พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 252

ร่างกายฉันมีสายธนูตึงๆ อยู่เส้นหนึ่ง เมื่อครู่ดึงตึงเกินไป ตอนนี้มันจึงขาดแล้ว

ฉันหลับไปด้วยความมึน แต่จู่ๆ สีชิงชวนก็เกิดพูดมากขึ้นมา

เขาพูดกับฉันตลอดเวลา “เซียวเซิง คุณอย่าหลับสิ”

“เซียวเซิง คุณไม่สบายตรงไหน?”

“รอบเดือนคุณเพิ่งมาเมื่อเดือนก่อนเองไม่ใช่เหรอ?”

“เซียวเซิง ทำไมจู่ๆ หน้าคุณเย็นขนาดนี้ล่ะ?”

เขาเสียงดังมาก ดังมากจริงๆ

แถมยังตบแก้มฉันอยู่ตลอดอีกต่างหาก ต่อให้ฉันไม่ป่วยตาย ฉันก็คงได้ตายเพราะโดนเขาตบเนี่ยแหละ

ฉันพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นและมองเขาด้วยความอ่อนแรงแวบหนึ่ง

ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กับฉันมากจนปลายจมูกแทบจะชนกับปลายจมูกของฉันอยู่แล้ว “เซียวเซิง คุณเป็นยังไงบ้าง?”

“ถ้าคุณเงียบฉันก็คงไม่เป็นไร” ฉันพูดอย่างอ่อนแรง “ฉันอยากนอน”

“อย่านอน”

“ไม่ได้จะหลับไม่ตื่นสักหน่อย” ฉันยอมหลับตายดีกว่า

ชีวิตคนเรามันยากลำบากมากจริงๆ ฉันมองไม่เห็นความหวังอีกต่อไป

ในระหว่างที่สติกำลังเลอะเลือน ฉันถูกสีชิงชวนอุ้มลงจากรถและอุ้มเข้าไปในโรงพยาบาล ถึงฉันจะหลับตาอยู่ แต่ก็ได้กลิ่นของโรงพยาบาล และยังได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจในโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน

ฉันถูกสีชิงชวนพามาที่ห้องผู้ป่วย รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังถอดเสื้อผ้าของฉันอยู่

ฉันเปิดตาขึ้นมองแวบหนึ่งก็เห็นใบหน้าของสีชิงชวน

ฉันรู้สึกจนปัญญาและประหลาดใจมากที่ในเวลาแบบนี้เขาก็ยังไม่ลืมที่จะลวนลามฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะมาต่อต้านและปฏิเสธเขาได้เลย

เขาถอดเดรส รวมถึงเสื้อชั้นในของฉันออกไปอย่างราบรื่น

ฉันร้องครวญครางอย่างหมดแรง “ในห้องผู้ป่วยแบบนั้นจะไม่สะดวกหรือเปล่า”

“เลิกพูดมาก” เขายังดุฉันเหมือนเคย แต่ผ้าขนหนูอุ่นๆ ที่เช็ดลงบนตัวฉันนั้นกลับนุ่มนวลอ่อนโยน

อ้อ เขาไม่ได้จะลวนลามฉัน เขากำลังจะเช็ดตัวให้ฉันต่างหาก

ตัวฉันร้อนมาก ความเย็นสบายหลังจากถูกผ้าขนหนูอุ่นๆ เช็ดที่ผิวมันสบายมากจริงๆ

ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นมองอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าใช่สีชิงชวนจริงๆ หรือเปล่าที่กำลังเช็ดตัวให้ฉันอยู่ เพราะฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะอ่อนโยนกับฉันได้มากขนาดนี้จริงๆ

เป็นเขาจริงๆ นั่นแหละ เพราะในห้องมีแค่เราสองคนเท่านั้น และผ้าม่านก็ปิดสนิทมาก

เขาเช็ดพลางวิจารณ์ไปด้วย “ทำไมคุณผอมแบบนี้? ไม่มีเนื้อหนังเลยสักนิด”

พูดเหมือนเขาเคยใช้ที่ชั่งชั่งมาก่อนงั้นแหละ

เขาเช็ดตัวให้ฉันจนมาถึงเอว ในตอนที่กำลังเช็ดลงไปข้างล่าง ฉันก็จับกางเกงขาสั้นของฉันเอาไว้

ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะป่วย แต่ฉันก็รู้สึกอายอยู่ดี

“อะไร?” เขาพูดอย่างโหดๆ

“ข้างล่างไม่ต้องก็ได้” ฉันบอก

“มีขวดหยกแกะสลับใบหนึ่งที่คุณย่าผมชอบมาก” เขาบอกฉัน

จู่ๆ เขาพูดถึงขวดหยกแกะสลักขึ้นมาทำไม ฉันไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร จึงมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

ฉันป่วยจนรู้สึกเวียนหัวและหน้ามืดไปหมด ภาพเขาในสายตาของฉันมันพร่าเบลอแวบไปแวบมา

เขาพูดกับฉันทีละประโยคๆ “ท่านรักและทะนุถนอมขวดหยกแกะสลักของท่านมาก ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะ ตอนที่ต้องเอามาเช็ด มือท่านสั่นจนท่านไม่กล้าเช็ดเอง ท่านก็เลยให้ผมเช็ดให้”

ฉันยังไม่เข้าใจความหมายของเขาอยู่ดี เช็ดขวดหยดแกะสลักอะไรของเขา

“ตอนนี้ในสายตาของผม คุณก็เหมือนกับขวดหยกแกะสลักของย่าผม ไม่ต่างอะไรกันเลย”

อ้อ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ฉันก็คือสิ่งของอย่างหนึ่ง

สีชิงชวนมีความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ก็คือไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่ดูเป็นมิตรกับฉันแค่หน่อยเดียว ในตอนที่ฉันกำลังจะรู้สึกซาบซึ้ง เขาก็จะทำให้ความซึ้งใจนั้นของฉันอัตรธานหายไปในชั่วพริบตา

ฉันล้มเลิกความคิดที่จะขัดขืนแล้ว ยังไงซะในสายตาของเขา ฉันมันก็แค่ขวดหยกแกะสลักใบหนึ่งเท่านั้น

เมื่อเขาเช็ดขวดแกะสลักเสร็จ อ้อ ไม่ใช่สิ เมื่อเขาเช็ดตัวฉันเสร็จ เขาก็ช่วยฉันเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน เป็นชุดนอนปกติที่ฉันใส่อยู่ประจำ จากนั้นพยาบาลก็เข้ามาเจาะสายน้ำเกลือให้ฉัน

ฉันนอนราบและรู้สึกได้ถึงความเย็นและชุ่มชื้นของตัวยาแต่ละหยดๆ ที่ไหลเข้ามาในเส้นเลือดของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกเย็นสบายมากขึ้นเยอะเลย

สีชิงชวนนั่งอยู่ข้างๆ และมองฉันอยู่อย่างนั้น สายตาของเขาร้อนแรงมาก ฉันจึงทำได้เพียงเบนหน้าออกไป จะได้ไม่ต้องสบตากับเขา

ฉันหลับไปด้วยความมึนงง เมื่อให้น้ำเกลือหมดขวด เขาก็ยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากฉันอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)