ยังไม่ทันได้ดูวีดีโอ แต่ฉันพอรู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อฉันได้เห็นในวีดีโอว่าป๋ออวี่ถือกระเป๋าหิ้วอันประณีตเดินไปหาภรรยาของท่านประธานคนนั้นก็รู้ได้ทันที
กระเป๋าในมือของเขาเป็นใบที่ฉันวางไว้ให้บนโต๊ะทำงานเขา และตั้งใจให้ในนามสีชิงชวน
มิน่าล่ะฉันวางไว้ในจุดที่ต้องตาขนาดนั้นเขากลับไม่พบมัน เขาคงนึกว่าเป็นของขวัญที่จะมอบให้กับภรรยาของท่านประธานแน่ หลายวันมานี้เขายุ่ง จึงไม่ได้แกะออกดู พอมาวันนี้เลยส่งเป็นของขวัญให้กับคุณหญิงของท่านประธานซะงั้น
ฉันรีบวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเรื่องราวทั้งหมด แล้วฉันก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองจะต้องมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินวันนี้แน่นอน
ฉันเหล่ตาดูวีดีโอด้วยตาข้างเดียว เพราะฉันไม่กล้าใช้สายตาทั้งสองข้างมอง กลัวว่าตาจะบอดทั้งสองข้าง
เห็นแค่ภรรยาของท่านประธานรับของขวัญที่ป๋ออวี่ยื่นให้กับเธอ จากนั้นก็โค้งคำนับพร้อมกับกล่าวขอบคุณ และได้แกะมันทันที บางทีขนบธรรมเนียมของพวกเขาอาจเป็นการแกะของขวัญทันทีที่รับมา จากนั้นก็ต้องชมเชยมัน
เธอเปิดออกพร้อมกับหยิบกระดุมแขนเสื้อจากข้างในออกมา แสดงสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นก็หยิบแผ่นการ์ดที่ฉันปลอมแปลงเป็นสีชิงชวนเขียนให้กับป๋ออวี่ขึ้นมา
ภรรยาของท่านประธานอ่านข้อความบนแผ่นการ์ดทุกตัวอักษรทุกประโยคโดยใช้ภาษาถิ่นของเมืองปักกิ่ง
“ป๋ออวี่สุดที่รัก: ผู้ใดที่รู้ว่าข้าถวิลหาสิ่งใด ผู้นั้นย่อมตระหนักได้ว่าข้าทุกข์ระทมกับมันเพียงไหน การคะนึงหานิจนิรันดร์นั้นคือภาพแห่งความทรงจำตลอดกาล แม้นเป็นการหวนคิดเพียงช่วงเวลาอันสั้น ทว่ามันกลับไร้ที่สิ้นสุด แม้นจะเหลือข้าอยู่เพียงผู้เดียวในใต้หล้า เหตุไฉนร่วมเกิดแต่ไม่ร่วมตาย?”
ฉันชอบกลอนโบราณมาตั้งแต่เด็กซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากคุณแม่ โดยเฉพาะบทกวีแห่งความรักแนวเศร้าโศกเสียใจ ดังนั้นฉันจึงเลือกบทกวีแห่งความรักที่เป็นฉบับต้นแบบ ต่อให้เป็นคนที่ไม่ชอบกลอนโบราณก็มองออกได้ภายในพริบตาเดียว ฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะชัดเจนเลยทีเดียว ป๋ออวี่มองปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าสีชิงชวนรักเขาใจแทบขาดดิ้น
ภรรยาของท่านประธานอาจจะไม่ค่อยเข้าใจถึงวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของประเทศจีน ถึงแม้จะท่องบทกวีได้ไพเราะเพราะพริ้ง แต่ไม่เข้าใจความหมายของมัน ทว่าท่านประธานที่ยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าเปลี่ยนทันที
ท่านประธานเป็นคนจีน รู้ว่านี่คือบทกวีรัก สีหน้าออกแต่กลับได้ยินภรรยาของเขาท่องต่อไป
“กุมมือของคุณอยู่เคียงข้างจนแก่เฒ่า รักคุณตลอดไป สีชิงชวน”
ในคลิปเกิดความเงียบสงัดทั้งฮอลล์เป็นเวลา 1 นาที ประหนึ่งว่ากดปุ่มพอสเลย แต่ฉันรู้ว่าคลิปยังคงดำเนินต่อไป
ในตอนนั้นสื่อมวลชนจำนวนมากกำลังถ่ายทอดสด
ฉันถือโทรศัพท์ของเฉียวอี้อยู่ในมือตัวแข็งทื่ออยู่สักพัก ราวกับโดนจี้จุดยังไงยังนั้น
เหงื่อของฉันไหลติ๋งๆจากทางแผ่นหลัง
ฉันตายแน่ ฉันบอกตัวฉันเอง
“เซียวเซิง” เฉียวอี้หยิบโทรศัพท์ออกจากในมือของฉัน “ลุ้นไหมล่ะ?”
โครตจะลุ้นเลย
ใครจะไปนึกว่าของขวัญของฉันส่งออกไปแล้วเป็นเวลาสองวันป๋ออวี่ไม่ได้ดูเลย แถมยังนึกว่าเป็นของขวัญที่มอบให้กับภรรยาของท่านประธานอีก
แต่ก็ช่างเถอะ ประเด็นคืออยู่ต่อหน้าผู้คนและสื่อมวลชนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ก็เท่ากับว่าประกาศให้คนทั้งโลกได้รับรู้หมดแล้ว
ปัญหานี้ เหมือนว่าจะใหญ่โตมโหฬาร
เฉียวอี้เขย่งดูอยู่ด้านข้างโดยที่ไม่กลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ “เธอดูสีหน้าของสีชิงชวนสิ ฮาฮาฮา สุดๆไปเลย ชาตินี้คงไม่เคยได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของเขาแล้ว”
เฉียวอี้กดเปิดวีดีโอ “ว้าว เธอดูสิ สีชิงชวนสีหน้าท่าทางเหมือนคนขี้ไม่ออกเลย”
ฉันมองไปปราดเดียว ตกใจจนเกือบจะฉี่ราด
เขามองเข้ามาในกล้อง ราวกับกำลังจ้องเขม่งฉันอยู่เลย
ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าในสายตานั้นมีอะไร ความเฉียบคมมีแน่นอน มองจากหน้าจอโทรศัพท์ฉันยังรู้สึกว่าเหมือนจะโดนเขายิงจนกลายเป็นเม่นตัวหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...