“คุณไม่ง่วงเหรอ?” ฉันสงสัยเหลือเกิน เขานอนน้อยกว่าฉันนี่ เมื่อคืนเขาประชุมทั้งคืน ตอนเช้าก็ไปทำงานที่บริษัทสีซื่อกรุ๊ปอีก ตอนกลางวันพวกเราก็กินข้าวเที่ยงด้วยกัน ตอนบ่ายเขามีประชุมต่อ จึงไม่น่าจะได้นอน ดังนั้นเขายังไม่ได้นอนเลย”
“ง่วงสิ แต่ก็ต้องวาด”
เขาเป็นโรคจิตจริงๆ
เขานั่งบนโซฟาเดี่ยวริมหน้าต่าง จากนั้นก็ทำท่า “แบบนี้ได้ไหม?”
ต่อให้เขาถอดเสื้อจนล่อนจ้อน เขาก็ยังคงหล่ออยู่ดี ฉันปลุกความกระปรี้กระเปร่าขึ้นแล้วนั่งพยักหน้าบนขาตั้งวาดรูป “อืม ได้”
เมื่อฉันเตรียมพร้อมที่จะวาดรูปแล้วเขาก็ลุกขึ้นจากโซฟากะทันหัน “ผมคิดว่าควรถือหนังสือไว้ จะได้ดูมีการศึกษาหน่อย”
เขาไปค้นตู้หนังสือของฉัน “พวกนี้เป็นหนังสือคุณหมดเลยเหรอ?”
“อืม”
“คุณเป็นผู้หญิงแล้วอ่านนิยายแฟนตาซีทำไม?”
“ทำไมผู้หญิงถึงอ่านนิยายแฟนตาซีไม่ได้?”
เขาหย่อนกายนั่งบนโซฟา จากนั้นก็นั่งไขว่ห้างพร้อมกับอ่านหนังสือ
บนหัวเขามีโคมไฟระย้าสีชมพู เมื่อแสงไฟสีชมพูส่องบนตัวเขา มันทำให้ใบหน้าเขามีแสงอันอ่อนนุ่มขึ้นเพิ่มหนึ่งชั้น รังสีพิฆาตจึงลดน้อยถอยลง เขาก็น่าจะเหนื่อยแล้วจริงๆ หนังตาตกเชียว เห้อ! ก็คงมีแต่สภาพสีชิงชวนในตอนนี้ที่ไม่น่ากลัวเหมือนปกติ
ฉันเลือกมุมที่ดีที่สุด จากนั้นก็เตรียมจะเริ่มวาด ทว่าเขาก็เงยหน้าขึ้น “หนังสือเล่มนี้ไม่สนุกเลย เปลี่ยนเป็นเล่มอื่น”
ฉันรอเขาเปลี่ยนหนังสือด้วยความอดทน เขาเลือกอยู่นาน สุดท้ายก็ถามฉันว่า “คุณแนะนำหน่อยสิ”
“เล่มนั้นเลย” ฉันชี้หนังสือด้านซ้ายมือ “เรื่องกาแล็กซี่ เป็นนิยายแนวสอบสวน เขียนได้ดีมาก ตรรกะดีสุดๆ พล็อตเรื่องเป็นขั้นเป็นตอนมาก”
เขาหยิบไปอ่านบนโซฟา ฉันหาแนวทางการวาดใหม่ พึ่งจะเริ่มวาดเขาก็เงยหน้าขึ้นอีกแล้ว
“อ่านไม่สนุกเลย?”
“แจ็คเป็นผู้ร้ายหรือเปล่า?” เขาถามฉัน
“แล้วคุณจะอ่านนิยายสอบสวนไปเพื่อ คุณพลิกไปอ่านหน้าสุดท้ายเลยสิ”
“ผมอยากฟังคุณเล่า”
“คุณอยากวาดภาพเหมือนต่อไหม?”
“ก็คุณเล่าไปด้วยวาดไปด้วยไง”
“ฉันไม่มีความสามารถขนาดนั้น”
เขาชักสีหน้าใส่ฉันทันที “เซียวเซิง คุณไม่อยากวาดรูปผมใช่ไหม?” ก็แหง่สิ ฉันอยากวาดรูปเหมือนเขาซะเมื่อไหร่?
ฉันกำลังสรรหาถ้อยคำพูดทางอ้อม แต่ต้องไม่ดูปลอม ทว่าเขากลับไม่หาเรื่องฉัน กลับไปนั่งอ่านนิยายบนโซฟาต่อ
ดีมาก หวังว่าเขาจะอยู่นิ่งๆ เหมือนตอนนี้นานๆ นะ ฉันก้มหน้าเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ จากนั้นก็ใส่หูฟัง และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นสีชิงชวนก็หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว
เขาเอียงหน้านอนบนโซฟา หนังสือในมือหล่นไปอยู่ด้านข้างมือของเขา ตอนนี้เขายังใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสูท แต่เท้าเป็นรองเท้าแตะแถบสีขาวน้ำเงิน
สีชิงชวนใส่อะไรก็ยังคงหล่ออยู่ดี เขาโครตหล่อเลย หล่อจนคนมองน้ำลายสอ
เขาหลับแล้วจึงไม่ขยับไปไหนอีก ฉันจึงวาดง่ายขึ้น
อันที่จริงวาดรูปคนก็ไม่ได้ยากอะไร แต่จะยากตรงที่ต้องหาลักษณะเด่นและตำแหน่งของคนคนนั้น หากหาเจอก็จะวาดได้เหมือนตัวจริง ไม่งั้นถึงจะวาดโครงหน้าเหมือนกัน แต่ความรู้สึกก็จะต่างกันเล็กน้อย
ลักษณะเฉพาะกายของสีชิงชวนคืออะไรล่ะ? ดุร้าย? อำมหิต? เผด็จการ? เวลานี้เขาไม่มีอย่างที่ว่าเลย
ตอนที่แสงไฟสีชมพูฉายใส่ตัวเขา แบบนี้ก็จะเหมือนภาพวาดสีน้ำมันจริงๆ
ฉันได้ไอเดียทั้งลักษณะเด่นและตำแหน่งแล้ว ฉันวาดโทนสีชมพูแล้วกัน ใช่ อันนี้แหละ
ฉันแรกฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว แต่เพราะมีสีชิงชวนเป็นนายแบบ มันจึงกระตุ้นให้ฉันมีแรงบันดาลใจในการวาด
ฉันวาดรูปทั้งคืน ส่วนสีชิงชวนก็นอนท่าเดิมตลอดคืนเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...