เมื่อสีชิงชวนกำลังจะเทน้ำแก้วที่สองให้ฉันดื่ม เฉียวอี้พลันมาถึง
สีหน้าของเธอดูแย่มาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นสภาพของเธอซีดเซียวมากขนาดนี้
“เซียวเซิง” เธอเดินเข้ามาด้วยท่าทีอยากจะร้องไห้ คาดว่าเธอนั้นไม่เห็นสีชิงชวนที่อยู่ด้านหน้าเตียง เธอเกือบจะเหยียบเขา
เฉียวอี้ตกใจ “สีชิงชวน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“เฉียวอี้” สีชิงชวนเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองเฉียวอี้ ราวกับว่าตกใจกับรูปลักษณ์ของเธอ “คุณเจอผีมางั้นเหรอ?”
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เฉียวอี้และสีชิงชวนจะต้องโต้เถียงและสู้รบกันอย่างแน่นอน แต่ทว่าในครั้งนี้เธอนั้นไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
เธอนั่งลงบนเตียงของฉันและนอนทาบทับร่างกายของฉัน “เซียวเซิง...”
ฉันยังไม่ทันจะก่อนเฉียวอี้ เธอถูกสีชิงชวนดึงขึ้นจากเตียง
“คุณทำอะไร?” เฉียวอี้หันกลับไปจ้องเขาตาเขม็ง
“อย่านอนทับร่างกายของคนอื่นแบบนี้”
“เซียวเซิงไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย”
“คุณนอนทับร่างกายของผู้หญิงมีครรภ์ รู้ถึงผลที่จะตามมาบ้างหรือเปล่า?” สีชิงชวนเอ่ยเย้ยหยัน
เฉียวอี้ตกตะลึง จ้องมองฉันราวกับคนโง่เง่า “เซียวเซิง เธอท้องงั้นเหรอ?”
“เปล่า” สีชิงชวนกุเรื่องขึ้นมาโดยไร้มูลเหตุ ฉันปิดหน้าครึ่งหนึ่งและกระซิบข้างหูเฉียวอี้ “ไม่ได้ท้องจริงๆ”
“สีชิงชวนคุณบ้าหรือเปล่า?” เฉียวอี้ผลักเขา “คุณอยากมีลูก คุณอยากเป็นบ้าแล้วงั้นเหรอ?”
สีชิงชวนยื่นที่ตรวจครรภ์ให้ฉันอีกครั้ง “งั้น ลองตรวจดูก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ถ้าหากฉันไม่ตรวจดูอีกครั้ง ความอดทนของสีชิงชวนนั้นอาจจะหมดลง
พอดีว่าตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเล็กน้อย ฉันทำได้เพียงแค่ต้องเข้าไปตรวจเป็นครั้งที่สอง
“เซียวเซิง ฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง” เฉียวอี้เดินตามหลังฉันมา สีชิงชวนกลับรั้งเฉียวอี้ไว้ “คุณอยู่ด้านนอกนี่แหละ”
“ทำไมกัน?”
“ถ้าหากพวกคุณแอบสลับสับเปลี่ยนกันล่ะ?” สีชิงชวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “เฉียวอี้ คุณคอยอยู่ตรงนี้กับผม”
“สีชิงชวน คุณถูกกระทำจนมีอาการหวางระแวงงั้นเหรอ?”
ไม่ว่าสีชิงชวนนั้นจะมีอาหารหวาดระแวงหรือไม่ก็ตามแต่ ทว่าในความเป็นจริงแล้วเขานั้นคิดมากจนเกินไป
ฉันเข้าไปตรวจ ท้ายที่สุดแน่นอนว่าผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
ครั้งนี้ฉันหยิบถ้วยตวงออกมาให้เขาดู ตราบใดที่เขาไม่ขยะแขยง
เขานั้นวิปริต ไม่เพียงแต่จะไม่ขยะแขยง เขายังแสดงท่าทางศึกษาอยู่เนิ่นนานอีกด้วย
เฉียวอี้กลอกตามองเขา “คุณอยากจะลองดื่มดูสักหน่อยไหมล่ะ อาจจะเป็นเบียร์หรือเปล่า?”
“เธอพูดจาชวนอ้วกมาก” ฉันผลักหล่อนเล็กน้อย จากนั้นพูดกับสีชิงชวน “ก็ยังขึ้นแค่ขีดเดียว ฉันแค่รู้สึกปวดท้องก็เท่านั้น ไม่ได้ท้อง”
สีชิงชวนจ้องมองฉันอยู่นาน จากนั้นเขาเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
แม้ว่าจะดูไม่ออกว่าเขาผิดหวังหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็คาดเดาได้ว่าเขาน่าจะตั้งหน้าตั้งตารอลูก ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้าน
หลังจากที่สีชิงชวนจากไป เฉียวอี้ก็อยากรู้อยากเห็นมากจนลืมเลือนความโศกเศร้าของตนเอง “สีชิงชวนเป็นบ้าไปแล้ว ทำไมเขาถึงคิดว่าเธอท้อง?”
“อาหารมื้อเย็น ฉันกินแล้วอ้วกออกมา เขาก็เลยเป็นบ้า” ฉันกล่าว
“ฉันก็อ้วกเหมือนกัน ทำไมเขาไม่ตรวจฉันบ้าง?” อารมณ์ของเฉียวอี้พลันตกต่ำลงภายในเสี้ยววินาที “เซียวเซิง กระทั่งตอนนี้ฉันยังคงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เช้าเมื่อฉันตื่นขึ้นมาจะพบว่านี่คือความฝัน!”
“ใช่ ถ้าหากเป็นแค่ความฝันก็คงดี” ตอนที่พ่อของฉันจากโลกใบนี้ไป ฉันเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ทว่าน่าเสียดาย ชีวิตมนุษย์เราไม่ได้รับความเมตตามากถึงขนาดนั้น
เมื่อฉันตื่นขึ้น เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นนั้นก็ยังคงเกิดขึ้นเช่นเดิม
ฉันและเฉียวอี้ไม่ได้พูดคุยกันเนิ่นนาน พวกเราเพียงนอนพิงกันและกัน เพิ่มความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...