มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 99

กิริยาท่าทางของหลี่เทียนลั่วไม่ได้เพียงดูหยิ่งจองหอง แต่การวางตัวราวกับว่ากำลังพูดคุยกับมดตัวเล็กๆ

ก่อนที่ฉีเติ่งเสียนจะทันได้พูดอะไร หลี่อวิ๋นหว่านก็แทรกขึ้นมาว่า “คุณชายหลี่ ถ้าคุณหนูหวงเป็นฝ่ายเข้าหาเขา เขาคงไม่จำเป็นต้องซ่อนหลบๆหรือเปล่า?”

หลี่เทียนลั่วยิ้มเยาะและพูดว่า: “หากคุณหวงเป็นคนเริ่มเข้าหา ฉันก็ต้องทำลายเขา! นี่คือคำพูดและคำมั่นของฉัน!”

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกเพียงว่าหลี่เทียนลั่วมีอำนาจบารมีสูงแต่เป็นคนไม่มีเหตุผล เธอไม่อาจจะทำให้เขาขุ่นเคืองได้ ทำได้เพียงส่ายหัวเท่านั้น

“ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา...”

“ตระกูลหลี่เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในเขตตงไห่ และมีค่ายมวยเปิดให้บริการทั่วเขตตงไห่!”

“ประชาชนของพวกเขามีอำนาจเหนือกว่าและพละกำลังสูง”

“ถ้าทำให้เขาโกรธก็จะโดนถูกทุบตีเอาได้ แบบนั้นมันจะทำให้ฉันรู้สึกแย่.....”

หลี่อวิ๋นหว่านจับแขนเสื้อของฉีเติ่งเสียนเบา ๆ กระซิบด้วยความกลัวว่าเขาจะโกรธและเผชิญซึ่งๆหน้ากับหลี่เทียนลั่ว

ฉีเติ่งเสียนเยาะเย้ยเหยียดหยัดและพูดว่า “งั้นเธอต้องตัดมือและควักลูกตาของฉันออกแล้วล่ะ?”

หลังจากพูดจบ เขาก็ตะโกนพูดเสียงดัง: “หวงฉิงเกอ!”

“ฮะ?” หวงฉิงเกอที่กำลังคุยกับเพื่อนของเธอ หันมามองเมื่อได้ยิน ฉีเติ่งเสียนเรียกเธอ

“มานี่หน่อยสิ” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม

จู่ๆ สีหน้าของหลี่เทียนลั่วก็เปลี่ยนไป ผู้ชายคนนี้คงไม่ทรยศกันหรอกใช่ไหม? เพิ่งจะเตือนเขาไป แต่กลับจะฟ้องหวงฉิงเกอ? เป็นลูกผู้ชายแน่หรือ?

หวงฉิงเกอเดินเข้ามาพูดกับฉีเติ่งเสียน: “คุณฉี เรียกฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ?”

“ไม่มีอะไร ผมแค่คิดว่าวันนี้คุณแต่งตัวสวยมาก ผมแค่อยากมองมันให้เต็มๆตาน่ะ” ฉีเติ่งเสียนมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของหวงฉิงเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลี่เทียนลั่วที่อยู่ด้านข้างโกรธมากจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกจนปัญญา อยากจะหัวเราะออกมา ฉีเติ่งเสียนเป็นคนที่ใครก็ฉุดไม่อยู่ ยิ่งบอกเขาว่าอย่าทำ เขาก็ยิ่งจะทำและจะทำให้เห็นต่อหน้าด้วย

หวงฉิงเกอหน้าแดง เมื่อได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน ไม่สามารถซ่อนความดีใจไว้ได้ และพูดด้วยรอยยิ้ม: “แน่นอน วันนี้ฉันแต่งตัวปราณีตอย่างดี”

“ว้าว มือของคุณขาวเนียนมาก ขอผมดูหน่อยได้ไหม?” ฉีเติ่งเสียนยื่นมือขวาออกมา

“ฮะ?” หวงฉิงเกอตกตะลึงและยื่นมือออกมาให้เขาจับโดยไม่รู้ตัว

ฉีเติ่งเสียนจับมือเล็กๆ ของหวงฉิงเกอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณต้องดูแลผิวมือดีมากแน่ๆ ผิวนุ่มมาก!”

หลี่เทียนลั่วโกรธมากกับภาพตรงหน้า จนร่างกายของเขาเริ่มสั่น เขาคิดจะผลัก ฉีเติ่งเสียนลงไปบนพื้นแล้วทุบตีให้หน่ำใจ!

“ฮู้ว—”

หลี่เทียลั่วหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามระงับสงบสติอารมณ์ลงในที่สุด

“เอาล่ะ ไม่มีอะไร ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้น” ฉีเติ่งเสียนปล่อยมือของหวงฉิงเกอแล้วยิ้มเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปทักทายเพื่อนๆ ก่อน แล้วฉันจะคุยกับคุณทีหลังนะ” หวงฉิงเกอกล่าว

ฉีเติ่งเสียนรออย่างอดทนจนกระทั่ง หวงฉิงเกอจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันที ก่อนจะพูดกับหลี่เทียนลั่ว : “คุณชายหลี่ ไหนลองควักลูกตาของผมและตัดมือของผมออกสิ ผมคอยดูอยู่!”

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอเต้นด้วยความกลัว นายคนนี้อยากเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากใช่ไหม?

หลี่เทียนลั่วเพิ่งเตือนเขา แต่เขากลับหันไปเรียกหวงฉิงเกอเพื่อทำทุกอย่างที่หลี่เทียนลั่วเอ่ยเตือนเขา

นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าหลี่เทียนลั่วที่คุยโว้ ทำให้รู้ว่าเขาไม่เห็นหลี่เทียนลั่วในสายตาเลย

“ฉีเติ่งเสียนใช่ไหม? ดีมาก ดีมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนหยิ่งผยองและหยาบคายเหมือนนาย” หลี่เทียนลั่วพูดด้วยความโกรธ

“หยิ่งผยอง? หยาบคาย? ดูเหมือนจะพูดถึงตัวคุณเองใช่ไหม?” ฉีเติ่งเสียนมองไปที่หลี่เทียวลั่วอย่างไม่สะทกสะท้าน

หลี่เทียนลั่วคิดจะกดฉีเติ่งเสียนลงแล้วลากไปกับพื้น แต่นี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหวงฉิงเกอ มีคนเข้าๆออกๆ เดินรอบเต็มไปหมด ดังนั้นเขาจึงทำอย่างนั้นไม่ได้

หลี่เทียนลั่วหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งแล้วพูดช้า ๆ: “ได้ได้ได้ รอฉันก่อนเถอะ!”

“เมื่องานเลี้ยงวันเกิดของคุณหวงจบ แล้วฉันจะชำระบัญชีนี้กับนาย”

“เมื่อถึงเวลา ฉันหวังว่านายจะแข็งแกร่งเหมือนตอนนี้นะ!”

ฉีเติ่งเสียนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เขาไม่สนใจภัยคุกคามนี้เลย ทำไมถึงต้องวุ่นวายกับเรื่องที่ คุณก็สามารถทำได้?

“ขี้โม้” ฉีเติ่งเสียนพูดเบาๆ

หลี่เทียนลั่วที่กำลังจะจากไป หยุดชะงัก เกือบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินเพราะสองคำนั้น!

หลี่อวิ๋นหว่านมองฉีเติ่งเสียนอย่างตกตะลึง รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ยั่วโมโหคนได้เก่งมาก...

“เฮ้ นายช่วยหยุดสร้างปัญหาหน่อยได้ไหม? ไม่มีอะไรระหว่างนายกับคุณหนูหวงฉิงเกอ ทำไมนายไม่อธิบายดีๆล่ะ?” หลี่อวิ๋นหว่านถามด้วยความไม่พอใจ

“ถ้ากิริยาท่าทางของผู้ชายคนนั้นจริงใจและให้เกียรติกัน ฉันอาจจะสุภาพกับเขามากกว่านี้ แต่เพราะฉันไม่ชอบกิริยาท่าทางของเขาไงล่ะ!” ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว

ฉีเติ่งเสียนไม่ชอบคนเย่อหยิ่ง ขนาดสาวสวยอย่างอวี้เสี่ยวหลงและสวีเอ้าเสวี่ยนับประสาอะไรกับชายร่างใหญ่ที่แบบนี้?

“เมื่อกี้มือของหวงฉิงเกอ นุ่มสบายดีหรือเปล่า?” หลี่อวิ๋นหว่านจู่ๆ ก็คว้าคอเสื้อเขามา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเย็นชา

“ก็ดี! เธอมาจับฉันทำไม?” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างไม่พอใจ

“ฉันหึง!” หลี่อวิ๋นหว่านโกรธมากและเขย่าเขาสองสามครั้ง

ฉีเติ่งเสียนจึงพูดว่า: “ชิวเมิ่ง ยังไม่หึงด้วยซ้ำ เธอจะมาหึงอะไร?”

หลี่อวิ๋นหว่านถึงกับพูดไม่ออก เฉียวชิวเมิ่งเป็นภรรยาที่แท้จริงของฉีเติ่งเสียน ไม่ว่าอย่างไร เธอไม่มีเหตุผลที่จะหึงจริงๆ

ฉีเติ่งเสียนจู่ๆก็พูดขึ้นมา: “เธอจงใจจะสานความสัมพันธ์กับฉัน และปล่อยให้ชิวเมิ่ง เข้าใจผิดว่าฉันเป็นผู้ชายสารเลว เพื่อที่เธอจะได้ทำตัวเปิดเผยหลังจากฉันหย่าใช่ไหม?”

“ไปตายซะ!” หลี่อวิ๋นหว่านเอื้อมมือไปเคาะหน้าผากของเขา หันหลังกลับ และเดินจากไปด้วยความโกรธ

ฉีเติ่งเสียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาได้ฟังการสนทนาระหว่างหลี่อวิ๋นหว่านและเฉียวชิวเมิ่งบนเฮลิคอปเตอร์ไม่ผิดแน่

“เป็นไปได้ไหมว่าเธอสนใจฉันจริงๆ”

ฉีเติ่งเสียนทบทวนอยู่ในใจ และเดินกลับไปหาเฉียวชิวเมิ่งอย่างเงียบ ๆ

เฉียวชิวเมิ่งกำลังคุยกับเพื่อน ๆ เมื่อเธอเห็นฉีเติ่งเสียนเดินกลับมาอย่างสบาย ๆ เธอตะโกนร้องอยู่ในใจ: “ถ้านายชวนและขอร้องฉันอีกครั้ง ฉันจะตกลงเต้นรำกับนายแม้เต้นไม่เป็นก็ตาม!”

หลังจากคอยอยู่นาน ฉีเติ่งเสียนก็ไม่พูดอะไร เธอจึงขมวดคิ้วและถามว่า “นายยังอยากชวนฉันเต้นรำอยู่ไหม?”

“ช่างมันเถอะ คุณบอกว่าเต้นไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น

เฉียวชิวเมิ่งโกรธมากจนการมองเห็นมืดลง และความหดหู่ในอกของเธอก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะทำให้เธอหายใจไม่ออกเหมือนจะตายให้ได้

เมื่อดูฉีเติ่งเสียนกับหวงฉิงเกอเต้นรำกัน เฉียวชิวเมิ่งก็รู้สึกถึงความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ในใจ

เมื่อเห็นคำพูดและการกระทำที่คลุมเครือระหว่างเขากับหลี่อวิ๋นหว่าน เธอก็รู้สึกแย่ลงไปอีก

ตอนนี้คำพูดของฉีเติ่งเสียนเกือบจะทำให้เธอโกรธจนแทบจะบ้า

ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ: ช่างมันเถอะ เธอบอกว่าเต้นไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?

ความฉลาดทางอารมณ์สูง: ไม่เป็น? ถ้าอย่างนั้นให้ผมจะสอนคุณเอง!

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนเป็นผู้ชายที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ

“เขามีดีอะไร? เขาคู่ควรกับคำเชิญของหวงฉิงเกอหรือ? แม้แต่อวิ๋นหว่านก็มองเขาต่างจากเดิม!” เฉียวชิวเมิ่งบดกรามขบคิดถึงเรื่องนี้

ในขณะนี้มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินเข้ามาใกล้ ส่งเสียงดัง กำลังร่อนลงจอดบนดาดฟ้า

“ผลั๊ก!”

โลงศพขนาดใหญ่ถูกเตะออกจากเฮลิคอปเตอร์และกระแทกบนดาดฟ้าเสียงดัง

ผู้คนในที่เกิดเหตุตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้...

คนที่มาเป็นใครกัน? กล้าเอาโลงศพมาในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ครอบครัวหวงจัดขึ้นได้อย่างไร!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง