พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 103

ครึ่งชั่วโมงต่อมา พนักงานระดับสูงและผู้จัดการด้านต่างๆ ล้วนรวมตัวกันประชุม

นาทีนี้ ฉันรับรู้ถึงความสำคัญของอำนาจแล้ว เมื่อฉันมีอำนาจ ฉันก็สามารถสั่งการได้ตามที่ต้องการ แน่นอนเจตนาของฉันไม่ใช่สิ่งนี้

ก่อนประชุม ฉันสั่งให้หร่วนหลิงถ่ายเอกสารแผนธุรกิจจำนวนหลายชุด ตอนนี้ได้แจกจ่ายให้ผู้บริหารระดับสูงทุกคนแล้ว “ฉันและประธานสีแห่งบริษัทสีซื่อกรุ๊ป และยังมีประธานฉินแห่งบริษัทตงฟางกรุ๊ป เมื่อวานพวกเราสามคนไปสำรวจเกาะสุริยามา พวกเขามีความคิดที่จะซื้อลิขสิทธิ์ของเกาะดังกล่าว เพื่อจะสร้างสวนสนุกกับรีสอร์ที่นั่น อันนี้คือแผนธุรกิจค่ะ พวกคุณลองอ่านดู”

เฉียวอี้เป็นคนสอนฉันพูดคำเหล่านี้เอง ตอนที่เธอสอน ฉันก็ทักท้วง ฉันบอกว่าความจริงฉันไม่ได้ไปคุยธุรกิจบนเรือสำราญ แค่ถูกสีชิงชวนลากตัวไปเท่านั้น สุดท้ายคือฉันโดนเฉียวอี้ด่าจนไม่เหลือชิ้นดีค่ะ

เธอพูดว่า “เธอโง่หรือเปล่า หรือเธอจะบอกพนักงานว่าเธอไปเป็นสาวควงของสีชิงชวน? การจะทำธุรกิจต้องโม้ให้ได้เยอะๆ เข้าใจไหม? เธอคิดว่าปกตินักธุรกิจเขาจะพูดแต่ความจริงกันเหรอ?”

ฉันโดนเฉียวอี้ด่าจนเละ ด่าจนเหมือนฉันโดนราดน้ำใส่หัวแล้วจึงจะเข้าใจ จากนั้นก็เกิดถ้อยคำดังกล่าวขึ้นมา

ทุกคนพากันอ่านแผนธุรกิจในมือ วันนี้แม่เลี้ยงไม่อยู่ ตอนที่คุณพ่อยังมีชีวิต เธอเข้าบริษัทไม่ถึงสองครั้งต่อปี ความสุขของเธอจะคือการช้อปปิ้งและการอวดรวยระหว่างที่เล่นไพ่นกกระจอกกับพวกคุณนายทั้งหลาย สาเหตุที่หลายวันก่อนเธอเข้าบริษัท เพราะฉันดันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปซะงั้น เธอจึงรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกรรจ์ ตอนนี้เธอให้เซียวหลิงหลิงกับเซียวซือเข้าทำงานในเซียวซื่อกรุ๊ปแล้ว

เซียวหลิงหลิงมองแผนธุรกิจปราดหนึ่งแล้วก็โยนทิ้ง “เธอพึ่งรับตำแหน่งก็คิดจะลงทุนด้วยเงินก้อนโต เธอคิดว่าเซียวซื่อกรุ๊ปเป็นที่โกยเงินหรือไง? ฉันไม่เห็นด้วย”

“เซียวหลิงหลิง ดูให้จบก่อน” เซียวซืออ่านอย่างตั้งใจ “แผนธุรกิจบนเกาะอันนี้น่าสนใจมาก และสีซื่อกรุ๊ปกับตงฟางกรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ ถ้าได้ร่วมลงทุนกับพวกเขา ฉันคิดว่าบริษัทต้องก้าวหน้าขึ้นแน่ ถึงต้องลงทุนเยอะไปหน่อย แต่ตอนนี้สภาวะการเงินของเซียวซื่อกรุ๊ปก็ดีอยู่นี่ ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่”

เซียวซือเงยหน้ามองฉัน “เซียวเซิง ฉันไม่มีความคิดต่างจากเธอ แต่บริษัทเราจำเป็นต้องหารือกับอีกสองบริษัทก่อน”

เมื่อเซียวซือเห็นด้วย คณะบริหารส่วนใหญ่ก็เริ่มผสมโรงด้วย เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ และรู้ว่าเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับกำไรอย่างแน่นอน บริษัทอื่นๆ อยากร่วมลงทุนกับสีซื่อกรุ๊ป แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสนั้นเลย

ฉันไม่คิดว่าการประชุมจะดำเนินไปอย่างราบรื่น เซียวซือบอกฉันว่าต้องนัดคุยกับสีชิงชวนและฉินกวนให้เร็วที่สุด ฉันจึงตอบไปว่าไม่มีปัญหา ฉันจะทำหน้าที่นัดหมายเอง

หลังเลิกประชุมฉันก็รีบโทรหาสีชิงชวนทันที แจ้งเขาว่าบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปของพวกเรายินดีร่วมลงทุนกับพวกเขา และถามว่าสะดวกคุยกันตอนไหน

สีชิงชวนกำลังยุ่งกับงานอยู่ เขาฝ่ายป๋ออวี่บอกฉันว่า “ตอนกินข้าวเที่ยง”

เขานี่รู้จักใช้ทุกนาทีให้มีค่าจริงๆ ขนาดเวลากินข้าวเที่ยงยังคิดจะทำงานอีก ดังคาด ผู้ประสบผลสำเร็จไม่ใช่เกิดขึ้นด้วยโชค มันต้องใช้ความขยันเข้าแลก

ป๋ออวี่บอกว่าพวกเขาจะติดต่อกับฉินกวนเอง เฉียวอี้รู้ว่าเดี๋ยวจะได้เจอฉินกวนแล้วก็ดีใจอย่างระรื่น เธอหมุนกายรอบตัวฉันเหมือนผีเสื้อโบยบินไม่รู้ตั้งกี่รอบ หมุนจนฉันรู้สึกเวียนหัว

เธอหมุนตัวจนหนำใจแล้วก็หยุด พลางจับข้อมือฉัน “เดี๋ยวนะ ทำไมเซียวซือถึงยอมตกลงเร็วขนาดนี้? ต้องมีแผนแน่ๆ? แล้วโปรเจกต์มันดีขนาดนี้ ทำไมสีชิงชวนต้องชวนเธอร่วมลงทุนด้วย เขาไม่ใช่คนที่มีความเมตตานี่ อีกอย่างเขาทำโปรเจกต์บนเกาะคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องชวนเธอทำด้วย? หรือว่าหญิงร้ายชายชั่วคู่นี้จะร่วมมือกันทำร้ายเธอ?”

เวลาที่เฉียวอี้ใช้สมอง ดวงตาเธอจะหลุกหลิกคล้ายกับกำลังสะกดจิตอย่างไรอย่างนั้น เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเต็มอิ่ม หากฉันจ้องดวงตาเธอต่อ มีหวังต้องหลับคาโต๊ะแน่

“เธอเป็นโรคระแวงว่าจะโดนทำร้ายใช่ไหม?” ฉันจับแก้มเฉียวอี้ “มันเป็นโอกาสทอง อีกอย่างยังมีฉินกวนร่วมลงทุนด้วย เธอไม่เชื่อใจสีชิงชวน แต่ก็ควรเชื่อใจฉินกวน ถูกไหม?”

“อันนี้ก็...” เธอลูบคาง “ก็ใช่อยู่ สีชิงชวนเจ้าเล่ห์ แผนสูง แต่ยังเชื่อใจฉินกวนได้ ฉันมองคนเป็น กลางวันนี้ฉันจะไปดูว่าใครเป็นปีศาจ ฉันมองปราดเดียวก็รู้แล้ว”

พวกเรานัดกินข้าวเที่ยงในร้านอาหารสไตล์ฝรั่ง ซึ่งต้องใช้บัตรสมาชิกเข้าร้านเท่านั้น และร้านนี้ยังอยู่ใกล้กับตกสีซื่อกรุ๊ปด้วย เหมือนร้านนี้จะเหมาะกับการคุยธุรกิจที่สุด หรูหรา เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนเพ่นพ่าน ทว่าบรรยากาศเงียบเหงาเกินไป ไม่อบอุ่นเสียเลย

พวกเรานั่งโต๊ะขนาดหกที่นั่ง บนโต๊ะมีเซียวซือ ฉินกวน สีชิงชวน ฉัน หนีอีโจวและเฉียวอี้ จึงนั่งเต็มโต๊ะพอดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)