ไม่นานโจ๊กกระดูกหมูของฉันก็มาถึง นอกจากนี้ยังมีบ๊วยดองและรากบัวเปรี้ยวหวานด้วย ช่วยให้ทานได้ดีทั้งยังเจริญอาหารอีกด้วย
เดิมทีฉันไม่ได้อยากกินอะไรเลยจริงๆ แต่เมื่อได้กลิ่นเปรี้ยวๆ หวานๆ นี่แล้วก็รู้สึกอยากทานอาหารขึ้นมาบ้าง
สีชิงชวนช่วยปรับเตียงให้ฉัน ฉันเอนตัวพิงกับเตียงและมองเขาเทโจ๊กให้ฉันด้วยตัวเอง
ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่เขาทำดีกับฉันอย่างน่าเหลือเชื่อแบบนี้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนสีชิงชวนเพิ่งทรมานฉันอยู่เลย ตอนนี้มาปรนนิบัติรับใช้ฉันแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาบ้าไปแล้ว หรือว่าฉันจะถูกเขาทรมานจนบ้าไปก่อนกันแน่
โจ๊กกำลังร้อนกรุ่นได้ที่ ฉันกำลังจะยื่นมือไปรับ แต่เขากลับถือมันไว้อย่างนั้นโดยไม่มีทีท่าจะส่งมันให้ฉัน
“ผมป้อน” เขาพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “รอแป๊บ”
เขาตักขึ้นมาคำหนึ่งและเป่าให้หายร้อน ฉันสงสัยมากว่าในโจ๊กใส่สารหนูขาวไว้หรือเปล่า ไม่งั้นทำไมเขาต้องเอาใจฉันขนาดนี้?
“อ้าปาก” เขาเป่าเสร็จก็ยื่นช้อนมาจ่อที่ปากฉัน
ฉันลังเลสองจิตสองใจอยู่เล็กน้อย เขาจึงมองหน้าฉันและพูดขึ้น “ไม่ได้ใส่ยาหรอก”
เขารู้จักฉันดีจริงๆ เดาคำพูดที่ฉันกำลังลังเลอยู่ถูกทุกคำ
ฉันอ้าปาก จากนั้นเขาก็ป้อนโจ๊กใส่ปากฉัน
ฉันกินแล้วรู้เลยว่าเป็นฝีมือของเชฟใหญ่แห่งบ้านตระกูลสี ตุ๋นเนื้อได้แบบไม่มีเศษเนื้อเลยสักนิด มันละลายเข้าไปในข้าวหมดแล้ว เหมือนเนื้อครีมเข้มข้นและมีกลิ่นหอมกรุ่น บ๊วยก็เปรี้ยว ชวนเจริญอาหารมาก
เขาป้อนฉันอย่างช้าๆ พอฉันกินเสร็จคำหนึ่ง เขาก็รอให้แน่ใจก่อนว่าฉันกินไปแล้วจริงๆ เขาถึงจะป้อนคำต่อไป
สีชิงชวนก้มหน้า ตักขึ้นมาแต่ละคำเขาก็จะเป่ามันให้ด้วยทุกครั้ง จากนั้นก็ใช้ตะเกียบคีบบ๊วย หรือไม่ก็รากบัวเปรี้ยวหวานชิ้นเล็กๆ มาหนึ่งชิ้นและวางไว้ในช้อน ละเอียดราวกับกำลังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้เสร็จสมบูรณ์
ตอนที่เขาไม่ทำตัวดุๆ โหดๆ และเอาใจใส่ทั้งยังนุ่มนวลแบบนี้ มันชวนสับสนดีจริงๆ
ฉันมองเขาอย่างเหม่อลอย ไม่นานเขาก็รู้ตัวว่าฉันกำลังมองเขาอยู่ รอยยิ้มเย็นชาราวกับนักฆ่าที่เลือดเย็นไร้หัวใจคนหนึ่ง
“ตอนเด็กๆ ผมเคยป้อนหมา” รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนมุมปากของเขา “ผมก็เลยชำนาญขนาดนี้ไง”
ในหัวฉันไม่ควรมีภาพเพ้อฝันหรือเกิดความรู้สึกซาบซึ้งอะไรกับเขาทั้งนั้น
ฉันพูดไม่ออก เขาจึงพูดขึ้นมาอีก “หลังจากนั้นผมก็โดนหมากัด ผมก็เลยไม่เลี้ยงหมาอีก”
“ฉันไม่กัดคุณหรอก ฉันจะพยายามเป็นหมาที่ไม่ขวางหูขวางตาคุณด้วย” ฉันบอก
ฉันพูดไปตามน้ำ เขาไม่ได้เห็นฉันเป็นแค่หมาตัวหนึ่งอยู่หรือไง?
ทันใดนั้นมือของเขาที่ใช้ป้อนโจ๊กให้ฉันก็นิ่งค้างกลางอากาศทันที แววตาเขามีประกายที่ยากจะคาดเดาฉายอยู่ในนั้น
เขาชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้น “ผมไม่ได้บอกว่าคุณเป็นหมา แล้วก็ไม่ได้บอกว่าคุณเป็นหมาที่ผมเลี้ยง”
ฉันยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจกับมันและอ้าปากกว้าง “อ้า”
แต่เหมือนเขาจะโกรธขึ้นมาจริงๆ เขาวางถ้วยไว้บนโต๊ะหัวเตียงและไม่ยอมป้อนฉันต่อ “คุณโดนคนอื่นดูถูกแบบนี้แล้วคุณก็โต้ตอบเขาแบบนี้เหรอ?”
เขาเป็นคนพูดเองนี่ว่าฉันเป็นหมา เขาเป็นคนแหย่ฉันเอง ฉันแค่ยอมรับไปแต่โดยดี เขาจะโกรธมากกว่าฉันขนาดนี้ทำไม?
ฉันเดาอารมณ์ของสีชิงชวนไม่ออกเลยจริงๆ ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยง
ก็ได้… เขาไม่ป้อน งั้นฉันก็ไม่กิน ฉันหลับตาพักสมองเอาก็ได้
แต่สีชิงชวนกลับไม่ยอมให้ฉันนอน เขาตบแก้มฉันให้ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา “เซียวเซิง พ่อแม่คุณสอนให้คุณไม่ตอบโต้คนอื่นกลับเหรอ?”
“ไม่ใช่” ฉันตอบอย่างกระฟัดกระเฟียด
“งั้นทำไมทุกคนถึงรังแกคุณได้?”
“ตอนนี้คนที่รังแกฉันก็คือคุณ รู้ตัวหรือเปล่าคะ?” ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเขาจะชวนทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลไปทำไม “คุณพี่คะ ฉันป่วย ฉันรู้สึกทรมานมากนะ ฉันไม่มีแรงมาคิดกับคุณด้วยหรอกว่าฉันมีนิสัยขี้ขลาดหรือเปล่า”
เขาโกรธมากและดวงตาของเขาก็แดงก่ำ
แต่เขายังมีความเป็นคนอยู่บ้างจึงไม่ได้ทรมานฉันต่อ
เขายกถ้วยขึ้นมาอีกครั้ง “กินข้าว”
“กินไม่ลงแล้ว” โดนเขาทำใส่แบบนั้น ความอยากอาหารของฉันก็หมดไปไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว
“กินอีกหน่อย คุณกินไปแค่นิดเดียวเอง” เสียงของเขาไม่ได้ดุเท่าเมื่อกี้แล้ว
“กินไม่ลงแล้วจริงๆ”
เขาไม่ได้คะยั้นคะยอต่อ ทำเพียงประคองฉันให้นอนลง
ก็ยังไม่นับว่าเขาไม่มีความเป็นคนอยู่เลยหรอกนะ มันก็ยังพอหลงเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย
เขาปล่อยให้ฉันนอน ไม่ได้เซ้าซี้เรื่องที่ว่าฉันขี้ขลาดหรือไม่ขี้ขลาดต่อ
ฉันขี้ขลาดเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...