านยืนได้แล้ว เขาก็รีบปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“ทั้งขาวและใหญ่……” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงมันอีกครั้ง

หลี่อวิ๋นหว่านหน้าแดงเล็กน้อย มองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยรอยยิ้มและพูดว่า: “คุณฉีค่อนข้างขี้อายนะเนี่ย คุณคงไม่เคยได้แตะต้องผู้หญิงเลยใช่ไหม?”

ฉีเติ่งเสียนเท้าเอวและพูดว่า: “ไร้สาระ ผมอยู่ท่ามกลางดอกไม้หลายพันดอก ผู้หญิงไม่เคยขาด”

“คุกของนายขังรวมทั้งหญิงและชายเหรอ?” หลี่อวิ๋นหว่านมองหน้าฉีเติ่งเสียนอย่างหมั่นไส้

ฉีเติ่งเสียนสีหน้าดูอึกอัก ก่อนที่จะกระแอมและพูดว่า: “ที่นั่นไม่ได้ขังรวมก็จริง……แต่ผมก็เคยเป็นลูกหลานตระกูลคนรวยมาก่อน มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีผู้หญิงเข้ามามากมาย?”

หลี่อวิ๋หว่านมองเขาด้วยความไม่เชื่อเป็นเวลานาน ก่อนจะยิ้มและพูดว่า: “นายน่ารักจัง”

ในขณะเดียวกัน หลี่เทียนลั่วก็เดินตรงเข้ามาหาฉีเติ่งเสียน

“คุณชายหลี่!” เมื่อหลี่อวิ๋นหว่านเห็นหลี่เทียนลั่วเดินเข้ามา ก็พูดทักทายอย่างสุภาพ

“อือ……” หลี่เทียนลั่วทำเสียงขึ้นจมูกโดยไม่พูดไม่จา แล้วมายืนอยู่ตรงด้านหน้าฉีเติ่งเสียน

คนหนึ่งสวมใส่ชุดสูทแบรนด์ดัง รูปร่างดูดีสง่างาม ส่วนอีกคนสวมใส่ชุดลำลองธรรมดาไม่เหมือนคนอื่น

ฉีเติ่งเสียนยิ้ม ก่อนจะพูดว่า : “มีธุระอะไร?”

หลี่เทียนลั่วกล่าวว่า: “ทางที่ดีอยู่ให้ห่างจากคุณหนูหวงเอาไว้ และอย่าให้ฉันเห็นว่าแกอยู่กับเธออีก ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน!”

“ถ้ามือข้างไหนของแกไปแตะต้องเธออีก ฉันจะตัดมือนั้นของแกเอง”

"แกไม่สามารถแม้แต่จะมองเธอได้อีก!"

“ไม่อย่างนั้น ฉันจะควักลูกตาแกออกมาเอง!”

“เข้าใจแล้วใช่ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง