ฉีเติ่งเสียนและหวงฉิงเกอเดินมาถึงฟลอร์เต้นรําที่จัดไว้ชั่วคราว และเริ่มเต้นรําไปตามจังหวะเพลงบรรเลง
หลี่เทียนลั่วได้เห็นฉากนั้นก็กําหมัดแน่น จนเล็บของเขาเจาะเข้าไปมือ แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอะไรเลย
“ไอ้คนนั้นมันเป็นใคร?!” หลี่เทียนลั่วหันไปถามคนข้างๆ
“ฉีเติ่งเสียน เป็นคนตระกูลฉีของเมืองหลวง”
“อะไรนะ?!” หลี่เทียนลั่วตกใจกลัว
“เพียงแต่เขาโดนไล่ออกจากตระกูลไปนานแล้ว และก่อนหน้านี้เขายังเคยเป็นคู่หมั้นของเทพแห่งสงครามหญิงอย่างอวี้เสี่ยวหลงอีกด้วยนะครับ”
“แต่ฝ่ายอวี้เสี่ยวหลงได้ฉีกสัญญาแต่งงานนั้นทิ้งไปแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้แต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งประธานเฉียวกรุ๊ปไปเรียบร้อยแล้วครับ”
“คุณชายหลี่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เขาไม่มีใครคอยสนับสนุน เขาเป็นเพียงแค่ผู้คุมเรือนจำที่ไร้ประโยชน์ก็เท่านั้น”
เมื่อหลี่เทียนลั่วได้ยินแบบนั้นก็โล่งอกทันที ที่แท้ก็เคยเป็นลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยแต่กลับถูกไล่ออกจากตระกูลมาแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องไปกลัว เพราะถ้าเขาอยากจัดการใครก็เพียงแค่ดีดนิ้วคนคนนั้นก็สามารถเข้าสู่ความตายได้ทันที
ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ตระกูลหนึ่งในจงไห่ และพวกเขาได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายชั่วอายุคน และได้เปิดศูนย์ศิลปะการต่อสู้ขึ้นทั่วในตงไห่
มวยตระกูลหลี่เป็นที่รู้จักในฐานะสมบัติของตงไห่
เมื่อหวงเหวินหลั่งเห็นลูกสาวของตัวเองทิ้งหลี่เทียนลั่วไปเต้นรํากับชายที่แต่งงานแล้วอย่างฉีเติ่งเสียน เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย แต่ก็พูดอะไรไม่ได้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันทําให้เขาคิดได้มากมาย ตราบใดที่ลูกสาวของเขามีความสุขมันก็เพียงพอแล้ว
การได้จับมือน้อยๆอันละเอียดอ่อนของหวงฉิงเกอ ที่ค่อยขยับไปตามเพลงบรรเลงบนฟลอร์เต้นรํา ทำให้กระตุ้นความอิจฉาของหลายๆคนในงาน
“เขามีจิตสำนึกบ้างไหมที่คุณหนูหวงเชิญไปเต้นรำอย่างนั้น?”
“ดูเขาใส่ชุดแบบนั้นสิ มันเหมาะสมกับคุณหนูหวงแล้วเหรอ? ตอนนี้มีเพียงแค่คุณชายหลี่เท่านั้นแหละที่จะเหมาะสมที่สุด!”
“ไอ้ขยะแบบนั้นมาเต้นรำกับคุณหนูหวงเหรอ? ถุย!”
แม้ว่าฉีเติ่งเสียนจะเอาชนะเย่จีสงไปได้ แต่ทุกคนก็ยังดูถูกเขา ทุกคนดูถูกเหยียดหยามที่เห็นว่าเขาได้ขึ้นไปเต้นรํากับหวงฉิงเกอ
หวงฉิงเกอมองไปที่ฉีเติ่งเสียนและพูดอย่างจริงจังว่า: “ต้องขอขอบคุณคุณมากๆเลยนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงหนีจากหมอกควันในอดีตไม่ได้ และบางทีนั่นอาจเป็นจุดจบของชีวิตฉันก็ได้!”
“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องเล็กน้อยครับ” ฉีเติ่งเสียนยิ้ม
ถ้าเกิดว่าพั่งซิ่วอวิ๋นได้ยินประโยคนี้ เธอคงรู้สึกว่าเขาอวดดีอย่างแน่นอน
แต่หวงฉิงเกอไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอยิ้มและพูดว่า: “คุณได้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน ฉันควรจะตอบแทนคุณอย่างไรดี?”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างครุ่นคิดว่า: “เห็นคุณค่าของชีวิตและใช้ชีวิตให้มีความสุข!”
ในตอนท้ายของเพลง หวงฉิงเกอปล่อยมือของฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “ฉันขอเบอร์ติดต่อคุณหน่อยค่ะ!”
ฉีเติ่งเสียนมอบโทรศัพท์มือถือให้ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของฉีเติ่งเสียนและพิมพ์เบอร์ของตัวเองลงไป
เฉียวชิวเมิ่งได้เห็นฉากนี้จากระยะไกล ก็รู้สึกหงุดหงิดใจมากขึ้นกว่าเดิม หวงฉิงเกอเชิญฉีเติ่งเสียนให้ไปเต้นรําด้วยแล้วยังต้องแลกเบอร์โทรกันอีกเหรอ?
หลี่อวิ๋นหว่านกัดฟันแน่น——คุณฉีเป็นของฉัน ใครหน้าไหนจะเอาไปไม่ได้!
“คุณฉี คุณก็เกินไป ก็เห็นๆกันอยู่ว่าฉันเชิญคุณมาเต้นรํากับฉันก่อน” หลี่อวิ๋นหว่านพูดบ่นตอนที่ฉีเติ่งเสียนเดินกลับมา
หลังจากพูดจบ หลี่อวิ๋นหว่านก็ดึงตัวเขาไปที่ฟลอร์เต้นรําโดยไม่รอให้เขาพูดอะไร
ตอนแรกหลี่เทียนลั่วกำลังจะเดินเข้ามาเตือนฉีเติ่งเสียน แต่เพียงพริบตาเดียวฉีเติ่งเสียนก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งลากตัวออกไป เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกะพริบด้วยความประหลาดใจแล้วก็รู้สึกโมโห
“คิดไม่ถึงว่าไอ้ขยะนี่จะฮอตในหมู่ผู้หญิงขนาดนี้!” หลี่เทียนลั่วตะคอกอย่างไม่พอใจ
เฉียวชิวเมิ่งยังตกตะลึง เธอก็คิดไม่ถึงว่าหลี่อวิ๋นหว่านจะลากฉีเติ่งเสียนไปเต้นรำด้วย เธอทำได้เพียงแอบกัดฟันอยู่เงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...