นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร นิยาย บท 9

หลิวเหม่ยน่าจับมือของมู่หรงเหยาไว้อย่างไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง แสดงให้นางว่าอย่ากระทำผลีผลาม

“ที่นี่ไม่ได้มีคนนอกอะไร คนในครอบครัวคุยเรื่องจริงก็ไม่เป็นเช่นไร! เพียงแต่ว่าออกไปด้านนอกก็อย่าพูดเรื่องเหล่านี้ก็พอ”

แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะมีน้ำเสียงตำหนิ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ปิดบังอารมณ์ความรู้สึกของนาง

“อั๊ยโย ข้าจะพูดไปเรื่อยได้อย่างไร เรื่องเช่นนี้ข้าก็ต้องพูดในตระกูลมู่หรงของพวกเราเท่านั้น พวกเราเข้าใจเองก็พอแล้ว”

อานซิ่วอิ๋งเห็นอารมณ์ฮูหยินเฒ่าดีมาก จึงยิ่งประจบสอพลอกว่าเดิม

“ตระกูลมู่หรงของพวกเราช่างมีโชคลาภ ได้ยกจิ่นเอ๋อร์ให้อ๋องเยี่ยน และบรรดาตระกูลชั้นสูงในเมืองหลวง ไม่มีใครเหมาะสมกับการเป็นไท่จื่อเฟยได้มากกว่าเหยาเอ๋อร์ ต่อไปพวกเจ้าสองคนออกเรือนไปแล้ว ก็อย่าลืมพูดถึงซินเอ๋อร์ให้เยอะๆ ล่ะ!”

อานซิ่วอิ๋งพูดให้คล้อยตามฮูหยินเฒ่าก่อน และคิดว่าสุดท้ายจะได้เข้าประเด็นละครเรื่องนี้แล้ว

“ซินเอ๋อร์ก็เป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่ง เรื่องสมรสก็ต้องห้ามกำหนดไปเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว วันนี้องค์ไท่จื่อสู่ขอบุตรีอนุภรรยาของหลี่เฉิงเซี่ยงและบุตรีเอกของซ่างซูกรมกลาโหมจางเทาเป็นพระชายารอง อ๋องเยี่ยนกลับไม่ได้สู่ขอพระชายารอง”

มู่หรงจิ่นไม่ใช่คนโง่ นางจะฟังไม่ออกได้อย่างไรว่าความหมายโดยนัยของฮูหยินเฒ่ามู่หรงคืออะไร

ก็หมายความว่า ตำแหน่งพระชายารองขององค์ไท่จื่อเต็มไปด้วย พระชายาเอกต้องเหลือให้มู่หรงเหยา

วันนี้อ๋องเยี่ยนมีพระชายาเอกเพียงคนเดียว ดังนั้นจะให้มู่หรงซินเป็นพระชายารองของอ๋องเยี่ยน

มู่หรงจิ่นแสยะยิ้มในใจ ลูกพี่ลูกน้องมีสามีคนเดียวกัน ช่างน่ารังเกียจนัก!

“หลังจากอ๋องเยี่ยนสู่ขอจิ่นเอ๋อร์ เรือนในก็ต้องรับคนเข้าไปบ้าง จิ่นเอ๋อร์มีนิสัยดีตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ได้แก่งแย่งกับคนอื่นอะไร เกรงว่าถึงเวลาจะถูกรังแก ถ้ามีซินเอ๋อร์คอยช่วยเหลือ สองพี่น้องจะได้ช่วยเหลือกันและกัน!”

อานซิ่วอิ๋งพูดสองสามคำ ก็สามารถแยกแยะสถานการณ์ให้กับมู่หรงจิ่นอย่างชัดเจน

อ๋องเยี่ยนต้องมีพระชายารอง หากสู่ขอคนอื่นก็จะเป็นฝ่ายค้านกับเจ้า เช่นนั้นก็สู่ขอมู่หรงซินดีกว่า ล้วนเป็นคนของตระกูลมู่หรง ต้องไม่ทำร้ายนาง!

“ท่านป้า ท่านยอมให้น้องซินออกเรือน อ๋อนเยี่ยนก็อาจจะไม่สู่ขอนางก็ได้!”

มู่หรงเหยาได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยพูด นึกไม่ถึงว่าฮูหยินเฒ่ามู่หรงกลับจะให้มู่หรงซินแต่งงานกับเยี่ยนอ๋อง

“เหยาเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนที่จะเป็นไท่จื่อเฟยแล้ว! ซินเอ๋อร์เป็นน้องสาวเจ้า แต่งงานกับอ๋องเยี่ยนแล้วเป็นพระชายารองก็ไม่ใช่ไม่ได้เสียหน่อย!”

อานซิ่วอิ๋งต้องเคยได้ยินที่มู่หรงซินเคยบอกว่ามู่หรงเหยาชอบอ๋องเยี่ยน เพียงแต่งานสมรสนี้ทำตามที่นางต้องการไม่ได้!

“ฐานะของคุณหนูซินก็ต้องเหมาะกับการเป็นพระชายารองของอ๋องเยี่ยน ความหมายของคุณหนูรองคือ ได้ยินว่าอ๋องเยี่ยนเป็นคนเลือดเย็นไม่มีความรู้สึก ให้เขาสู่ขอคุณหนูซินมาเป็นพระชายารอง กลัวว่าจะเสียเปล่า!”

หลิวเหม่ยน่าใช้สายตารั้งมู่หรงเหยาไม่ให้พูดอีก ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างจอมปลอมกับอานซิ่วอิ๋ง

และเรื่องนี้คนที่เป็นตัวละครเอกก็คือมู่หรงจิ่น กลับเหมือนไม่ได้ยิน ก้มหน้าจิบชา

ในใจของนางรู้ดี อานซิ่วอิ๋งบอกว่ามู่หรงซินไม่มีทางทำร้ายตัวเองหรือ? วันนี้นางได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุด!

"คำพูดเช่นนี้ ถึงเวลาพี่จิ่นต้องบอกว่าอ๋องเยี่ยนหน่อย อ๋องเยี่ยนต้องเห็นแค่ตระกูลมู่หรง ตอบตกลงแน่นอน!"

มู่หรงซินมีความสุขมากเมื่อได้ยินว่านางสามารถแต่งงานกับบุรุษที่หญิงสาวส่วนใหญ่ในเมืองหลวงชื่นชม

“คำพูดเช่นนี้จะพูเองได้อย่างไร! แต่ว่าจิ่นเอ๋อร์ สิ่งที่ซินเอ๋อร์พูดนั้นเป็นสิ่งที่ฮูหยินเฒ่าหมายถึง!”

อานซิ่วอิ๋งแสร้งทำเป็นโกรธมู่หรงซิน แต่ยิ้มและขอให้มู่หรงจิ่นทำเช่นนั้น

มู่หรงจิ่นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอานซิ่วอิ๋ง แต่อานซิ่วอิ๋งกลับผงะเพราะการจ้องมองอันนิ่งเฉยของนาง ว่ามู่หรงจิ่นเป็นคนขี้ขลาดไม่ใช่หรือ? เหตุใดสายตาของคนนี้กลับใสเช่นนี้?

“เรื่องนี้ ข้าตกลงไม่ได้!”

มู่หรงจิ่นพูดคำต่อคำ ทำให้ไม่สามารถได้ยินอารมณ์ของนางในขณะนี้

"ฮึ่ม! นี่ทำตามความต้องการของเจ้าไม่ได้หรอก! เรื่องนี้ให้เป็นไปตามนี้! เจ้าไม่ต้องทำอะไร ข้าแค่บอกให้เจ้ารู้ ไม่ใช่ฟังความคิดเห็นของเจ้า!"

ฮูหยินเฒ่ามู่หรงเมื่อได้ยินสิ่งที่มู่หรงจิ่นพูด นางรู้สึกสะอิดสะเอียนมากกับทัศนคติที่เมินเฉยของนาง และความคาดหวังของนางยิ่งสูง ไม่ยอมให้ใครพูดแทรก

“ไหนๆ ท่านย่าก็ตัดสินใจแล้ว หลานก็ไม่มีอะไรน่าพูด! แค่ว่าหลานเป็นคนขี้กลัว ถึงเวลากลัวว่าจะไม่กล้าเอ่ยพูดกับอ๋องเยี่ยน เรื่องที่น้องซินจะแต่งเข้าจวนอ๋องเยี่ยน ยังหวังว่าท่านย่าจะใช้วิธีอื่น!”

มู่หรงจิ๋นไม่ได้โง่เช่นนั้น ตัวเองยังไม่ได้ออกเรือน แล้วจะหาเมียน้อยให้สามีได้อย่างไร?

“ก็ไม่ได้คิดจะฝากความหวังให้เจ้าหรอก! เรื่องนี้ข้าย่อมต้องปรึกษากับบิดาของเจ้าอยู่แล้ว!”

ฮูหยินเฒ่ามู่หรงพูดไป ก็เอียงสายตามองไปที่มู่หรงจิ่นที่กำลังนั่งก้มหน้า ผ้าคลุมปิดครึ่งหน้าของนางไว้ ทำให้คนไม่ไปคิดถึงปานที่ทำให้คนรังเกียจไม่ได้

“โย เช่นนี้ก็ดี! ไม่เช่นนั้นวันนี้ข้าให้ซินเอ๋อร์อยู่ค้างคืนเถอะ ช่วงที่จิ่นเอ๋อร์รอออกเรือนก็อยากให้อยู่กับนางเยอะๆ เช่นนี้จะได้ไม่เหงา!”

อานซิ่วอิ๋งพูดอย่างแน่วแน่ เหมือนว่ากำลังคิดเผื่อหลานสาวจริงๆ แต่นัยน์ตาที่ได้ใจนั้น มู่หรงจิ่นกลับเห็นอย่างชัดเจน

“ให้เป็นไปตามนี้! พวกเจ้าลูกพี่ลูกน้องก็สานความสัมพันธ์กันในช่วงนี้เสียหน่อยเถอะ!”

“เจ้าค่ะ! ซินเอ๋อร์จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่จิ่นเจ้าค่ะ!”

มู่หรงซินไม่ได้สนใจมู่หรงเหยาที่จับจ้องตาไว้ในตอนนี้ แต่กลับตอบตกลงอย่างดีใจ

มู่หรงจิ่นก้มหน้าจิบชาของตัวเองต่อ ในใจคิดว่าละครวันนี้ ฮูหยินเฒ่ามู่หรงคิดการณ์ไกลจริงๆ และรอบคอบจริงๆ!

ราชสำนักในตอนนี้แม้จะไม่ได้แก่งแย่งแบ่งพรรคแบ่งพวกอย่างชัดเจน แต่ตามด้วยพระชนยุของฮ่องเต้ที่ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ มีขุนนางไม่น้อยที่เริ่มกังวลถึงอนาคตของแคว้นต้าเซียว

ดังนั้น ขุนนางราชสำนักจึงแบ่งออกเป็นสามประเภทอย่างคร่าวๆ

ประเภทแรกคือพรรคองค์ไท่จื่อที่นำโดยเฉิงเซี่ยงหลี่โม่และขุนคนอื่นๆ

องค์ไท่จื่อเซียวหร่วให้กำเนิดโดยฮ่องเต้เซียวหยวนและฮองเฮาตระกูลหลี่ ฮองเฮาคือน้องสาวของหลี่โม่ และหลี่โม่สนับสนุนองค์ไท่จื่อโดยธรรมชาติ

ประเภทที่สองคือพรรคอ๋องเยี่ยน นำโดยขุนนางฝ่ายบู๊ที่เป็นแม่ทัพใหญ่นามว่าเจี่ยงเจิ้นข่าย

พระมารดาของอ๋องเยี่ยนเซียวเหยียนเสียไปตั้งแต่เด็ก จึงเป็นฮ่องเต้ที่เลี้ยงดูเขาจนเติบโต ฮ่องเต้รักใคร่และโปรดปรานอ๋องเยี่ยนเป็นอย่างมาก และให้กำลังทางทหารจำนวนหนึ่งแก่อ๋องเยี่ยน และอ๋องเยี่ยนก็ชนะสงครามอยู่หลายครั้ง

ประการที่สามเป็นกลางโดยธรรมชาติ ส่วนตระกูลมู่หรง ก็คือพรรคที่เป็นกลาง

มู่หรงเซิ่งเชื่อว่าเหตุผลที่อ๋องเยี่ยนได้รับการให้ความสำคัญจากฮ่องเต้ อาจเป็นวิธีที่จักรพรรดิใช้เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลองค์ไท่จื่อ และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าองค์ไท่จื่อเป็นมกุฏราชกุมาร

ถ้ามู่หรงเหยาคือ "ลักษณะของหงส์" จริงๆ แม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ได้ประทานงานแต่งงานให้มู่หรงจิ่นกับอ๋องเยี่ยน นางก็ถูกลิขิตให้ไม่ได้แต่งงานกับอ๋องเยี่ยน!

หรือพูดง่ายๆ คือ หากในที่สุดอ๋องเยี่ยนขึ้นครองบัลลังก์ มู่หรงจิ่นก็จะได้กลายเป็นฮองเฮา

แต่ประเด็นก็คือว่ามู่หรงจิ่นสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันที่อ๋องเยี่ยนขึ้นครองบัลลังก์ ตามนิสัยเดิมของมู่หรงจิ่น จะต้องถูกฆ่าโดยไม่มีใครสังเกตเห็นอย่างแน่นอน

ดังนั้นตระกูลมู่หรงจึงต้องให้บุตรีอีกคนแต่งเข้าไป เพื่อที่ว่าแม้ว่ามู่หรงจิ่นจะเสียชีวิตแล้ว มู่หรงซินก็จะเข้ายึดครองและตระกูลมู่หรงก็ยังสามารถปกป้องตัวเองได้

ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าองค์ไท่จื่อจะขึ้นครองบัลลังก์หรืออ๋องเยี่ยนจะได้รับอำนาจ ตระกูลมู่หรงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อพิพาททางการแบ่งพรรค

ตระกูลมู่หรงมีแผนที่ดีจริงๆ!

มู่หรงจิ่นรู้ว่าฮูหยินเฒ่าจะใจดีให้เข้าร่วมงานเลี้ยงของครอบครัวได้อย่างไร? ที่แท้เป็นงานเลี้ยงหงเหมิน!

ฮูหยินเฒ่ามู่หรงใช้นามของงานเลี้ยงของครอบครัว ตามตัวเองมาสั่งสอน

อานซิ่วอิ๋งรู้ว่านางสูญเสียแม่ไปตั้งแต่นางยังเด็ก และชีวิตของนางในจวนมู่หรงนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าชีวิตคนรับใช้ ดังนั้นทันทีที่พวกเขาพบกัน ก็มอบกปิ่นผมอัญมณีแดงให้ตัวเองอย่างไม่เห็นแก่ตัว อยากจะติดสินบนนาง

พวกนางพยายามอย่างมากเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะให้มู่หรงซินก็ได้แต่งเข้าจวนอ๋องเยี่ยน นางยังไม่ได้ออกเรือนแน่ะ ก็รีบสร้างปัญหาให้นางแล้ว อยากจะให้ตัวเองเดินตามรอยเสิ่นหว่านซิง

เหอะ ถ้าเปลี่ยนเป็นมู่หรงจิ่นคนก่อน จะยอมจำนนต่อความยิ่งใหญ่ของฮูหยินเฒ่ามู่หรงและเล่ห์เหลี่ยมของอานซิ่วอิ๋งอย่างแน่นอน

ช่างน่าเสียดาย! มู่หรงจิ่นคนเก่าตายแล้ว!

อ๋องเยี่ยน คู่หมั้นในตำนานได้ปล่อยให้มู่หรงจิ่นคนเดิมเสียชีวิตเพราะเขา และตอนนี้ตัวเองถูกรังแกและล่อลวงเพราะเขา ช่างมีความอัปโชค!

ทันใดนั้นตาซ้ายของมู่หรงจิ่นกระตุก เห็นสาวใช้ตัวน้อยสวมกระโปรงกระดุมสองแถวสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาพร้อมกระดาษหนึ่งแผ่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นวลชายาหยกงามของท่านอ๋องจอมมาร