พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 269

เราเห็นเฉียวอี้ที่รีบวิ่งเข้ามาจากหน้าประตูห้องน้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเธอ

เธอยังคงใส่เสื้อยืดสีขาวเหมือนกับตอนที่มาหาฉันที่โรงพยาบาลตอนเที่ยง แต่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า เกรงว่าคงจะเป็นน้ำตาที่เธอร้องไห้มาตลอดทาง

“แม่ เซียวเซิง” เธออ้าแขนมาทางเรา ฉันกำลังจะเข้าไปกอดเธอ แต่คุณแม่เฉียวกลับดึงออก

“เฉียวอี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาร้องไห้”

“แม่คะ ตอนนี้พ่อหนูเป็นยังไงบ้าง?” เฉียวอี้ร้องไห้น้ำมูกไหล ในความทรงจำของฉันนั้นเธอไม่ค่อยจะร้องไห้

ฉันค้นทั่วตัวจนเจอกระดาษทิชชู่หนึ่งห่อแล้วยื่นให้เธอ เธอรับมาเช็ดหน้าโดยไม่ได้แกะออกจากห่อ

ฉันช่วยเธอแกะออกแล้วยืนให้เธอหนึ่งแผ่น เธอใช้ทิชชู่เช็ดไปทั่วใบหน้า

ฉันเศร้ามากที่เห็นสภาพเธอและอดไม่ได้ที่จะกอดเธอร้องไห้

ฉันเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียพ่อ มันเหมือนกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง

เฉียวอี้มักจะบ่นเรื่องพ่อของเธอต่อหน้าฉันบ่อย ๆ เธอบอกว่าพ่อของเธอเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง ชอบสั่งสอน ชอบควบคุมเธอ อยู่ดีไม่ว่าดีก็แนะนำลูกคนรวยให้เธอ แถมยังบังคับให้เธอทำงานในบริษัทตลอด

อย่ามองเธอเอาแต่บ่นพ่อเธอ คนที่เธอรักที่สุดคือคุณพ่อเฉียว

เธอเลยรู้สึกหวาดกลัวที่ตอนนี้อาจจะต้องสูญเสียเขาไปอย่างกระทันหัน

“เฉียวอี้” เสียงของคุณแม่เฉียวลอยอยู่เหนือหัวพวกเรา “เช็ดน้ำตาแล้วหยุดร้องไห้ซะ”

จะไม่ร้องไห้ได้อย่างไร ฉันร้องจนเวียนหัวไปหมด คนทั้งคนเกือบจะขาดน้ำ

ตอนที่พ่อของฉันประสบอุบัติเหตุฉันก็ไม่เคยร้องไห้อย่างบ้าคลั่งแบบนี้มาก่อน

คุณแม่เฉียวพาฉันกับเฉียวอี้กลับเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉันล้างหน้า

เฉียวอี้องจนจมูกแดง คุณแม่ของเฉียวค้นหาทิชชู่ในกระเป๋าของเธอแต่ไม่พบสักแผ่น เมื่อกี้นี้ฉันใช้มันจนหมด

“เธอสองคนรอแม่ที่นี่ แม่จะกลับไปเอาทิชชู่”

คุณแม่เฉียวหันกลับและเดินออกจากห้องน้ำ ฉันดื่มน้ำก๊อก 2-3 จิบตอนล้างหน้าเมื่อครู่นี้ จากที่รู้สึกว่ากำลังจะขาดน้ำก็บรรเทาลงเล็กน้อย

เฉียวอี้ก็สงบลงเช่นกัน เธอสูดจมูกและมองมาที่ฉัน “เซียวเซิง ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแม่ของฉันจะโหดถึงขนาดที่ไม่แม้แต่จะหลั่งน้ำตาสักหยด”

“แม่บุญธรรมไม่ได้โหดร้าย แต่แม่แค่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ เธอไม่สามารถล้มลงได้ เธอยังต้องเลี้ยงดูครอบครัวของเธอและทั้งบริษัท”

“การร้องไห้ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอ” เฉียวอี้สั่งน้ำมูก

“แต่การร้องไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้” ฉันพูดแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากร้องไห้กับเฉียวอี้

คุณแม่เฉียวกลับมาพร้อมกับกระดาษทิชชู่สองห่อใหญ่ จากนั้นยัดใส่มือพวกเราคนละห่อ

“เช็ดน้ำตาและสั่งน้ำมูกให้หมด แล้วออกไปหาพ่อด้วยรอยยิ้ม”

“หนูยิ้มไม่ออก” เฉียวอี้พึมพำเบา ๆ

“ยิ้มไม่ได้ก็ต้องฝืนยิ้ม แล้วลูกคิดว่าแม่จะยิ้มให้พ่อจริงใจเหรอ ลูกคิดว่าแม่ไม่มีหัวใจเหรอ?”

“อย่าแสร้งทำเป็นแข็งแกร่งขนาดนั้นซิคะ”

“มันไม่ใช่แค่การเสแสร้งว่าแข็งแกร่ง แต่มันจำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งขนาดนี้” คุณแม่เฉียววางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของเฉียวอี้

เธอไม่สูงเท่าเฉียวอี้ เฉียวอี้สูง178เซ็นติเมตรซึ่งสูงกว่าคุณแม่เฉียวครึ่งหัว

คุณแม่เฉียวได้แต่เงยหน้ามองลูกสาวตัวโตที่งี่เง่าของเธอ “ถ้าการร้องไห้ทำให้อาการป่วยของพ่อของลูกหายไปได้ งั้นแม่ยอมร้องไห้ให้ตายดีกว่า แต่การร้องไห้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เราจึงต้องฮึกเหิมขึ้นมา การที่ลูกร้องไห้แงมันจะทำให้พ่อของลูกสูญเสียความมั่นใจในชีวิต แถมยังเสียกำลังใจในการต่อสู้ เฉียวอี้ เรามีเส้นทางที่ยากลำบากมากในอนาคต อย่าปล่อยให้ตัวเองท้อแท้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)