ฉันทำของคนอื่นตกจนเกลื่อนกลาด ย่อมต้องเก็บขึ้นมาอยู่แล้ว ฉันรีบย่อกายแล้วเก็บทีละอย่างทันที
ฝ่ากล่องโลหะตกลงไปจนพัง สิ่งที่อยู่ด้านในกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
ฉันทายถูก กล่องที่เขียนคำว่าloveต้องเป็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความรักอย่างแน่นอน ล้วนเป็นเครื่องประดับราคาแพงกันทั้งนั้น ซึ่งมีกล่องกำมะหยี่หลายอัน ฉันหยิบขึ้นมาดูหนึ่งอัน และพบว่าด้านในเป็นแหวนคู่
มันเป็นแหวนที่สวยมาก ตรงกลางมีเพชรสีชมพูน้ำดีหนึ่งเม็ด มองปราดเดียวก็รู้ว่าราคาสูงลิ่ว และที่สำคัญคือแหวนที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ ฉันไม่เคยเห็นรูปแบบนี้มาก่อน
ด้านในแหวนยังสลักตัวหนังสือไว้ด้วย ฉันตั้งใจวินิจฉัยแล้วก็รู้ว่าเป็นชื่อของสีชิงชวนกับเซียวซือ
ที่แท้ก็เป็นแหวนคู่นี่เอง ดูเหมือนเมื่อก่อนพวกเขาจะรักกันมาก
ฉันไม่ได้ดูกล่องกำมะหยี่ที่เหลือทีละอัน ส่วนมากจะเป็นเข็มกลัด ต่างหู นาฬิกาข้อมือที่มีมูลค่าสูงเสียดฟ้า คาดว่าสีชิงชวนคงมอบให้เซียวซือ
เซียวซือยังเก็บของขวัญพวกนี้ไว้เป็นอย่างดี บนกล่างยังเขียนคำว่าLOVE ดังนั้นฉันเชื่อว่าเซียวซือยังคงรักสีชิงชวนอยู่
มันเป็นเรื่องน่าอายที่แอบดูของของคนอื่น ฉันจึงไม่ได้เปิดดูอย่างละเอียด รีบเก็บของเข้ากล่อง เวลานี้เลขาสาวก็เข้ามา “เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ฉันพูดด้วยความเกรงใจ “ตอนฉันหยิบเอกสารเผลอทำกล่องลิ้นชักตก”
“ดิฉันเก็บเองค่ะ” เลขาย่อตัวเก็บของ
ประธานอย่างฉันไม่มีความน่ายำเกรงเสียเลย แม้แต่เลขาสาวก็ยังทำหน้าไม่ค่อยใส่ใจ ฉันหยิบเอกสารแล้วเดินออกไป
ฉันมีเจตนาหลบหน้าเฉียวอี้ ตอนที่ลงไปตรงบันไดก็ได้ยินเสียงของเธอ “พวกคุณเห็นท่านประธานไหม?”
ฉันขับรถเองไม่ได้ จึงใช้โชเฟอร์ไปส่งฉันที่ภัตตาคารที่เซียวซือรออยู่ มันเป็นภัตตาคารสไตล์ยุโรป อยู่ห่างจากบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปพอสมควร แต่อยู่ใกล้บริษัทตงฟางกรุ๊ป
ฉันมาถึงภัตตาคารก็เตรียมตัวโทรหาเซียวซือ ทว่าก็เห็นเธอนั่งขอบหน้าต่างแล้วโบกมือเรียกฉันเสียก่อน โดยมีผู้หญิงนั่งร่วมโต๊ะเธอด้วย ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งหันหลังให้ฉัน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนผมยาวที่ทำลอนนิดๆ แผ่นหลังงดงามยิ่ง
ฉันเดินไปหาเธอ แล้วยื่นซองเอกสารให้เซียวซือ “อันนี้ใช่ไหม?”
เธอรับไปดูปราดหนึ่ง “ใช่ ขอบใจ”
ฉันส่ายหน้า “งั้นฉันไปก่อนละ”
“เซียวเซิง ฉันแนะนำเพื่อนคนนี้ให้เธอรู้จักก่อน” เซียวซือชี้ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเธอแล้วเอ่ย “คนนี้คือเพื่อนสมัยเรียนของฉัน ชื่อเคอเหม่ยซู”
ฉันมองผู้หญิงคนนี้ เธอหน้าตาสวยมาก ระหว่างคิ้วเจือไปด้วยรอยยิ้ม
“คนนี้คือน้องสามของฉัน เซียวเซิง” เซียวซือแนะนำแบบนี้ มันอยู่เหนือการคาดเดาของฉัน
เคอเหม่ยซูยิ้มแล้วพยักหน้าให้ฉัน “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ” ฉันจับมือกับเธอ
เคอเหม่ยซูเหรอ ชื่อนี้คุ้นๆ?
ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเคอเหม่ยซูคือใคร เธอก็คือคู่หมั้นของป๋ออวี่?
เมื่อวานเซียวซือพึ่งบอกฉันว่าเธอกับเคอเหม่ยซูเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนมหาลัย
“เซียวเซิง” เซียวซือมองนาฬิกา “พี่ต้องรีบไปที่บริษัทตงฟางกรุ๊ป ตอนนี้เคอเหม่ยซูกำลังรอแฟนของตัวเองไปลองชุดแต่งงานด้วยกัน น้องรอเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม?”
“ออ” ฉันพยักหน้าหงึกๆ “ได้”
เซียวซือเดินออกไป ส่วนฉันก็หย่อนกายนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเคอเหม่ยซู เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉัน “ได้ยินว่าคุณคือภรรยาของประธานสี และสนิทกับป๋ออวี่ด้วย”
“ก็ไม่ได้สนิทกันมากหรอกค่ะ” ฉันสื่อความหมายไม่ตรงเท่าใดนัก “เจอกันเป็นบางครั้งเองค่ะ”
“ฉันรู้ว่าคุณจะมา เลยสั่งกาแฟให้คุณโดยเฉพาะเลยค่ะ” เธอยื่นแก้วใบหนึ่งให้ฉัน “บริกรพึ่งมาเสิร์ฟ ยังร้อนๆ อยู่เลยค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...