สายลมแรงๆ พัดเข้าใส่จนฉันรู้สึกเวียนหัวไปหมด ครั้งนี้สีชิงชวนทำให้ฉันรู้สึกหลงทาง
บางที เขาคงคิดว่าก่อนหน้านี้เขาอ่อนโยนกับฉันมากเกินไป ตอนนี้จึงทำให้ฉันได้เห็นว่าใบหน้าภายใต้รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นมันเป็นยังไงกันแน่
ฉันควรทำยังไงดี?
ฉันหันกลับไปมองก็เห็นว่ารถของเฉียวอี้ขับห่างจากเราไปไกลแล้ว ฉันจึงทำได้เพียงไล่ตามรถของสีชิงชวนไป เพราะรถของเขาลงระดับความเร็วลงแล้ว
บางครั้งฉันก็ไม่สามารถถอยหลังกลับได้ และทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
ฉันฝ่าฝนไล่ตามรถของสีชิงชวนไป แต่ในตอนที่มีฉันสัมผัสกับมือจับประตูอีกครั้ง รถของเขาก็ขับเร็วขึ้นอีกครั้งเช่นกัน ทิ้งฉันที่เปียกซ่กไปทั้งตัวเพราะน้ำจากแอ่งน้ำที่เขาขับผ่านกระเด็นใส่ไว้ข้างหลัง
ฉันยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางสายฝน ตอนนี้ร่มเหลือแต่โครงและใช้การไม่ได้อีกต่อไป
จิตใจฉันเลื่อนลอยและรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับสายฝนที่ตกลงมาจนทุกอย่างดูพร่าเลือน
ฉันกำลังคิดว่า ฉันจะกลับหาเฉียวอี้ ขึ้นไปนั่งบนรถที่ไม่ได้มีฝนตกจนชุ่มฉ่ำแบบนี้แล้วรอให้รถลากมารับพวกเรา แบบนั้นจะดีไหม?
แต่ฉันกลับไปก็จะทำให้เธอลำบากไปด้วยเปล่าๆ ถ้าไม่มีรถลากมา เธอไม่ต้องรอในรถทั้งคืนหรอกเหรอ?
ฉันไม่รู้ว่าสีชิงชวนจะทำอะไร แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองจะต้องทำอะไรต่อไป
ตอนนี้ฉันอยากพูดคำหยาบชนิดด่าพ่อล่อแม่เลยด้วยซ้ำ แต่ฉันรู้ว่ามันคงไม่ได้ดูเท่เลยสักนิด
ฉันต้องยอมรับชะตากรรม ใครให้ฉันต้องมาพบเจอคนที่ไม่ว่าจะสักกี่ชาติก็ยังเข้าใจยากอย่างสีชิงชวนกันล่ะ
ฉันไม่ตามเขาต่อแล้วก็ไม่กลับไปด้วย ยืนอยู่ที่เดิมนี่แหละ ร่มไร้ประสิทธิภาพในการกันฝนอย่างที่มันควรจะเป็นไปแล้ว ฝนจึงเทใส่หัวฉันเต็มๆ หนาวชะมัด
ฉันกะจะตากฝนให้ตายๆ ไปซะ บางทียิ่งหนาวก็ยิ่งมีสติมากขึ้น
ในหมอกฝน ฉันเห็นว่ารถของสีชิงชวนจอดลง ใครคนหนึ่งเดินกางร่มลงมาจากรถและเดินมาทางฉัน
เขาเดินเร็วมากจนแทบจะเหมือนกับวิ่งอยู่แล้ว เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันถึงเห็นได้ชัดๆ ว่าคนคนนั้นที่ว่าก็คือสีชิงชวน
เขาลงมาจากรถทำไม เห็นว่าฉันไม่ไปก็เลยกลับมาทรมานฉันอีกงั้นเหรอ?
ฉันติดเงินเขาเท่าไหร่กันนะ ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้?
เขาหยุดลงตรงหน้าฉันและขยับร่มคันใหญ่มาบังไว้เหนือศีรษะฉัน ฝนตกหนักและลมก็แรงมากจริงๆ เสียงของเขาและใบหน้าของเขาล่องลอยอยู่ในหมอกฝน
ฉันได้ยินเขาตะโกนใส่ฉันอย่างเลือนราง “คุณรู้ตัวไหมว่าคุณมันโง่แค่ไหน?”
ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันแค่ขี้ขลาด
ท่ามกลางสายฝนและลมที่โหมกระหน่ำ เขายังมีหน้ามาสงสัยในระดับสติปัญญาฉันอีกนะ สุดยอดจริงๆ
“สภาพแวดล้อมแย่ๆ แบบนี้ คุณทำได้แค่พยายามวิ่งไปข้างหน้ามันก็ยังพอมีหวัง ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณก็กลับไปหาเฉียวอี้ที่รถก็ได้ แต่คุณกลับหยุดยืนอยู่ที่เดิม ถ้ามีรถมาข้างหลังแล้วมองไม่เห็นคุณ ตอนนี้คุณคงถูกชนตายไปนานแล้ว!” เขาแผดเสียงออกมา สายฝนโปรยปรายผ่านใบหน้าหล่อเหลาของเขา
ตอนนี้เขาเหมือนกับจอมมารและเทวดาที่อยู่ในร่างเดียวกันเลย
ฉันหนาวจนตัวสั่นไปหมดจึงไม่สามารถตอบคำถามเขาออกไปได้
เขากลับเดินเข้ามาดึงทึ้งเสื้อผ้าของฉัน ฉันได้แต่ขัดขืนเขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณทำอะไร?”
“อย่าขยับ ใส่เสื้อผ้าเปียกๆ เดี๋ยวจะป่วยเอา” เขาดึงเสื้อโค้ตบางๆ ที่อยู่บนร่างฉันออก หยดน้ำฝนตกกระทบใส่ตัวฉัน ใส่เสื้อกับถอดเสื้อออกมันไม่ต่างกันเลยจริงๆ หนาวเหมือนกันทั้งคู่
เขาถอดเสื้อโค้ตของตัวเองแล้วเอามาคลุมให้ฉัน จากนั้นก็โอบไหล่ฉันไว้และพาไปที่รถของเขา
ฉันเดินตามเขาไปอย่างมึนๆ เขาเป็นอะไรไปอีกแล้วเนี่ย? จู่ๆ ก็เลิกทรมานฉันแล้ว ทั้งลงมาจากรถแถมยังเอาเสื้อมาคลุมให้ฉันอีก?
เวอร์ชันอัปเกรดของการตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ?
ฉันหนาวเกินกว่าจะคิดออก ไม่นานก็ถูกเขาจับยัดเข้าไปในรถ เขาบอกให้คนขับรถเปิดฮีตเตอร์ ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูร้อน การเปิดฮีตเตอร์นี่มันก็ยังไงอยู่นะ
แต่ทว่าเมื่อลมร้อนๆ พัดใส่ตัวฉัน ไม่นานฉันก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา อีกทั้งชุดของเขาทั้งยาวทั้งใหญ่จนมันห่อฉันไว้ได้ทั้งตัว
เขายัดแก้วน้ำร้อนแก้วหนึ่งใส่มือฉัน ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าเขาไปเอาน้ำร้อนมาจากไหน ฉันจิบมันทีละน้อยจนกระทั่งรู้สึกอุ่นขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...