สรุปเนื้อหา ตอนที่ 220 ฉันไม่ได้จะกดดันเธอ เซียวเซิง – พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung
บท ตอนที่ 220 ฉันไม่ได้จะกดดันเธอ เซียวเซิง ของ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Chompoo Prateung อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“ถ้าเธอมีเรื่องอยากคุยกับฉัน งั้นก็ออกไปส่งฉันละกัน” เซียวซือจับราวจับเอาไว้ “อย่าคุยกันบนบันได มันอันตราย”
ฉันเดินลงบันไดตามเซียวซือไปอย่างช้าๆ จากนั้นก็เดินออกนอกประตูมา
เมื่อเดินมาถึงสวนดอกไม้นอกคฤหาสน์ เธอก็หยุดเดินและจ้องมองมาที่ฉัน
“เซียวเซิง ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ฉันเองก็อยากพูดเหมือนกัน จริงๆ แล้วเธอไม่จำเป็นต้องกดดันเลย ที่ฉันพูดกับเธอไปเมื่อครั้งก่อน ฉันก็แค่อยากระบายเท่านั้น ไม่ได้จะกดดันเธอ ยังไงตอนนี้เธอกับชิงชวนก็เป็นสามีภรรยากัน ฉันไม่อยากให้เธอกดดันว่าเธอต้องหย่ากับชิงชวนเท่านั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับใจของเธอ ถ้าเธอรักชิงชวน งั้นฉันก็จะอวยพรให้พวกเธอ”
“อวยพรอะไร สีชิงชวนไม่ได้รักฉันสักหน่อย” ฉันละล่ำละลักออกไปอย่างรีบร้อน
“ฉันรู้” เธอยิ้มบางๆ “คนที่ค่อนข้างแข็งทื่ออย่างสีชิงชวน ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้ง่ายๆ หรอก”
ในดวงตาของเธอมีแสงระยิบระยับ ฉันเหมือนจะดูออกว่ามันดูมีความสุขเล็กน้อย
เมื่อสักครู่นี้สีชิงชวนให้คำมั่นสัญญาอะไรกับเธอไว้หรือเปล่า ทำไมทั้งๆ ที่เซียวซือเห็นสภาพแบบนั้นของฉัน แต่นอกจากเธอจะไม่ถือสาแล้วบนใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความสุขอีก?
ฉันเม้มปาก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี
จู่ๆ เซียวซือก็เอื้อมมือมาดึงมือของฉันไป “เธอทำชายเสื้อนอนยับหมดแล้ว”
ตอนนั้นเองฉันถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังม้วนชายเสื้อของสีชิงชวนโดยไม่รู้ตัว
เซียวซือจับข้อมือของฉันเอาไว้ตลอดเวลา “เซียวเซิง จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกผิดมากๆ มาโดยตลอด ตลอดเวลาที่เธออยู่ที่บ้านเราเธอไม่เคยได้สัมผัสช่วงเวลาที่มีความสุขเลย และเธอก็ไม่กล้าแสดงออกด้วยว่าเธอต้องการอะไร ถ้าเธอต้องการสีชิงชวน ฉันก็ยกให้เธอได้ จริงๆ นะ”
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่...” ฉันนึกคำพูดไม่ออก จึงเอ่ยออกไปได้แค่คำเดียว
“เธอต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเธอเองต้องการอะไร ถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามช่วงชิงเอามา ไม่มีของสิ่งไหนที่จะต้องเป็นของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น” เซียวซือเอ่ยออกมาด้วยความจริงใจเป็นอย่างมาก เป็นความจริงใจที่ทำเอาฉันรู้สึกอับอายขายหน้าที่สุด
ฉันได้แต่พยายามอธิบายว่าฉันไม่ได้มีใจที่อยากจะได้สีชิงชวนเลย “เซียวซือ พี่เข้าใจผิดแล้ว ฉันกับสีชิงชวนไม่มีอะไรจริงๆ ”
“แต่เธอ” เธอมองมาที่ฉัน “เธอไม่ใช่คนที่เปิดเผยมากนัก เธอจะไม่มีทางทำแบบนี้ต่อหน้าคนที่เธอไม่รู้สึกอะไรด้วยหรอก”
“ฉัน ฉัน...” ฉันเถียงไม่ออก เซียวซือพูดถูก
ฉันไม่มีทางเดินออกมาต่อหน้าคนอื่นด้วยสภาพที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวห่อตัวจริงๆ สีชิงชวนทำฉันเสียคนไปหมดแล้ว
เขามักจะเข้ามาอย่างกะทันหันในตอนที่ฉันอาบน้ำอยู่ และมักจะแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มของฉันในตอนที่ฉันหลับ
ฉันกับเขากลายเป็นสถานะที่แปลกมากๆ ไปแล้ว
เป็นสามีภรรยากัน แต่ก็ไม่ใช่สามีภรรยากัน
“เซียวซือ เซียวซือ พี่ฟังฉันก่อนนะ” ฉันขอให้เธอฟังฉันพูด แต่ฉันกลับพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
เธอบีบมือฉันอย่างเข้าใจ “ฉันเข้าใจ ผู้ชายอย่างชิงชวน หญิงสาวที่อยู่รอบตัวเขาไม่มีทางไม่ถลำลึกเข้าไป ไม่มีใครรอดพ้นเสน่ห์ของเขาไปได้”
“เซียวซือ” ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ดวงตาของเธอสวยมาก มันซ่อนตัวอยู่ในแสงจันทร์ที่ไม่ค่อยสว่างนักของค่ำคืนนี้
เธอสางผมลอนยาวเล็กน้อย จากนั้นก็กลับมากุมมือของฉันใหม่อีกครั้ง “เธอไม่ต้องกดดันจริงๆ นะ ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ ฉันก็บอกกับชิงชวนอยู่เหมือนกันว่าอย่าบังคับเธอ และก็อย่าฝืนใจตัวเองเหมือนกัน นี่ก็ดึกแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
ฉันทั้งเข้าใจและก็ไม่เข้าใจคำพูดของเซียวซือ มันสับสนมึนงงไปหมด
ฉันมองตามเซียวซือเดินออกประตูของสวนดอกไม้ไป เมื่อได้ยินเสียงสตาร์ทรถและเสียงขับรถออกไปแล้ว ฉันจึงหันหลังกลับ
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองข้างบนโดยไม่รู้ตัว และเห็นหน้าต่างห้องของสีชงชวนที่อยู่บนชั้นสอง เขากำลังยืนมองฉันจากตรงนั้น
ฉันไม่รู้ว่าเขาได้ยินที่ฉันกับเซียวซือคุยกันไหม กลางคืนมันมืดมาก ฉันเองก็มองเห็นหน้าเขาไม่ชัดเหมือนกัน
ฉันกับเขาจ้องมองกันอยู่แบบนี้ ฉันเงยหน้าจนปวดคอไปหมด
สุดท้ายฉันก็ได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดของสีชิงชวนกำลังตะโกนมา “คุณกะจะยืนอยู่ตรงนั้นไปตลอดชีวิตเลยไหม? ”
ฉันรีบเดินเข้าไปข้างใน ช่วงต้นฤดูร้อนจะมียุง ขาของฉันเปลือยเปล่าก็เลยถูกยุงกัดไปหลายตุ่มเลย
ปกติถ้ามีเฉียวอี้อยู่ด้วยยุงจะไม่กัดฉัน พอตอนนี้เฉียวอี้ไม่อยู่ พวกมันก็เลยมากัดฉัน
ฉันยืนเกาขาอยู่ตรงหน้าสีชิงชวน บนมือของเขามีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ ไม่รู้ว่าไปเจาะไว้ตั้งแต่เมื่อไร และเขายังถือเสาเหล็กที่เอาไว้สำหรับแขวนถุงน้ำเกลือมาเองอีกด้วย
“ขาไปโดนอะไรมา? ”
“ยุงกัดฉัน”
“คุณหาอะไร? ”
“เซียวซือไม่ได้ทำอะไรหล่นไว้ใช่ไหม? ”
สีชิงชวนมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม “คุณกลัวว่าจู่ๆ เธอจะกลับมาเจอคุณนอนอยู่ข้างผมเหรอ? คุณอย่าเข้าใจผิดไปสิ คุณเป็นภรรยา แต่เธอไม่ใช่”
ทำไมฉันถึงได้รู้สึกหวาดกลัวแบบนี้นะ เวลาถูกเซียวซือเจอว่าฉันอยู่กับสีชิงชวน ฉันก็มักจะมีความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหัวขโมย
ฉันนอนต่อไปและหลับตาลง สีชิงชวนยังไม่หลับ เขายังอ่านเอกสารอยู่
ฉันพลิกตัว “คุณก็นอนเร็วหน่อยเถอะ คุณยังป่วยอยู่นะ ระวังจะตายไม่รู้ตัว”
“ผมยังให้น้ำเกลืออยู่นะ กลัวว่าตอนที่น้ำเกลือหมดแล้วอากาศมันจะเข้าไปจนกลายเป็นคางคกเอาได้”
โอ้ จริงด้วย ฉันลืมไปเลย
ฉันลืมตาขึ้น “งั้นให้ฉันเฝ้าไหม คุณก็หลับไป”
“ผมกลัวว่าคุณจะวางแผนลอบฆ่าสามีน่ะสิ” เขาใช้นิ้วมือกดเปลือกตาของฉันให้ปิดลงเหมือนในโทรทัศน์เวลาที่คนตายตาไม่หลับ “คุณนอนก่อนเลย อีกเดี๋ยวผมก็นอนแล้ว”
ฉันนอนอยู่ข้างๆ สีชิงชวนและหลับตาลง
เมื่อก่อนฉันเคยจินตนาการถึงชีวิตหลังแต่งงานของฉัน ฉันกับเขานอนอยู่บนเตียง เขากำลังอ่านหนังสือ ส่วนฉันก็กำลังนอนหลับ
ฉันชอบความรู้สึกที่ฉันสะลึมสะลือเคลิบเคลิ้ม ส่วนอีกฝ่ายก็ยังคงตื่นอยู่ รอให้ฉันหลับไปก่อนแล้วเขาค่อยนอนแบบนั้นมาก
ฉันไม่ชอบการตื่นมาแล้วต้องเผชิญหน้ากับโลกทั้งใบตัวคนเดียว
ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฉันถึงเปิดเผยตัวเองขนาดนั้นเวลาที่อยู่กับสีชิงชวน เป็นเพราะว่าฉันกลัวความโดดเดี่ยว และสีชิงชวนก็เข้ามาคลายความโดดเดี่ยวของฉันพอดี
ฉันกลัวการอยู่คนเดียว ขอแค่มีคนอยู่เป็นเพื่อนฉัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ได้หมดทั้งนั้น
จะสีชิงชวนหรือว่าจะเป็นคนอื่นก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...