มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 980

สรุปบท บทที่ 980 โรงพยาบาลไร้ศีลธรรม: มังกรผู้ทรงพลัง

สรุปเนื้อหา บทที่ 980 โรงพยาบาลไร้ศีลธรรม – มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บท บทที่ 980 โรงพยาบาลไร้ศีลธรรม ของ มังกรผู้ทรงพลัง ในหมวดนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จาง หลงหู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฉีเติ่งเสียนยังรู้สึกผิดมากเรื่องที่คราวก่อนเขากับเจียงชิงเย่ว์ทะเลาะจนแยกทางกัน เมื่อมาถึงทางเข้าโรงพยาบาลเขาจึงซื้อดอกไม้ติดมือไปด้วยช่อหนึ่ง

เจิ้งโหยวปินรออย่างกระสับกระส่ายที่ประตูหน้าอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนเดินเข้ามาเขาจึงรีบเข้าไปทักทายทันที

“ในที่สุดคุณก็มาเสียที ประธานหลี่ คนในโรงพยาบาลไร้ศีลธรรมนี่ไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ ยื้อเวลามาทั้งคืนเลย! หนำซ้ำที่ด้านนอกยังมีพวกเหลือขอตั้งมากมาย ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยจริงๆ!” เจิ้งโหยวปินลากแขนฉีเติ่งเสียนพลางพูดไปด้วย เวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

“คุณน้องล่ะ? อาการเป็นยังไงบ้าง” ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วถาม

“อาการของคุณเจียงยังทรงตัวอยู่ แต่ว่าจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด!” เจิ้งโหยวปินเอ่ยอย่างรีบร้อนพลางเดินนำฉีเติ่งเสียนขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเข้ามาในห้องคนไข้ ฉีเติ่งเสียนจึงเห็นเสื้อผ้าขาดวิ่นเปื้อนเลือดและเจียงชิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียง

เมื่อเจียงชิงเย่ว์เห็นเขา ดวงตาที่สวยงามของเธอก็แดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น

ฉีเติ่งเสียนสำรวจอาการบาดเจ็บของเธออย่างระมัดระวังก่อนสิ่งอื่นใด จากนั้นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกและบอกว่า “อาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงมาก คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมจะรีบจัดการรักษาให้คุณเดี๋ยวนี้ละ”

ขณะที่พูดเขาก็วางดอกไม้ลงบนโต๊ะข้างเตียงของเจียงชิงเย่ว์

น้ำตาของเจียงชิงเย่ว์หลั่งไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

“นี่ ทำไมยังร้องไห้อีกล่ะ” ฉีเติ่งเสียนถาม

“ในที่สุดคุณก็รู้วิธีมอบดอกไม้ให้ฉันสักที!” เจียงชิงเย่ว์พูดอย่างน้อยใจ “วันนั้นทำไมไม่รู้จักเอามาให้!”

“คุณอยากได้ดอกไม้คุณก็บอกตรงๆ สิ!” ฉีเติ่งเสียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี รู้สึกว่าวงจรสมองของผู้หญิงคนนี้ช่างประหลาดจริงๆ ตัวเองถูกรถชนจนบาดเจ็บแท้ๆ แต่ยังเอาประเด็นเรื่องดอกไม้มาปนกันได้

เจียงชิงเย่ว์อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และบอกว่า “ฉันอยากได้ดอกไม้ แต่ฉันจะบอกคุณว่าฉันอยากได้ดอกไม้ไม่ได้”

“ฉันไม่อยากให้คุณมอบดอกไม้ให้ฉันเพียงเพราะว่าฉันอยากได้!”

“แต่ฉันอยากให้คุณมอบดอกไม้ให้ฉันเพราะคุณอยากให้!”

“คุณเข้าใจไหม?”

เมื่อเห็นว่าเจียงชิงเย่ว์กลายเป็นคนช่างพูดอีกครั้ง ฉีเติ่งเสียนที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึง

จากนั้นครู่ใหญ่เขาจึงพึมพำอย่างอดไม่ได้ว่า “แม่งเอ้ย...”

ทว่าเจียงชิงเย่ว์กลับมีประสาทหูที่ว่องไว เมื่อได้ยินเธอก็พูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “คุณว่าไงนะ!"

ฉีเติ่งเสียนโบกมือและบอกว่า “เปล่าๆ ไม่มีอะไร เรามาจัดการเรื่องสำคัญกันก่อนดีกว่า ผมช่วยจัดการกับกระดูกที่หักขอคุณได้”

“เร็วเข้า ทำไมยังไม่ส่งคนไข้ไปอีก? เตียงที่โรงพยาบาลมีจำกัด อย่าปล่อยให้มาใช้ส้วมเฉยๆ โดยไม่อึ!”

ขณะที่เจียงชิงเย่ว์กำลังจะระบายความโกรธออกมา ใครคนหนึ่งก็มาช่วยผู้ชายเฮงซวยนี่ไว้ทัน ซึ่งคนคนนั้นก็คือผู้อำนวยการอู๋แห่งโรงพยาบาลอ้ายคัง

ผู้อำนวยการอู๋เป็นหญิงสาวอายุห้าสิบกว่าๆ ไว้ผมทรงหยิกยาว สวมแว่นตาไว้บนสันจมูก

เจิ้งโหยวปินเอ่ยอย่างโมโหเกินทนว่า “คุณอู๋ อย่าให้มันมากเกินไปนะคุณ! คุณจงใจยื้อเวลารักษาคุณเจียง แล้วทีนี้ก็จะมาบอกว่ารักษาไม่ได้อย่างงั้นหรือ? บอกให้พวกคุณเตรียมเปลหามกับรถพยาบาลไว้ แต่พวกคุณก็ยังแก้ตัวหลบเลี่ยง นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่”

ผู้อำนวยการอู๋กลับหัวเราะเยาะและเอ่ยว่า “หมายความว่ายังไง? พวกเธอมันตาไม่มีแวว ไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน แบบนี้ยังจะถามฉันอีกเหรอว่าหมายความว่ายังไง?”

ฉีเติ่งเสียนไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่ก้มลงหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพับอย่างเรียบร้อย จากนั้นจึงยัดใส่ไปในปากของเจียงชิงเย่ว์

เจียงชิงเย่ว์ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะตกใจเบิกตากว้าง

ทว่าฉีเติ่งเสียนยกมือข้างที่บาดเจ็บของเธอขึ้นมาแล้ว จากนั้นจึงตามมาด้วยเสียงแกร๊กขณะที่กระดูกถูกจัดให้กลับเข้าที่

เจียงชิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียงเกือบจะเด้งตัวขึ้นมาเพราะความเจ็บ บนหน้าผากของเธอมีเหงื่อผุดพราย เหงื่อทำให้บาดแผลที่ยังไม่หายดีชื้นขึ้นและทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความเจ็บปวด

“โฮะ คิดไม่ถึงว่าเจ้าหนุ่มนี่จะมีความสามารถกับเขาด้วย รู้วิธีต่อกระดูกด้วยเรอะ?”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฉีเติ่งเสียน เขากล่าวว่า “ถ้างั้นโรงพยาบาลของพวกคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องเปิดอีกต่อไป”

ผู้อำนวยการอู๋ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ เธอบอกว่า “นายคิดว่านายเป็นใคร รู้ไหมว่าทุกๆ ปี โรงพยาบาลอ้ายคังของเรามีส่วนช่วยในการเก็บภาษีให้เซียงซานตั้งเท่าไรต่อเท่าไร นายเป็นใครถึงมาสั่งให้ปิดก็จะปิด”

พวกที่อยู่ข้างๆ ผู้อำนวยการอู๋ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเหยียดหยาม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอ้ายคัง

เคยเกิดปัญหาในการคลอดกับหญิงตั้งครรภ์หลายคนที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทั้งยังมีครอบครัวหนึ่งชูป้ายเตรียมจะกระโดดลงจากตึก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ถูกจัดการไม่ใช่หรือ?

“พาน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นก่อน ถ้ามีอาการบาดเจ็บอะไรเกิดขึ้นใหม่ โรงพยาบาลแห่งนี้จะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง!” ฉีเติ่งเสียนบอกเจิ้งโหยวปิน

“ครับ!” เจิ้งโหยวปินรีบตอบรับทันที

ผู้อำนวยการอู๋เอ่ยอย่างยิ้มเยาะว่า “ก่อนจะไปช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลสองแสนมาก่อน! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าคนของฉันป่าเถื่อนล่ะ!"

ฉีเติ่งเสียนก้าวเข้าไปหาอย่างหมดความอดทนและตบหน้าหญิงแก่ปากจัดจนล้มลงกับพื้น

ผู้อำนวยการอู๋ล้มลงไปบนพื้นและตกตะลึง เธอเอามือกุมหน้าของตัวเองด้วยความสับสนมึนงง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ความรักษาความปลอดภัยก็ได้สติและคิดจะลงมือ แต่ฉีเติ่งเสียนเอ่ยขึ้นมาว่า “ใครกล้ามายุ่ง ฉันจะฆ่าให้หมด!"

น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามและจิตสังหารที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว!

บุคลิกเช่นนี้ดูเป็นอภิปรัชญามากๆ

แต่บุคลิกลักษณ์ของฉีเติ่งเสียนในตอนนี้กลับทำให้ผู้คนสัมผัสได้อยากลึกซึ้ง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้เองก็เคยเห็นโลกมามาก คำพูดเหล่านี้ทำให้พวกเขารู้สึกสั่นสะท้านและขนลุกขนพองไปตามๆ กัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง