นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร นิยาย บท 6

สรุปบท บทที่ 6 เย้ยหยัน แม่นมซู: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร

อ่านสรุป บทที่ 6 เย้ยหยัน แม่นมซู จาก นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร โดย เสวี่ยเจีย

บทที่ บทที่ 6 เย้ยหยัน แม่นมซู คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสวี่ยเจีย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“คุณชาย? เหตุใดทานถึงมาอยู่นี่?”

แม่นมหลี่ก็เห็นมู่หรงหมิน ก็เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าวด้วยความฉงนสงสัย แล้วเอ่ยถาม

“ข้า...”

มือขวาของมู่หรงหมินลูบจับหยกแขวนตรงเอว คิ้วบนใบหน้าอันเยาว์วัยและขาวกระจ่างใสนั้นขมวดเป็นปม ไม่กล้าไปมองตามู่หรงจิ่น ทำท่าทางเหมือนทำอะไรผิดไป

มู่หรงหมินก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายอะไรเกี่ยวกับตอนนี้ที่เขายืนอยู่ในเรือนจิ่นยู่

หรือว่าเขาควรบอกมู่หรงจิ่น เพราะว่าเมื่อครู่ตอนที่เขาหลินเหม่ยน่าที่เรือนโฝหลิ่ว ก็ได้รู้ว่ายาที่หลิวเหม่ยน่าให้ลู่ผิงนั้นไม่ใช่ยาดีโดยบังเอิญ และจะทำร้ายมู่หรงจิ่น!

เขาตกใจมากที่ได้รับการศึกษาที่ดีตั้งแต่เด็กจึงตัดสินใจไม่นั่งเฉยๆ เขาจึงตามหลังลู่ผิงโดยพยายามห้ามไม่ให้มู่หรงจินดื่มยาถ้วยนี้

แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือสาวใช้ตัวน้อยกลับทำยาหก!

มู่หรงหมินถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ขณะเดียวกันก็ลืมไปว่าเขาแอบตามมาที่นี่อย่างลับๆ เมื่อเผยพิรุธออกมา จากนั้นถึงได้ถูกมู่หรงจิ่นสังเกตเห็นเรื่องนี้?

มู่หรงหมินคิดๆ ก็ยิ่งอีนุงตุงนัง จะพูดอย่างไรดี?

ในขณะที่มู่หรงหมินกำลังอีนุงตุงนัง มู่หรงจิ่นยืนห่างจากมู่หรงหมินไปสิบก้าวและมองดูมู่หรงหมินด้วยสายตาที่นิ่งเฉย

หลังจากทำงานเป็นนักฆ่ามืออาชีพมาหลายปี มู่หรงจิ่นเรียนรู้ที่จะอ่านคำและสำนวนมาเป็นเวลานาน ฝึกฝนจนมีดวงตาแหลมคม

ต่อหน้านาง ไม่มีใครที่นางมองไม่ออก แค่คนที่นางไม่อยากมองออกเท่านั้น

คนๆ หนึ่งจะจริงใจหรือไม่จริงใจ นางไม่สามารถบอกว่าจะมองออกได้เพียงชั่วพริบตา แต่เป็นเรื่องง่ายสำหรับนางที่จะตัดสินบุคลิกลักษณะและจุดประสงค์ของคนๆ หนึ่งอย่างรวดเร็วจากการเปลี่ยนแปลงของคำพูด การกระทำ และกิริยาท่าทางของบุคคลนั้นๆ

ผู้เยาว์อายุสิบสามขวบตรงหน้า แม้รูปร่างจะไม่ได้โตเต็มวัย เขาสวมชุดทรงบานสีน้ำเงินเข้มที่มีชายกระโปรงผ่าลึก ผมใช้ผ้าสีฟ้ารวบขึ้น ใช้ปิ่นหยกยึดไว้ ดูแล้วมีเค้าโครงของคุณชายชั้นสูงมาก

ผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากแดงก่ำ กลับพริ้มเพรายิ่งกว่าแม่นางทั่วไป ถ้าไม่ได้มีดวงตากลมโตและคิ้วที่ดกดำ มีความคล้ายคลึงกับมู่หรงเซิ่งอยู่เจ็ดส่วน เกรงว่าจะมีคนเห็นว่าเขาคือแม่นางแล้ว!

สำหรับการปรากฎตัวอย่างกะทันหันของมู่หรงหมิน มู่หรงจิ่นต้องระวังตัวเป็นเรื่องธรรมดา มู่หรงหมินแม้จะไม่พูด แต่มู่หรงจิ่นก็สังเกตเห็นทุกราpละเอียดสีหน้าของเขา

เวลานี้สีหน้าบนหน้าเล็กๆ มู่หรงหมินนั้นเคร่งขรึมมาก เหมือนว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง

มู่หรงจิ่นคิดถึงเมื่อครู่บทสนทนาของตัวเองกับลู่ผิง

ฮึ ไม่เป็นเช่นไร! นางตัดสินใจค้านหลิวเหม่ยน่าและมู่หรงเหยาให้ถึงที่สุดแล้ว จะกลัวอะไรกับเด็กอายุสิบกว่าขวบคนหนึ่งด้วย?

และภายในเรือน เพราะว่าการนิ่งเฉยในระยะเวลาอันสั้น บรรยากาศในเรือนจึงตึงเครียด

แม่นมหลราและเสี่ยวหลิงแลกเปลี่ยนสายตากัน แววตาเหมือนกำลังถามอีกฝ่าย

นายใหญ่และนายเล็กสองท่านนี้ไม่เอ่ยพูดอะไร ยืนนิ่งเช่นนี้มีความหมายอะไร?

“คุณหนูใหญ่ แม่นมซูมาแล้ว!”

แม่นมหลี่ที่ตาดีเห็นด้านนอกประตูมีคนเดินมา จึงรีบเอ่ยพูดเพื่อทำลายมู่หรงจิ่นและมู่หรงหมินที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกัน

"อั๊ยโย! คุณชายน้อยของบ่าว! ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ฮูหยินเฒ่าตามหาท่านไปทั่วเลย!"

แม่นมซูยังไม่เข้าเรือน เสียงดังนั้นก็ส่งมาก่อนแล้ว

พอเข้าไปเดินไปตรงหน้ามู่หรงหมิน คุกเข่าลงดึงมือของเขาไว้ พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวา หลังจากตรวจดูเสร็จถึงจะยอมปล่อยมือ

"แม่นมซู ข้าแค่ได้ยินท่านป้าหลิวพูด พี่ใหญ่บาดเจ็บ เลยมาเยี่ยมพี่ใหญ่!"

เด็กชายหาเหตุผลจนเจอ ดวงตากลมโตมองไปที่มู่หรงจิ่นทันที

"คุณชายน้อยหนอ! ท่านไม่ควรมาที่นี่! รีบกลับไปกับบ่าวเถอะ!"

แม่นมซูพูดก็ดึงมือของมู่หรงหมิน แล้วกำลังจะเดินออกไปด้านนอก

แม่นมซูคือบ่าวของฮูหยินเฒ่า “คุณชาย” ที่นางหมายถึงก็คือมู่หรงเซิ่ง

“คุณหนูใหญ่! ท่านยังไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์หรือเปล่า? ช่างสนุกนัก ปีที่ผ่านมาคุณหนูรองเล่นฉินเพื่อสร้างความบันเทิง ยังได้กินวันไหว้พระจันทร์! ยังมีเทศกาลโคมไฟ! ปีนี้ข้าอายุสิบสามขวบแล้ว ท่านย่าตกลงกับข้าแล้ว สามารถจะให้ข้าไปดูโคมไฟ! ถึงเวลาท่านไปกับข้าไหม? ”

มู่หรงหมินกะพริบตาโต มองมู่หรงจิ่นด้วยความคาดหวัง

“คุณชายน้อย! ฮูหยินเฒ่ายังไม่ได้ตกลงเลย! ท่านรีบกลับไปกับบ่าวเถอะ! คุณหนูใหญ่ ถ้าไม่มีอะไรจะถามแล้ว บ่าวขอตัวก่อน!”

แม่นมซูไม่เข้าใจว่าเหตุใดวันนี้มู่หรงหมินมาเรือนจิ่นยูล่ะ? ยังอยากจะไปชมโคมไฟกับมู่หรงจิ่นอีก? อยากจะให้มู่หรงหมิ่นออกจากที่นี่ ถ้าฮูหยินเฒ่ารู้ว่ามู่หรงหมินมาเรือนจิ่นยู่ คงแย่แน่!

“ได้!”

มู่หรงจิ่นไม่ได้ตอบกลับมู่หรงหมิน เห็นมู่หรงหมินถูกแม่นมซูลากกลับไปอย่างไม่เต็มใจ จึงครุ่นคิดอย่างลุ่มลึก

ปกติฮูหยินเฒ่ามู่หรงไม่เคยเห็นตัวเองในสายตา เหตุใดจู่ๆ ถึงให้ตัวเองไปร่วมงานเลี้ยง?

“คุณหนู! คิดว่าฮูหยินเฒ่าคงจะคิดได้แล้ว! ตอนนี้ท่านเป็นพระชายาเยี่ยนที่ฝ่าบาทพระราชทานงานแต่งงาน! ไม่ว่าอย่างไรฮูหยินเฒ่าก็คงไม่วางท่าทีกับท่านเหมือนปีที่ผ่านมาหรอก!”

แม่นมหลี่ยังนึกว่ามู่หรงจิ่นกำลังกลัว แล้วจึงอธิบาย น้ำเสียงเคล้าด้วยความปลอบโยน

มู่หรงจิ่นแค่หัวเราะไม่พูดไม่จา ไม่ว่าฮูหยินเฒ่าจะมีความคิดอะไร แค่ไม่ทำร้ายตัวเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาง!

มู่หรงจิ่นนั่งอยู่ข้างโต๊ะกลมที่มีเพียงตัวเดียวในเรือน เมื่อครู่นี้เครียดมาก กลับไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้จึงผ่อนคลายหน่อง เพิ่งจะสังเกตว่าทั้งร่างของตัวเองพังทลาย

ใช่ ตอนนี้นางไม่ได้มีกะจิตกะใจไปเดาว่าฮูหยินเฒ่าให้นางไปออกจากงานเลี้ยงเพราะมีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ภารกิจที่นางต้องทำคือรักษาแผลให้หายดีก่อน

ยาที่หลิวเหม่ยน่าส่งมาให้นางกินไม่ได้แน่ๆ ! แต่ว่าเรือนจิ่นยู่ของนางตอนนี้มีผนังแค่สี่ด้าน จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อยาให้ตัวเอง?

ไม่กินยาแล้วจะรักษาตัวให้หายได้อย่างไร? แล้วจะต่อสู้กับศัตรูได้อย่างไร ร่างกายคือต้นทุนของการปฏิวัติ นางต้องรักษาตัวให้หายก่อนถึงจะได้!

"แม่นมหลี่ ท่านแม่ทิ้งของอะไรให้ข้าหรือเปล่า?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร