ฉันยัดลูกอมช็อกโกแลตเข้าปากเฉียวอี้หนึ่งเม็ด “แม่คุณคะ เธอช่วยให้ความร่วมมือในการต้อนรับตาสีชิงชวนนี่อย่างดีหน่อยได้ไหม อย่าไปยั่วโมโหเขา เธอยั่วเขาไม่ได้”
“ใครบอกว่าฉันยั่วเขาไม่ได้?”
ฉันกลอกตามองเธอที่ยังโกรธกระฟัดกระเฟียดอย่างเมตตา
“จริงๆ ความอดทนสีชิงชวนก็เยอะเหมือนกันนะ ครั้งก่อนที่เธอตบเขาต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนั้น เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเธอ”
“พูดยากนะเขาอะ ไม่แน่ต่อไปอาจจะคิดบัญชีฉันรวมทั้งหนี้เก่าแค้นใหม่เลยก็ได้”
“เพราะฉะนั้นตอนนี้เธออย่าทำอะไรรุนแรง”
ฉันเทปูลงในซิงค์ แต่ฉันล้างไม่เป็น ปูพวกนั้นมันยังเป็นๆ อยู่ มันอ้าก้ามปูและฉันก็กลัวว่ามันจะหนีบมือฉันอีก
เฉียวอี้ขันอาสา “มา ฉันจะใช้ช้อนซุปทุบมันให้สลบเลย”
“อย่านะ” เฉียวอี้เป็นคนแรงเยอะ ฉันกลัวว่าเธอจะใช้ช้อนซุปทุบปูจนมันกลายเป็นปูบด ถึงตอนนั้นไม่มีอะไรจะกินแล้วสีชิงชวนจะโวยวายขึ้นมาอีก
ฉันหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินออกไปหาสีชิงชวนเพื่อบอกให้เขามาช่วยล้างปู แต่ก็เจอกับสีชิงชวนที่หน้าประตูเข้าซะก่อน
เขามองฉัน “ล้างปูไม่เป็นเหรอ?”
เหมือนเขาจะอ่านใจออก เวลาพูดกับเขา ฉันทำเพียงแค่คิดในใจก็พอแล้ว
ฉันตอบรับ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องครัว
เฉียวอี้กำลังถือกระชอนสู้กับปูอยู่พอดี สีชิงชวนดึงตัวเธอออกไป “เตรียมเขียงกับมีดมาให้พร้อม”
สีชิงชวนบีบก้ามปูทั้งสองข้างเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ใช้แปรงขัดไปที่ตัวปู เขาทำมันอย่างชำนาญ ฉันจึงถามเขาอย่างแปลกใจ “คุณล้างปูเป็นได้ไง?”
“ไม่เคยล้าง”
“อย่ามาโม้” เฉียวอี้พูดแทรกขึ้น “ตอนคุณไม่เป็นโล้เป็นพายสมัยวัยรุ่น คุณถูกพ่อคุณเนรเทศไปล้างปูอยู่ต่างประเทศใช่ไหม?”
“ตอนนี้ผมก็ไม่ได้แก่นะ เพิ่งจะ 26” สีชิงชวนล้างปูเสร็จไปหนึ่งตัวอย่างรวดเร็ว เขานำมันไปวางบนเขียงและหยิบมีดขึ้นมาหั่นมันเป็นสองซีกอย่างว่องไวในครั้งเดียวจนเฉียวอี้ที่มองอยู่อ้าปากค้างอย่างตกใจ
“มีดที่กล้าหาญและรวดเร็ว”
“คุณเคยทำงานอยู่ในครัวใช่ไหม?” เฉียวอี้ยังถามต่อ
“เรื่องฆ่าปู ต้องเร็ว แม่นแล้วก็เด็ดเดี่ยว แค่สามคำ ถ้าเข้าใจก็ง่ายๆ” ระหว่างที่พูด ปูสี่ตัวก็ถูกสีชิงชวนหั่นเป็นแปดชิ้นและมีไข่สีเหลืองเต็มไปหมด
สีชิงชวนยิ้มจนฟันขาวๆ ของเขาโผล่ออกมาให้เห็นแปดซี่ “ผมแค่ฉลาดเฉยๆ”
เวลาสีชิงชวนชมตัวเองก็จะมีความน่ารักนิดหน่อย
ฉันกับเฉียวอี้สบตากันแวบหนึ่งในใจรู้ดีว่าสีชิงชวนเป็นคนที่จะเข้าไปแหย่ไม่ได้
ฉันทำปูผัดผงกะหรี่เป็น ครั้งก่อนฉันยืนดูตอนที่หนีอีโจวทำอยู่ข้างๆ จริงๆ แล้วมันทำง่ายมาก แค่ปูไม่กี่ตัวและผงกะหรี่นิดหน่อย ตอนที่กำลังใส่เครื่องปรุง ใส่เครื่องปรุงเท่าไร ผัดกี่นาที่ต้มกี่นาที เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ปกติเฉียวอี้เป็นคนกล้าหาญ ตอนฉันกำลังผัดปู เธอกลัวน้ำมันกระเด็นใส่ เธอจึงหลบออกไปอยู่ไกลๆ
สีชิงชวนช่วยฉันอยู่ไม่ห่าง เขาใช้ฝาหม้อที่เป็นแก้วใสๆ บังไว้ที่หน้าฉันเหมือนกับมันเป็นโล่กำบัง ฉันไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณเขาดีไหม แต่ฉันกำลังทำอาหารจึงรู้สึกว่าแบบนี้มันเกะกะมาก
ฉันผลักเขาออก “ไม่เป็นไร ถึงน้ำมันจะกระเด็นใส่ฉัน ทำให้เสียโฉมก็ถือเป็นการศัลยกรรม”
“ไม่ตลกเลยสักนิด” เขาตอบอย่างจริงจัง “อีกไม่กี่วันคุณต้องจัดงานแถลงข่าว ยังต้องเจอคนอีก”
เมื่อผัดหัวหอม ขิง และกระเทียมจนหอมก็ใส่ปูเข้าไปในกระทะ ไม่นานปูตัวสีฟ้าอมเขียวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เปลวไฟลุกโหมใส่กระทะบ้านเฉียวอี้ จากนั้นปูก็ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน
ฉันฉีดบรั่นดีเข้าไปและไฟก็ลุกขึ้นจากกระทะ เฉียวอี้โหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าประตูห้องครัว
ทันทีที่เปลวไฟพุ่งโหมออกมาจากกระทะ สีชิงชวนก็วางฝาหม้อลงและดึงฉันเข้าไปในอ้อมแขน ตะหลิวในมือฉันเคาะลงไปที่หน้าผากเขาทันที เขาตะลึง และฉันเองก็ตะลึงเช่นกัน
“คุณกอดฉันทำไม?” ฉันถามอย่างแปลกใจ
“รู้สึกเหมือนหม้อมันจะระเบิดแล้ว”
หาได้ยากจริงๆ ที่สีชิงชวนจะมีท่าทางไร้เดียงสาแบบนี้ เฉียวอี้ยังโวยวายอยู่ที่ประตูเหมือนเดิม “ไฟจะไหม้ห้องครัวบ้านฉันแล้ว พวกเธอจะกอดกันไปถึงเมื่อไหร่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...