เขาโชว์ฟอร์มเสร็จก็วิ่งเข้ามา “เซียวเซิง วันนี้พี่เลิกงานเร็วจังเลยนะ?”
“อืม ตอนบ่ายมีธุระนิดหน่อย เลยออกจากบริษัทเร็วหน่อย”
“อ้อ”
วันนี้แดดร้อนเปรี้ยงๆ เลย เขาใส่เสื้อกีฬาแล้วยังใส่แขนกันแดดอีกด้วย
ฉันกล่าว “ตามพี่ไปที่ห้องนอน”
“ทำไมเหรอ?” เขาตามฉันมาด้วยหน้าระรื่น “พี่จะเล่นเกมกับผมเหรอ?”
“ใครจะเล่นเกมกับนาย” ฉันหิ้วถุงแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
“ของในถุงคืออะไรเหรอ?”
“ของดีไง”
“กินได้ไหม?”
“ไม่ได้” ฉันกับสีจิ่นยวนเดินผ่านห้องรับแขก และบังเอิญพี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้รองกำลังดูทีวีอยู่
พวกเธออยู่ด้วยกันตลอด แต่ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะดี เพราะทั่วทั้งบ้านตระกูลสีก็มีแต่พวกเธอที่คุยกันถูกคอ
พวกเธอเป็นพันธมิตรในเงื่อนไขที่ไม่ทำให้ตัวเองขาดผลประโยชน์
นับจากนาทีที่ฉันกับสีจิ่นยวนเดินเข้ามาด้วยกัน ดวงตาพวกเธอก็จับจ้องแต่พวกเรา
อาจเป็นเพราะมีสีจิ่นยวนอยู่กับฉันด้วย พวกเธอจึงไม่กล้าพูดเสียงดัง ทว่าฉันก็ยังได้ยินแว่วหลายประโยค
“เชอะ เธอดูนังจิ้งจอกตัวนี้ซิ ยั่วเจ้าสามไม่ได้ก็ไปยั่วเจ้าสี่แทน”
“เธอโตกว่าเจ้าสี่ไม่ใช่เหรอ?”
“โตกว่าสามปี ไม่ไหวจะเคลียร์”
ฉันต่างหากที่ควรจะพูดว่าไม่ไหวจะเคลียร์ แต่คำพูดแบบนี้ก็ทำเป็นหูทวนลมแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะเบาะแว้งกับพวกเธอ
สีจิ่นยวนได้ยินนิดหน่อยก็ย่นคิ้วถาม “พวกพี่สะใภ้คุยอะไรกัน?”
ฉันจูงเขาเข้าลิฟต์ “อย่าไปสนว่าพวกเธอคุยอะไรกัน ทำเหมือนไม่ได้ยินก็พอ”
“เซียวเซิง พี่ต้องทนแบบนี้ตลอดเลยเหรอ? พี่คือคนที่อดทน เดี๋ยวมันจะกลั้นไว้จนคิดสั้นหรอก”
“ใครบอกว่าคนที่ทนต้องคิดสั้นด้วย?”
“พี่ไม่รู้เหรอว่าคนที่คิดสั้นมันเกิดจากการที่ต้องทนอะไรต่อมิอะไรมากมาย”
ฉันเดินออกจากลิฟต์แล้วเปิดประตูห้องนอนตัวเอง “ทำไมพวกเราต้องคุยเรื่องฆ่าตัวตายด้วย?”
“นั่นสิ” เขาเกาหัว
เขาตามฉันเข้าห้อง เหงื่อออกทั่วตัวแบบนี้ เขาจะทายาไม่ได้ ฉันกล่าว “ไปอาบน้ำ”
เขาอ้าปากพะงาบๆ จ้องฉันด้วยความมึนงง “คืออะไร?”
ฉันรู้ว่าเขาเข้าใจผิด “ไปอาบน้ำที่ห้องของนาย จากนั้นก็ใส่แขนสั้นกับขาสั้นมา”
“ทำไม?”
ฉันหยิบยาที่ใส่ขวดออกจากถุงแล้วให้เขาดู “นี่ไง”
“ดำปี๋เลย คืออะไร?”
“ยาที่ช่วยรักษาโรคผิวหนังของนายไงละ”
“พี่ไม่ใช่หมอซะหน่อย”
“ตอนเด็กๆ พี่เคยเป็นโรคผิวหนังเหมือนนาย และใช้ยาแบบนี้รักษาจนหายดี”
เขากึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ “จริงหรือหลอก?”
“จริงอยู่แล้ว ตอนนี้นายทั้งฉีดยาและกินยา เจ็บบ้างไหม? ใช้อันนี้ทา แล้วทาหมดขวดเมื่อไหร่ มันก็จะหายเอง”
เขาเดินเข้ามาเอาขวดจากมือของฉันไป ก่อนจะเปิดฝามาดม “แหวะ! เหมือนกลิ่นไดคลอร์วอสเลย”
เขาเหมือนเฉียวอี้อย่างกับแกะ “นายเคยดื่มไดคลอร์วอสหรือไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...