นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร นิยาย บท 27

มู่หรงจิ่นมองตามเสียงไป ก็เห็นผู้ชายมากกว่าสองคนอยู่ที่ประตูทางเข้าจินหลิงถัง

คนหนึ่งสวมชุดหัวฝูสีม่วง อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี ผมของเขาถูกมัดด้วยริบบิ้นสีม่วง และใช้ปิ่นปักมวยผมสีทองปักเอาไว้ให้แน่นอีกทีหนึ่ง

คิ้วดาบคู่หนึ่งขมวดขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่กำลังมองดูเด็กหญิงและเด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้น ใบหน้าของสง่างามในขณะนี้เย็นชาดุจดั่งน้ำแข็ง ซึ่งมีมุมคมเด่นชัด เขาเม้มริมฝีปากบางๆเล็กน้อย

ถึงแม้จะเป็นเพราะว่ากลุ่มคนที่มุงดูเด็กหนุ่มและเด็กสาว ได้เห็นรูปลักษณ์ของชายที่สวมชุดหัวฝูสีม่วงในขณะนี้ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะจับจ้องและถอนหายใจเช่นกัน

อีกหนึ่งคนสวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้ม อายุสิบแปดสิบเก้าปี คิ้วหนาตาโต ท่าทางกระฉับกระเฉง แล้วก็เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับชายที่สวมชุดหัวฝูสีม่วงที่อยู่ข้างๆแล้ว เขากลับดูด้อยกว่านิดหน่อย

ในขณะนี้ชายที่กำลังสวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้มอยู่รู้สึกโมโหและไม่พอใจ จึงชี้ไปที่พนักงานของจินหลิงถัง คิดว่าคนที่ตะโกนให้หยุดเมื่อสักครู่นี้จะต้องเป็นผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน

“นายท่านทั้งสองสั่งว่าอย่างไรนะ?”

พนักงานกำลังคิดจะเอ่ยปากด่าว่าเป็นผู้ใดกันถึงชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่นนัก ใครจะรู้เล่าว่าสิ่งที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาตอนที่เงยหน้าขึ้นมาก็คือหยกแขวนชั้นหนึ่ง ซึ่งคนที่สามารถแขวนหยกแขวนได้นั้น จะต้องร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจะล่วงเกินไม่ได้

“เหตุใดถึงไม่รักษาให้เด็กหนุ่มคนนี้ล่ะ?”

ชายที่สวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้มซักถามพนักงาน

“นายท่านผู้นี้ ได้โปรดช่วยพี่ชายของข้าด้วย!”

พอแม่นางน้อยเห็นว่ามีคนออกหน้ามาพูดแทนพวกเขา และพอเห็นชุดที่เขากำลังสวมใส่แล้วจึงคิดว่าจะต้องเป็นผู้สูงศักดิ์อย่างแน่นอน นางก็เลยคุกเข่าลงขอร้องผู้ชายสองคนนั้น

“โอ้ นายท่านสองท่านนี้! ไม่ใช่ว่าข้าน้อยจะไม่ให้รักษานะ แต่จินหลิงถังของเรารักษาให้เฉพาะผู้ที่มีฐานะสูงศักดิ์เช่นนายท่านทั้งสองท่านนี้เท่านั้นขอรับ!”

ในขณะเดียวกันที่พนักงานตอบคำถามเขายังไม่ลืมที่จะพูดประจบสอพลอด้วย

“โรงหมอที่อยู่ข้างๆก็คนแน่นไปหมดแล้ว ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย ช่วยชีวิตคนสำคัญมาก ยังจะมาคิดหยุมหยิมเรื่องฐานะสูงต่ำอยู่อีกหรือ?”

ชายที่สวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้มเห็นท่าทางน้ำตาไหลเต็มหน้าของแม่นางน้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด!

ชายหนุ่มเพิ่งจะพูดจบ กลุ่มคนที่มุงดูจำนวนมากก็ทยอยกันเออออห่อหมกตามไปด้วย

“ก็นั่นน่ะสิ จุดประสงค์ที่เปิดโรงหมอก็เพื่อช่วยชีวิตผู้คน เห็นคนตายแล้วไม่ช่วยอย่างนี้ได้เยี่ยงไร!”

“จินหลิงถังตรวจรักษาให้ครอบครัวขุนนางตระกูลใหญ่ๆเท่านั้น หากรักษาให้เด็กหนุ่มกับเด็กหญิงสองคนนั่น พวกเขาจะต้องจ่ายค่ารักษาไม่ไหวแน่!”

“เฮ้อ น่าสงสารจริงๆ!”

เมื่อพนักงานเห็นดังนั้นก็เผยสีหน้าที่ขมขื่นออกมา วันนี้ออกนอกบ้านจะต้องลืมดูปฏิทินหวงลี่แน่ๆ จึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้

“นายท่านผู้นี้ ถ้าจะให้ช่วยคนก็ย่อมได้ ค่ารักษาของจินหลิงถังของเราคือหนึ่งตำลึง ขอเพียงแค่พวกเขาจ่ายค่ารักษาได้ พวกเขาก็จะรักษาให้!”

พอพนักงานเห็นเสื้อผ้าที่ทั้งเก่าและขาดของชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนนั้น มองปราดเดียวเขาก็รู้ว่าพวกเขาจ่ายค่ารักษาไม่ไหว

“ผู้พลิกชีวิต! ได้โปรดช่วยข้าด้วย ช่วยพี่ชายของข้าด้วย! ข้าไม่มีเงิน แต่ถ้าท่านสามารถช่วยพี่ชายของข้าได้ ข้าสามารถเป็นวัวเป็นม้าให้ท่านได้!”

พอแม่นางน้อยได้ยินว่าค่ารักษาสูงถึงหนึ่งตำลึง นางก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น แล้วคุกเข่าลงแทบเท้าของชายที่สวมชุดหัวฝูสีม่วง และขอร้องเขาไม่หยุด

“ช่วยชีวิตคนก่อน! หลังจากที่ข้ากลับจวนแล้วข้าจะให้คนนำเงินมาส่งให้!”

ชายที่สวมชุดหัวฝูสีม่วงก็เอ่ยปากแล้วเช่นกัน เมื่อเขาเห็นเด็กหนุ่มที่นอนชักอยู่บนพื้น คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม

“โธ่เอ๊ย นายท่านทั้งสอง ท่านก็อย่าทำให้ข้าน้อยต้องลำบากใจเลย! ผู้ที่เปิดจินหลิงถังแห่งนี้ไม่ใช่ข้าน้อย และข้าน้อยก็ไม่ใช่หมอด้วย ข้าน้อยไหนเลยจะทำหน้าที่ตัดสินใจแทนได้!”

พนักงานเห็นว่าพวกเขาจ่ายเงินไม่ไหว และอยากจะขึ้นบัญชีเอาไว้อีก เถ้าแก่จะไม่ทุบตีเขาจนตายไปลยหรือ!

“พูดตลบไปตลบมาอยู่ได้! ชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า มีอะไรให้ต้องลำบากใจอีก!”

ชายที่สวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้มโกรธจัด แล้วคว้าปกเสื้อชายคนนั้นขึ้นมาจับเอาไว้แน่น

“จินหลิงถังจะทำมากเกินไปแล้ว ชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเห็นคนตายแล้วไม่ยอมช่วย!”

“นั่นน่ะสิ!”

“นายท่านสองท่านนี้ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้สูงศักดิ์ เพราะเหตุใดจึงไม่มีเงินติดตัวเลยเลยสักนิดล่ะ?”

“ใช่ หรือว่าแม้กระทั่งเงินหนึ่งตำลึงก็ไม่ยอมจ่าย?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ! เห็นเด็กนั่นน้ำลายฟูมปากแล้ว กลัวว่าจะไม่รอดแล้วล่ะ!”

“......”

“โอ้! นายท่าน ไว้ชีวิตข้าด้วย!”

พนักงานถูกชายที่สวมชุดหัวฝูสีเขียวเข้มหิ้วตัวขึ้นมาแล้ว และความรู้สึกที่เท้าทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้นทำให้เขาหวาดกลัว

“ท่านชาย?”

เมื่อได้เห็นดังนั้นขอบตาของเสี่ยวหลิงก็แดงก่ำไปหมดแล้ว แล้วจับแขนเสื้อของมู่หรงจิ่นเอาไว้ด้วยท่าทางที่ดูน่าสงสารยิ่งนัก

มู่หรงจิ่นยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่กำลังมองดูชายที่สวมชุดหัวฝูสีม่วงนางก็ใช้มือขวาลูบไล้หยกแขวนที่ห้อยอยู่ที่เอวไปด้วย

บทที่ 27 หยกแขวน แลกชีวิตคน 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร