สีชิงชวนจามไม่หยุด แถมเนื้อตัวยังเปียกปอนไปหมด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มืดมิด ฉันเหมือนจะเห็นหมอกสีขาวลอยออกมาจากตัวเขา มันเหมือนท่าทางเวลาผีในละครผีสางเทวดาที่หมดเวลาในการอยู่บนโลกมนุษย์แล้วกำลังจะลาจากโลกนี้ไป
ความรู้ความเข้าใจของฉันทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวมาก ฉันรีบหากล่องทิชชูในห้องส่งให้เขาทันที “สีชิงชวน คุณจะบรรลุเป็นเซียนแล้วเหรอ?”
กว่าเขาจะหยุดจามได้ก็ยากลำบากพอตัว เขาลุกขึ้นโดยพยุงตัวกับขอบเตียง ในตอนนั้นเองป๋ออวี่ก็เดินเข้ามา
เขาอาจจะอยู่ที่หน้าประตูตลอดก็ได้ แต่ฉันไม่ทันได้สนใจ
ในมือเขาถือผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนหนึ่ง “คุณสีไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะครับ ไม่งั้นจะไม่สบายเอาได้”
สีชิงชวนไม่ได้รับผ้าเช็ดตัวจากมือป๋ออวี่ไป มือเขายันกำแพงไว้แล้วมองฉันอย่างโมโห “ป่วยแล้วยังไง เมื่อกี้ฉันเกือบตายในทะเลไปแล้วด้วยซ้ำ?”
“สีชิงชวน” ฉันเอาผ้าเช็ดตัวในมือป๋ออวี่มายัดใส่มือเขา “คุณรีบไปอาบน้ำเร็ว ไปเร็ว”
เขาคงจะหนาวจนทนไม่ไหวจึงรับผ้าขนหนูในมือฉันแล้วหมุนตัวเข้าห้องน้ำไป
จนกระทั่งเสียงน้ำกระทบกับพื้นดังขึ้น ฉันจึงค่อยๆ รับรู้ถึงความเป็นจริงขึ้นมา
ไม่คิดว่าสีชิงชวนจะตามมาจริงๆ มันเหนือความคาดหมายของฉันจริงๆ
ฉันมองป๋ออวี่ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “เขาตามไปได้ยังไง นั่นมันในทะเลเลยนะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” สีหน้าป๋ออวี่ก็เต็มไปด้วยความไม่คาดคิดเหมือนกัน “ผมเดินเล่นบนดาดฟ้าเรือ กำลังเตรียมตัวจะเข้าห้องนอน แล้วผมก็เห็นเขาขับเรือเร็วลำหนึ่งเข้ามา”
“เขาขับเรือเร็วเหรอ? เขาตัวเปียกไปทั้งตัว ฉันคิดว่าเขาว่ายน้ำซะอีก”
“ข้างนอกฝนตก ตกหนักมากๆ เลยด้วย คุณสีขับฝ่าฝนมา”
“เขาบ้าไปแล้วเหรอ” ฉันตกใจจนพูดไม่ออก “ขับเรือเร็วตอนฝนตกมันอันตรายมากไม่ใช่เหรอ?”
“สภาพอากาศในทะเลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ฝนตกหนัก ไม่แน่อีกเดี๋ยวอาจจะมีฟ้าแลบฟ้าร้องก็ได้ อันตรายจริงๆ นั่นแหละครับ”
“ทำไมสีชิงชวนถึงบ้าดีเดือดขนาดนี้นะ?”
“ผมไม่เคยเห็นคุณสีคลั่งผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อนเลย” ป๋ออวี่งึมงำอยู่คนเดียว
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขางงๆ “หืม?”
ป๋ออวี่หมุนตัวไป “ผมไปหาก่อนนะครับว่ามียาชงแก้หวัดไหม จากเกาะมาถึงที่นี่ คุณสีขับเรือเร็วฝ่าฝนมาแบบนี้ก็ต้องตากฝนตั้งสองชั่วโมงกว่าเป็นอย่างต่ำ”
หลังจากที่เขาออกจากห้องไป สีชิงชวนก็ออกมาจากห้องน้ำ
บนเรือไม่มีเสื้อผ้าของเขาเหลืออยู่เลย เขาจึงทำได้เพียงใส่เสื้อคลุมอาบน้ำออกมา
ป๋ออวี่พูดไม่ผิดเลย จู่ๆ ด้านนอกก็เกิดฟ้าแลบ แสงสีชมพูจากฟ้าแลบสว่างวาบบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่อยู่ด้านหลังสีชิงชวน ทำให้ท้องฟ้าในยามราตรีที่เป็นผืนเดียวกันแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ
ในห้องยังมืดอยู่เหมือนเดิม แสงสีชมพูจากฟ้าแลบที่สว่างวาบทำให้ห้องสว่างขึ้นชั่วขณะ และมันทำให้ฉันเห็นดวงตาของสีชิงชวนได้อย่างชัดเจน มันแดงก่ำราวกับเลือดทั้งหมดจะไหลไปรวมอยู่ที่ดวงตาอย่างนั้นแหละ
ฉันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ฉันคิดว่าสีชิงชวนอาจจะบีบคือฉันตายได้
ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือมาทางฉัน ฉันตกใจจนร้องออกมา “สีชิงชวน มันไม่เกี่ยวกับป๋ออวี่ ฉันขอให้เขาพาฉันออกมาจากเกาะเอง”
เขาคว้าข้อมือฉันไว้ ส่วนมืออีกข้างก็โอบเอวฉันไว้ น่องของฉันชนเข้ากับขอบเตียง ยังดีที่เขาดึงฉันไว้ ไม่งั้นฉันก็คงล้มลงไปแล้ว
ฉันอาศัยแรงของเขาในการยืนให้มั่นคงแล้วมองไปที่ใบหน้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของเขา
“คุณยังจะมีน้ำใจอยู่อีกนะ มาถึงตอนนี้แล้วยังไม่ลืมช่วยพูดแทนป๋ออวี่อีก?”
ก็แน่สิ ฉันทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วยนี่ ไม่งั้นตอนนี้ป๋ออวี่คงได้นอนอย่างสงบสุขอยู่ที่วิลล่าบนเกาะแล้วล่ะ
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าฝ่ามือของสีชิงชวนที่แนบอยู่กับข้อมือของฉันมันร้อนมาก ฉันยื่นมือไปวัดไข้บนหน้าผากของเขาก็พบว่าที่หน้าผากมันร้อนยิ่งกว่า ขนาดที่ว่าถ้าเอาไข่มาทอดก็คงสุก
“สีชิงชวน คุณเป็นไข้หรือเปล่า?” ฉันถามอย่างหวาดกลัว
“ทำไมอยู่ๆ ถึงหนีออกมา” เขาถามฉันอย่างโหดเหี้ยม
“คุณนอนลงก่อน เดี๋ยวฉันไปหาน้ำมาให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...