การเต้นรำจังหวะวอลซ์นั้นเป็นการผสมผสานท่าเต้นเร็วสามจังหวะและช้าสามจังหวะ แค่ฟังชื่อก็พอจะเข้าใจได้แล้วว่าตอนเต้นเร็วสามจังหวะนั้นต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ อย่างเพลิดเพลิน ทั้งยังมีท่าหมุนตัวเยอะมาก
เวลาที่ฉันหมุนตัว ชุดราตรีของฉันจะสวยงามมาก เหมือนดอกไอริสสีม่วงกำลังบานสะพรั่ง สวยจนกระทั่งตัวฉันเองก็ยังเคลิบเคลิ้มตามไปด้วย
ฉันไม่ได้ไปร่วมงานเต้นรำนานแล้ว ทว่าสิ่งที่ซึมซับเข้ากระดูกมันไม่มีทางลืมง่ายๆ หรอก ไฟที่ฉายไปมาอยู่เหนือศีรษะฉันในที่สุด ฉันเต้นได้นิ่มนวลยิ่งขึ้น รู้สึกว่าตัวเองจะลอยขึ้นไปแล้ว
สีชิงชวนที่โอบเอวฉันให้หมุนตัวเผยแววตาแห่งความชื่นชมต่อฉันออกมาด้วยแวบหนึ่ง
เมื่อเต้นจบ ฉันก็แอบหายใจหอบนิดๆ หลังจากที่ฉันทำท่าย่อกายคำนับแล้ว พิธีกรก็เอ่ยเสียงตื่นเต้นขึ้นมาว่า “เต้นได้สวยจริงๆครับ การเต้นรำของคุณชายสีกับสุภาพสตรีท่านนี้สวยไร้ที่ติดเลยครับ”
ดูเหมือนสีชิงชวนยังมีพลังงานที่จะแสดงต่อ เขาเต้นได้ดีมากเลย คนเก่งมักจะมีความสามารถพิเศษรอบด้านแบบนี้แหละ และจะมีด้านอื่นให้ได้รับชมกันเรื่อยๆ เขางานยุ่งขนาดนี้ยังมีเวลาเรียนเต้นรำอีก ไม่ธรรมดาจริงๆ
เขาจูงมือฉันแล้วเดินไปด้านข้างฟลอร์เต้นรำ ต่อจากนี้คนอื่นก็จะเข้าร่วมการเต้นได้อย่างอิสระเสรี
เขากระซิบข้างหูฉันว่า “คุณหลอกให้คนอื่นเชื่อสนิทว่าตัวเองเต้นไม่เป็น แต่พอถึงเวลาก็แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ คุณทำสำเร็จแล้ว แต่คุณลองดูสีหน้าแม่ผมซะก่อนนะ”
เขากล่าวจบก็ยิ้มจากไป ฉันหันขวับไปมองหน้าคุณแม่สี ซึ่งไม่ดีดังคาด เธอไม่อยากให้ฉันเต้นรำ แต่ฉันดันเข้ามาเต้นสวมรอยเซียวซือซะได้ เอาไงดี? จะเข้าไปขอโทษดีไหม?
เฉียวอี้วิ่งเข้ามาจับแขนฉันด้วยความดีใจ “เซียวเซิง เธอเต้นเก่งจังเลย”
“เธอปล่อยก่อน ฉันเจ็บ” เธอเป็นนักกีฬา เก่งทั้งกระโดดสูงข้ามบาร์และทุ่มน้ำหนัก จึงมีแรงเยอะมาก
เธอปล่อยมือ “เธอเต้นเก่งขนาดนี้ยังไม่อยากเต้นอีก ทำไมต้องให้คนอื่นได้หน้าด้วย”
“มีอะไรให้น่าเต้นกัน ยังไงก็ต้องหย่ากันอยู่ดี” ฉันบ่นพึมพำเสียงเบา
เธอโน้มตัวเข้ามากระซิบว่า “ก็ตอนนั้นบอกแล้วไงว่าอย่าเซ็นสัญญานั่น”
“เขาไม่ชอบฉัน และฉันก็ไม่ได้ชอบเขา ทำไมต้องผูกมัดอีกฝ่ายไว้ด้วย”
“ก็ไม่แน่นะ อยู่กันนานๆเข้า อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ เห้ย!” เธอบีบแขนฉันอีกรอบ “เธอเห็นหรือยัง เซียวซือเต้นคู่กับสีชิงชวนเป็นเพลงที่สองแล้ว ฉายาของเธอไม่ใช่ดอกบัวขาวบริสุทธิ์จอมหยิ่งหรอกหรือ รู้ทั้งรู้ว่าสีชิงชวนแต่งงานแล้ว แต่ยังหน้าด้านมายั่วเขาอีก?”
ฉันมองตาสายตาเฉียวอี้ จากนั้นก็เห็นเซียวซือกับสีชิงชวนเต้นอยู่ในฟลอร์เต้นรำ
คนหล่อคู่กับคนสวยก็เป็นภาพที่เจริญสายตายิ่ง ฉันไม่ได้อิจฉาสักนิด มองปราดหนึ่งแล้วก็หันหน้ากลับมา “ไปหาอะไรกินกัน ฉันหิวแล้ว”
ทันใดนั้นก็มีคนปรากฏตรงหน้าฉัน ทั้งยังเอื้อมมือมายังฉันด้วย “ผมควรเรียกว่าคุณเซียวหรือว่าคุณนายสีครับ?”
พอฉันเงยหน้ามองก็รู้ว่าคือคังจื่อไท่ แฟนของเซียวซือ
“เรียกฉันว่าเซียวเซิงเถอะค่ะ” ฉันกล่าว
“เต้นคู่กับผมหน่อยได้ไหมครับ?”
“เอ่อ...” ฉันไม่อยากเต้นเลย และสถานะของพวกเราก็ไม่ค่อยอำนวยเสียด้วย ฉันพยายามกลั่นกรองถ้อยคำปฏิเสธสุดชีวิต ทว่าเฉียวอี้กลับเอามือของฉันไปวางบนฝ่ามือของคังจื่อไท่ จากนั้นก็กระซิบบอกฉันว่า “เซียวซือไปเต้นกับผัวเธอ งั้นเธอก็เต้นกับแฟนหล่อนซะเลยสิ”
ไอ้เพื่อนจอมยุ่มย่าม ฉันอยากตบหน้าเธอสักฉาดเหลือเกิน ทว่าถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจึงได้แต่เข้าฟลอร์เต้นรำกับคังจื่อไท่
ครั้งนี้เต้นวอลซ์อีกแนวหนึ่ง ซึ่งฉันก็เต้นถนัดเหมือนกัน ทว่าหลังจากที่เต้นได้ไม่กี่สเต็ป ฉันก็พบว่าคงจื่อไท่เต้นไม่ค่อยเป็น
เพราะเขาเหยียบโดนเท้าของฉัน ฉันเลยคร่ำครวญเสียงเบา “โอ๊ย”
เขารีบขอโทษฉันทันที “ขอโทษครับ ครั้งต่อไปผมจะระวังครับ”
เขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเต้นเลย ฉันจึงต้องเต้นต่อ เขาพยายามพาฉันไปยังจุดที่สีชิงชวนกับเซียวซือเต้นอยู่ ฉันพอจะเดาจุดประสงค์ของเขาออก หากไม่ใช่เป็นการอวดสีชิงชวนก็คือการจับตามองเซียวซืออย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...