พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 142

ฉันลากสังขาลอันเหนื่อยล้าของตัวเองให้ลุกจากที่นอนเพื่อจะมาทายาให้สีจิ่นยวน รู้สึกว่าตัวเองน่าเวทนามาก ที่ดื่มมายังไม่ทันสร่างเมายังต้องมาคอยปรณนิบัติรับใช้คุณชายสี่ท่านนี้อีก

ทว่าเห็นรอยช้ำบนตัวเขาจางลงขึ้นทุกวันก็รู้สึกมีหวังขึ้นมาทันที วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานเยอะมาก เหลือแค่รอยจางๆเท่านั้น

“อีกหนึ่งอาทิตย์นายก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลได้แล้ว” ฉันกล่าวขึ้น

“เซียวเซิง บ่ายวันนี้คุณดื่มมาเหรอ?”

“เกรงว่าคุณหมอเห็นสภาพของนายตอนนี้น่าจะตกใจอยู่ไม่น้อย”

“แล้วคุณเมาได้ยังไงล่ะ? พี่สามอุ้มคุณกลับมาทำผมตกใจหมดเลย”

“ถ้าคุณหมอถามว่าใช้ยาอะไรถึงได้ผลดีขนาดนี้ อย่าบอกเชียวล่ะว่าเป็นยาสมุนไพรพื้นเมือง คุณหมอจงเกลียดจงชังยาสมุนไพรที่สุด”

“พี่สามมีท่าทางโกรธมาก เขาไม่ชอบให้คุณดื่มใช่ไหม?”

“ยาทานที่ทางคุณหมอออกให้นายต้องกินนะ มันจะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย”

“เซียวเซิง ทำไมคุณต้องกระชากเนคไทของพี่สามด้วย ต้องการให้เขาเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองเหรอ?”

ฉันชะงักมือที่กำลังทายาให้สีจิ่นยวน มองเขาด้วยความพ่ายแพ้

เมื่อพูดกันคนละภาษาเสร็จ สีจิ่นยวนก็ได้รับชัยชนะ

“ฉันกระชากเนคไทของสีชิงชวนเหรอ?”

“ครับ”

ทำไมฉันจำได้ว่ากระชากเนคไทของป๋ออวี่ล่ะ?”

โอ้มายก๊อด เมาแล้วสร้างแต่ปัญหา ฉันเมาแล้วยังทำเรื่องพิเรนทร์อะไรอีก

ทว่าฉันก็ไม่ได้อยากรู้มันนักหรอก ในเมื่อทำผิดก็ต้องกล้าที่จะเป็นนกกระจอกเทศที่มุดหัวลงไปในทราย

“สีจิ่นยวน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถ้านายยังพูดซี้ซั้วอีกหนึ่งคำล่ะก็ อย่าหวังจะมาขอความช่วยเหลือจากฉันให้ทายาให้อีก”

“เซียวเซิง” เขาหัวเราะอิอิ “ทว่าคุณเมาแล้วก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย หน้าแดงระเรื่อ พูดจาสเปะสะปะ ท่าทางที่คุณกระชากเนคไทพี่สามนั้นมันช่างแอ๊บแบ๊วเหลือเกิน”

“แอ๊บแบ๊วกะผีสิ” ฉันตีเขาอย่างแรง เขาร้องลั่นขึ้นทันที

“เซียวเซิง คุณมาตีผมทำไม! ที่ผมพูดไปล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น!”

“ตอนที่ฉันกลับมา มีใครอยู่ที่บ้านบ้างไหม?”

“แม่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกกับกลุ่มเพื่อนๆคุณนายของท่าน ผมได้ยินคุณนายเฉินถามแม่ผมว่า ขาของคุณมีปัญหาหรอ ทำไมต้องให้พี่ผมอุ้มขึ้นชั้นบนแทบทุกครั้ง เซียวเซิง ยังมีครั้งไหนอีกบ้างที่คุณถูกพี่ชายผมอุ้มขึ้นไปชั้นบน?”

น่าจะเป็นครั้งที่อยู่ในสวนดอกไม้นั่นแหละ เสื้อผ้าของฉันโดนกระชากจนขาดรุ่งริ่ง สีชิงชวนเลยเอาชุดของเขามาใส่ให้ฉัน จากนั้นก็อุ้มฉันขึ้นไปชั้นบน!

ฉันรู้สึกเวียนหัวอย่างต่อเนื่อง มันช่างโชคร้ายเหลือเกิน จำนวนครั้งที่คุณแม่สีเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ที่บ้านก็น้อยครั้งมาก แต่ก็เป็นภาพที่น่าอับอายอยู่แทบทุกครั้ง

ฉันสับสนวุ่นวายไปหมด พอทายาให้สีจิ่นยวนเสร็จก็ไล่เขากลับไป “รอบหน้าจะมาห้องฉันก็ให้โทรมาก่อนล่วงหน้า”

“ใกล้ขนาดนี้ทำไมต้องโทรด้วย?”

ฉันจ้องตาเขม็ง เขาประนีประนอมขึ้นทันที ชูมือทั้งสองยอมจำนน “ได้ๆ ผมรู้แล้ว”

อาการเมาค้างจากการดื่มเหล้าส่งผลให้กระหายและปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง ฉันดื่มน้ำในห้องหมดจึงลงไปเติมน้ำต่อที่ชั้นล่าง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนคาดว่าทุกคนก็น่าจะหลับกันหมดแล้ว คงจะไม่เขินขนาดนั้น

ในขณะที่ฉันลงไปเอาน้ำและตอนที่เดินขึ้นมาได้ผ่านห้องหนังสือ เห็นสีชิงชวนกำลังทำงานอยู่ด้านใน แสงสีฟ้าจากคอมส่งไปกระทบใบหน้าของเขา

ฉันแอบส่องไปมองเขาอยู่แว๊บหนึ่งแล้วก็เผ่นออกมา

ตอนนี้ฉันหวาดกลัวกับการสบตาเขามาก รู้สึกอยู่ตลอดว่าสายตาของเขาคือมีดแกมม่า ฉันอาจจะโดนขึ้นเขียงผ่าท้องควักไส้ภายในพริบตาเดียว น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน

วันถัดมาฉันตาบวมไปทำงาน เฉียวอี้ถามฉันว่าเป็นอะไร ฉันตอบไปว่าขายหน้า เธอจึงถามกลับว่าขายหน้ายังไง เล่ามาให้เธอฟังบ้างสิ

ฉันขี้เกียจจะไปสนใจเธอ ได้แต่เฉาไปทั้งเช้าเลย

ตอนเที่ยงฉันทานอาหารเที่ยงไปด้วยวาดภาพไปด้วย ย้อนคิดถึงทัศนียภาพบ้านหลังเล็กสองชั้นที่ฉันกับแม่เคยอาศัยอยู่ด้วยกัน ฉันอยากจะวาดออกมาให้ได้เหมือนเดิมเป๊ะๆ

โชคดีที่ฉันอาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงอายุ 16 ปี อายุเท่านี้ฉันสามารถจำความได้เยอะเลยทีเดียว

ในขณะที่ฉันกำลังวาดภาพอยู่นั้น จู่ๆเฉียวอี้ก็พรวดพราดเข้ามา น้ำเสียงดีใจจนเปลี่ยนโทน “เรื่องใหญ่ๆ ข่าวสะเทือนขวัญ ”

ฉันเงยหน้าขึ้นจากการดูแบบมองดูสีหน้าที่ตื่นเต้นดีใจจนแดงของเธอ “มีอะไร?”

“เซียวเซิง ข่าวใหญ่ช็อคโลก” เธอกระโจนเข้ามาหาฉัน มุมปากยังมีเม็ดข้าวติดอยู่ เมื่อครู่เธออกไปกินข้าวเทปันยากิเนื้อพริกไทยดำมา ฉันไม่อยากไปจึงสั่งเดลิเวอรี่มาทานในออฟฟิศแทน

เธอกำแขนฉันไว้ ใช้แรงกดไว้แน่นจึงทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ

“เธอเบามือหน่อย สักวันฉันต้องตายในเงื้อมมือของเธอแน่ๆ”

“เธอตื่นเต้นดีใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอดีใจได้ขนาดนี้?”

“เซียวเซิง” ดวงตาของเธอจ้องถลุนออกมา “มีอยู่เรื่องหนึ่งเธอยังไม่รู้แน่ๆ!”

“เรื่องอะไรหรอ!” ฉันกำลังวาดรูปได้ที่อยู่โดนเธอขัดจังหวะไปก็รู้สึกอารมณ์เสียมาก “คนที่สะกิดต่อมเสือกแล้วจากไปจะต้องโดนจับไปตัดหัวสุนัข!”

“ใครไปสะกิดต่อมเสือกเธอกันล่ะ ทว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องค่อยๆพูด ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหว”

“มีอะไรที่ฉันรับไม่ไหวบ้างล่ะ เกี่ยวข้องกับฉันงั้นหรือ?” จู่ๆฉันก็ตื่นเต้นขึ้นมา

“เกี่ยวข้องกับเธอด้วย แต่ไม่ใช่เรื่องของเธอ” เฉียวอี้ลากเก้าอี้มาตั้งใจว่าจะนั่ง แต่เพราะตื่นเต้นดีใจมากไปหน่อย จึงทำได้แค่นั่งยองๆอยู่บนเก้าอี้

“เรื่องอะไรกันแน่?”

“สีชิงชวน สีชิงชวนเป็นเกย์ เธอไม่รู้ใช่ไหม? ฮา!”

สมองฉันดับทันที ฝูงผึ้งนับล้านโบยบินอยู่ในหัวไปมา

“ประกาศแล้วเหรอ?” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง

คาดว่าเฉียวอี้ดีใจเกินไปจนไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันพึมพำ จากนั้นก็ตบบ่าฉันอย่างแรง “สีชิงชวนเป็นเกย์ ข่าวโลกแตกชัดๆ โอ้มายก๊อด เซียวเซิง ยังดีนะที่พวกเธอเป็นแค่สามีภรรยาตามข้อตกลงกันเท่านั้น ซึ่งอีกไม่นานก็จะหย่าแล้วด้วย ไม่งั้นแต่งงานไปคงน่าเวทนาแย่เลย”

ฉันโดนเธอกวนจนฉันแทบจะไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด พยายามจะชะเง้อหูฟัง

“เซียวเซิง เธอรู้ไหมว่าคู่เปิดตัวของเขาคือใคร? เธอจะต้องนึกไม่ถึงเลยล่ะ แน่นอนว่าเธอจะนึกไม่ถึงเลย!”

“คือใครล่ะ?”

“ป๋ออวี่ ผู้ช่วยหนุ่มน้อยของเขานั่นเอง! ฉันรู้สึกว่าเขามีผิวที่บอบบางขาวกระจ่างใส อีกทั้งรูปโฉมงดงาม นิสัยก็ดี ทำอะไรก็สุขุม หนุ่มน้อยที่เพอร์เฟคขนาดนี้จะต้องเป็นเกย์แน่นอน เป็นไปตามคาด ตามที่ฉันทายไว้ไม่มีผิดเพี้ยน! สวรรค์จะต้องสร้างชายหนุ่มเฟอร์เฟคมามอบให้กับชายหนุ่มเท่านั้น ผู้หญิงอย่างเราก็ทำได้เพียงถูกชายผู้บ้ากามหรือไม่ก็ชายชั่วพวกนั้นครอบงำ” เฉียวอี้ยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล เปลี่ยนเรื่องไปโดยไม่รู้ตัว

นี่เป็นเรื่องสะเทือนขวัญชัดๆ แน่นอนว่าฉันรู้ตั้งนานแล้ว แต่ประเด็นก็คือเฉียวอี้ทราบเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?

คงไม่ใช่เพราะเมื่อวานตอนฉันเมาโทรไปบอกเธอหรอกนะ?

ฉันเงยหน้าขึ้น เห็นมีดปังตอขนาดใหญ่เป็นเงาวาวห้อยอยู่บนศีรษะอย่างเลือนลาง ไม่รู้ว่ามันจะตกลงมาสับหัวฉันเมื่อไหร่

ฉันสั่นเทาไปทั้งตัว ถามเธออย่างหวาดระแวง “เธอรู้ได้ยังไง?”

“ไม่เพียงแค่ฉันเท่านั้นที่รู้ ทั้งเมืองฮวา อ้อ ไม่สิ ชาวเน็ตทั้งโลกเลยมั้งที่รู้!” เฉียวอี้ยื่นโทรศัพท์มาข้างหน้า “วีดีโอ ถ่ายทอดสดตรงหน้างานเลย ทว่าฉันได้เก็บบันทึกไว้เรียบร้อย จะดูเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น อีกทั้งตอนนี้ได้กระจายไปทั่วเว็บไซต์ตามอินเทอร์เน็ตแล้ว คาดว่าสีชิงชวนจะต้องทำการลบอีกสักพักเลยถึงจะลบได้ทั้งหมด”

แสงไฟจากโทรศัพท์ของเฉียวอี้ส่องสว่างตรงหน้า ฉันจึงถามเธออย่างงุนงงไปว่า “ถ่ายทอดสดอะไร? เขาประกาศเปิดตัวแล้วหรอ?”

“ที่ไหนกัน วันนี้เป็นการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ทางความร่วมมือเมืองเทคโนโลยีของบริษัทสีซื่อกรุ๊ปกับบริษัทหงจีกรุ๊ปไม่ใช่หรือ ภรรยาของท่านประธานเป็นคนญี่ปุ่น การร่วมมือกันของบริษัทห้างหุ้นส่วนในประเทศญี่ปุ่นจะต้องมอบของขวัญให้กับบริษัทอีกฝ่าย สีจิ่นยวนมอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับภรรยาของท่านประธาน สุดท้าย สุดท้าย ฮาฮาฮา เธอดูสิ”

เฉียวอี้เปิดคลิปวีดีโอพร้อมกับยัดเข้ามาในมือของฉัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)