นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร นิยาย บท 6

“คุณชาย? เหตุใดทานถึงมาอยู่นี่?”

แม่นมหลี่ก็เห็นมู่หรงหมิน ก็เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าวด้วยความฉงนสงสัย แล้วเอ่ยถาม

“ข้า...”

มือขวาของมู่หรงหมินลูบจับหยกแขวนตรงเอว คิ้วบนใบหน้าอันเยาว์วัยและขาวกระจ่างใสนั้นขมวดเป็นปม ไม่กล้าไปมองตามู่หรงจิ่น ทำท่าทางเหมือนทำอะไรผิดไป

มู่หรงหมินก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายอะไรเกี่ยวกับตอนนี้ที่เขายืนอยู่ในเรือนจิ่นยู่

หรือว่าเขาควรบอกมู่หรงจิ่น เพราะว่าเมื่อครู่ตอนที่เขาหลินเหม่ยน่าที่เรือนโฝหลิ่ว ก็ได้รู้ว่ายาที่หลิวเหม่ยน่าให้ลู่ผิงนั้นไม่ใช่ยาดีโดยบังเอิญ และจะทำร้ายมู่หรงจิ่น!

เขาตกใจมากที่ได้รับการศึกษาที่ดีตั้งแต่เด็กจึงตัดสินใจไม่นั่งเฉยๆ เขาจึงตามหลังลู่ผิงโดยพยายามห้ามไม่ให้มู่หรงจินดื่มยาถ้วยนี้

แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือสาวใช้ตัวน้อยกลับทำยาหก!

มู่หรงหมินถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ขณะเดียวกันก็ลืมไปว่าเขาแอบตามมาที่นี่อย่างลับๆ เมื่อเผยพิรุธออกมา จากนั้นถึงได้ถูกมู่หรงจิ่นสังเกตเห็นเรื่องนี้?

มู่หรงหมินคิดๆ ก็ยิ่งอีนุงตุงนัง จะพูดอย่างไรดี?

ในขณะที่มู่หรงหมินกำลังอีนุงตุงนัง มู่หรงจิ่นยืนห่างจากมู่หรงหมินไปสิบก้าวและมองดูมู่หรงหมินด้วยสายตาที่นิ่งเฉย

หลังจากทำงานเป็นนักฆ่ามืออาชีพมาหลายปี มู่หรงจิ่นเรียนรู้ที่จะอ่านคำและสำนวนมาเป็นเวลานาน ฝึกฝนจนมีดวงตาแหลมคม

ต่อหน้านาง ไม่มีใครที่นางมองไม่ออก แค่คนที่นางไม่อยากมองออกเท่านั้น

คนๆ หนึ่งจะจริงใจหรือไม่จริงใจ นางไม่สามารถบอกว่าจะมองออกได้เพียงชั่วพริบตา แต่เป็นเรื่องง่ายสำหรับนางที่จะตัดสินบุคลิกลักษณะและจุดประสงค์ของคนๆ หนึ่งอย่างรวดเร็วจากการเปลี่ยนแปลงของคำพูด การกระทำ และกิริยาท่าทางของบุคคลนั้นๆ

ผู้เยาว์อายุสิบสามขวบตรงหน้า แม้รูปร่างจะไม่ได้โตเต็มวัย เขาสวมชุดทรงบานสีน้ำเงินเข้มที่มีชายกระโปรงผ่าลึก ผมใช้ผ้าสีฟ้ารวบขึ้น ใช้ปิ่นหยกยึดไว้ ดูแล้วมีเค้าโครงของคุณชายชั้นสูงมาก

ผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากแดงก่ำ กลับพริ้มเพรายิ่งกว่าแม่นางทั่วไป ถ้าไม่ได้มีดวงตากลมโตและคิ้วที่ดกดำ มีความคล้ายคลึงกับมู่หรงเซิ่งอยู่เจ็ดส่วน เกรงว่าจะมีคนเห็นว่าเขาคือแม่นางแล้ว!

สำหรับการปรากฎตัวอย่างกะทันหันของมู่หรงหมิน มู่หรงจิ่นต้องระวังตัวเป็นเรื่องธรรมดา มู่หรงหมินแม้จะไม่พูด แต่มู่หรงจิ่นก็สังเกตเห็นทุกราpละเอียดสีหน้าของเขา

เวลานี้สีหน้าบนหน้าเล็กๆ มู่หรงหมินนั้นเคร่งขรึมมาก เหมือนว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง

มู่หรงจิ่นคิดถึงเมื่อครู่บทสนทนาของตัวเองกับลู่ผิง

ฮึ ไม่เป็นเช่นไร! นางตัดสินใจค้านหลิวเหม่ยน่าและมู่หรงเหยาให้ถึงที่สุดแล้ว จะกลัวอะไรกับเด็กอายุสิบกว่าขวบคนหนึ่งด้วย?

และภายในเรือน เพราะว่าการนิ่งเฉยในระยะเวลาอันสั้น บรรยากาศในเรือนจึงตึงเครียด

แม่นมหลราและเสี่ยวหลิงแลกเปลี่ยนสายตากัน แววตาเหมือนกำลังถามอีกฝ่าย

นายใหญ่และนายเล็กสองท่านนี้ไม่เอ่ยพูดอะไร ยืนนิ่งเช่นนี้มีความหมายอะไร?

“คุณหนูใหญ่ แม่นมซูมาแล้ว!”

แม่นมหลี่ที่ตาดีเห็นด้านนอกประตูมีคนเดินมา จึงรีบเอ่ยพูดเพื่อทำลายมู่หรงจิ่นและมู่หรงหมินที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกัน

"อั๊ยโย! คุณชายน้อยของบ่าว! ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ฮูหยินเฒ่าตามหาท่านไปทั่วเลย!"

แม่นมซูยังไม่เข้าเรือน เสียงดังนั้นก็ส่งมาก่อนแล้ว

พอเข้าไปเดินไปตรงหน้ามู่หรงหมิน คุกเข่าลงดึงมือของเขาไว้ พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวา หลังจากตรวจดูเสร็จถึงจะยอมปล่อยมือ

"แม่นมซู ข้าแค่ได้ยินท่านป้าหลิวพูด พี่ใหญ่บาดเจ็บ เลยมาเยี่ยมพี่ใหญ่!"

เด็กชายหาเหตุผลจนเจอ ดวงตากลมโตมองไปที่มู่หรงจิ่นทันที

"คุณชายน้อยหนอ! ท่านไม่ควรมาที่นี่! รีบกลับไปกับบ่าวเถอะ!"

แม่นมซูพูดก็ดึงมือของมู่หรงหมิน แล้วกำลังจะเดินออกไปด้านนอก

มู่หรงจิ่นยิ้มอย่างเย็นชา

มาถึงถิ่นของนาง ไม่ได้กล่าวทักทายกับนางก็ปะไรไปแล้ว อยากมาก็มา อยากกลับก็กลับกระนั้นหรือ?

เห็นเรือนจิ่นยู่เป็นตลาดสดหรือไร? เห็นว่านางไม่มีตัวตนจริงๆ หรือ!

แม่นมซูได้ยินเสียงหัวเราะเย็นชา หันไปมองมู่หรงจิ่นเพียงปราดเดียว แววตาทอประกายความเกลียดชัง จากนั้นก็ดึงมู่หรงหมินไปด้านหลัง

“แม่นมซู ท่านมาเรือนจิ่นยู่ หาคุณชายน้อยหรือ?”

ตามค่าตอบแทนแล้ว แม่นมหลี่และแม่นมซูอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เพราะแม่นมซูคือบ่าวที่ออกเรือนมากับฮูหยินเฒ่ามู่หรง แม่นมหลี่ถือว่าเคารพ จึงได้คุยอย่างมีมารยาท

“ดูความจำของข้าสิ! เห็นคุณชายน้อยก็ลืมเรื่องสำคัญไปเลย!”

แม่นมซูสมกับเป็นคนเฒ่าในจวนจริงๆ พูดถึงใบหน้าที่ตื่นเต้นนั้นไม่แดงและหัวใจไม่เต้นเร็ว จริงๆ แล้วเมื่อครู่ก็เห็นมู่หรงจิ่นแล้ว

“ไม่เป็นเช่นไร แม่นมซูอายุเยอะแล้ว ความจำเลยไม่ดี ข้าสามารถเข้าใจได้! ไม่รู้ว่าท่านย่ามีเรื่องอะไรสั่งการหรือ?”

ตอนที่มู่หรงจิ่นพูดคำพูดนี้ ใบหน้าเคล้าด้วยรอยยิ้มจางๆ เหมือนกำลังพูดว่า “วันนี้อากาศไม่เลว”

แต่แม่นมซูฟังแล้วไม่ใช่เช่นนั้น! แม่นางคนหนึ่ง ไม่ว่าฐานะจะสูงต่ำ ก็มักจะไม่อยากได้ยินคนอื่นบอกว่าตัวเองแก่และเสื่อมโทรม

ฉะนั้นเวลานี้สีหน้าของแม่นมซูเขียวซีด ทำเสียงฮึเสร็จถึงจะพูดเรื่องสำคัญ

“อีกห้าวันก็คือวันไหว้พระจันทร์แล้ว ถึงเวลามีแขกมาเยี่ยมเยียน คุณหนูใหญ่ก็ต้องไปต้อนรับแขก ฮูหยินเฒ่าให้บ่าวมาบอกคุณหนูใหญ่ ถึงเวลาให้ออกงานตรงเวลา อย่าเสียมารยาทเจ้าค่ะ!”

แม่นมซูพูดอย่างเย็นชา เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของมู่หรงจิ่น จึงละสายตาไปทางอื่น

“แต่เมื่อคืนท่านพ่อบอกข้าว่าก่อนจะออกเรือน ห้ามออกจากเรือนจิ่นยู่แม้แต่ก้าวเดียว”

มู่หรงจิ่นเห็นใบหน้าที่ดูหมิ่นของแม่นมซู กลับไม่ได้สนใจอะไรเลย แม้ลู่ผิงก็ยังไม่เห็นคุณหนูใหญ่คนนี้อยู่ในสายตา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่นมซูที่เป็นบ่าวข้างกายฮูหยินเฒ่า

“คุณชายต้องอนุญาตอยู่แล้ว”

แม่นมซูคือบ่าวของฮูหยินเฒ่า “คุณชาย” ที่นางหมายถึงก็คือมู่หรงเซิ่ง

“คุณหนูใหญ่! ท่านยังไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์หรือเปล่า? ช่างสนุกนัก ปีที่ผ่านมาคุณหนูรองเล่นฉินเพื่อสร้างความบันเทิง ยังได้กินวันไหว้พระจันทร์! ยังมีเทศกาลโคมไฟ! ปีนี้ข้าอายุสิบสามขวบแล้ว ท่านย่าตกลงกับข้าแล้ว สามารถจะให้ข้าไปดูโคมไฟ! ถึงเวลาท่านไปกับข้าไหม? ”

มู่หรงหมินกะพริบตาโต มองมู่หรงจิ่นด้วยความคาดหวัง

“คุณชายน้อย! ฮูหยินเฒ่ายังไม่ได้ตกลงเลย! ท่านรีบกลับไปกับบ่าวเถอะ! คุณหนูใหญ่ ถ้าไม่มีอะไรจะถามแล้ว บ่าวขอตัวก่อน!”

แม่นมซูไม่เข้าใจว่าเหตุใดวันนี้มู่หรงหมินมาเรือนจิ่นยูล่ะ? ยังอยากจะไปชมโคมไฟกับมู่หรงจิ่นอีก? อยากจะให้มู่หรงหมิ่นออกจากที่นี่ ถ้าฮูหยินเฒ่ารู้ว่ามู่หรงหมินมาเรือนจิ่นยู่ คงแย่แน่!

“ได้!”

มู่หรงจิ่นไม่ได้ตอบกลับมู่หรงหมิน เห็นมู่หรงหมินถูกแม่นมซูลากกลับไปอย่างไม่เต็มใจ จึงครุ่นคิดอย่างลุ่มลึก

ปกติฮูหยินเฒ่ามู่หรงไม่เคยเห็นตัวเองในสายตา เหตุใดจู่ๆ ถึงให้ตัวเองไปร่วมงานเลี้ยง?

“คุณหนู! คิดว่าฮูหยินเฒ่าคงจะคิดได้แล้ว! ตอนนี้ท่านเป็นพระชายาเยี่ยนที่ฝ่าบาทพระราชทานงานแต่งงาน! ไม่ว่าอย่างไรฮูหยินเฒ่าก็คงไม่วางท่าทีกับท่านเหมือนปีที่ผ่านมาหรอก!”

แม่นมหลี่ยังนึกว่ามู่หรงจิ่นกำลังกลัว แล้วจึงอธิบาย น้ำเสียงเคล้าด้วยความปลอบโยน

มู่หรงจิ่นแค่หัวเราะไม่พูดไม่จา ไม่ว่าฮูหยินเฒ่าจะมีความคิดอะไร แค่ไม่ทำร้ายตัวเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาง!

มู่หรงจิ่นนั่งอยู่ข้างโต๊ะกลมที่มีเพียงตัวเดียวในเรือน เมื่อครู่นี้เครียดมาก กลับไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้จึงผ่อนคลายหน่อง เพิ่งจะสังเกตว่าทั้งร่างของตัวเองพังทลาย

ใช่ ตอนนี้นางไม่ได้มีกะจิตกะใจไปเดาว่าฮูหยินเฒ่าให้นางไปออกจากงานเลี้ยงเพราะมีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ภารกิจที่นางต้องทำคือรักษาแผลให้หายดีก่อน

ยาที่หลิวเหม่ยน่าส่งมาให้นางกินไม่ได้แน่ๆ ! แต่ว่าเรือนจิ่นยู่ของนางตอนนี้มีผนังแค่สี่ด้าน จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อยาให้ตัวเอง?

ไม่กินยาแล้วจะรักษาตัวให้หายได้อย่างไร? แล้วจะต่อสู้กับศัตรูได้อย่างไร ร่างกายคือต้นทุนของการปฏิวัติ นางต้องรักษาตัวให้หายก่อนถึงจะได้!

"แม่นมหลี่ ท่านแม่ทิ้งของอะไรให้ข้าหรือเปล่า?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร