พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 279

โชคของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เราเจอรถติดระหว่างทางกลับบ้าน การจารจรของเมืองฮวาน่าเป็นห่วงอย่างนี้เสมอ แต่เมืองใหญ่ก็เป็นแบบนี้แทบทุกที่แหละ สะพานลี่เจียวผ่านการซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้า สะพานลี่เจียวไขว้สลับกันไปมาเหมือนใยแมงมุมร้อยเข้าด้วยกันอยู่บนหัวฉัน ทำให้มองไม่เห็นท้องฟ้าเลย

เมื่อก่อนป้าอู๋ของตระกูลเซียวพูดกับฉันบ่อยๆว่า ท้องฟ้าในชนบทกับท้องฟ้าในเมืองใหญ่ไม่เหมือนกัน ท้องฟ้าในชนบทจะมีก้อนเมฆสีขาวในตอนกลางวัน และมีดวงดาวให้เห็นในตอนกลางคืน ท้องฟ้าในเมืองใหญ่ กลางวันเป็นสะพานลี่เจียว กลางคืนจะเป็นแสงสีจากไฟ ผู้คนที่รถติดอยู่บนถนนดูสิ้นหวังกันมาก ป๋ออวี่ส่งวีแชทบอกฉันว่าลูกค้าได้ไปถึงแล้ว และได้สนทนากันพอสมควรจนใกล้จะจบสิ้นแล้ว ฉันกระวนกระวายใจ จนตอนนี้ยังรถติดอยู่ที่นี่อยู่เลย ฉันจะทำอะไรได้?

เฉียวเจี้ยนฉีได้เตรียมขนมขบเคี้ยวมาด้วย ถือกล่องใบใหญ่ออกมาให้ฉัน “ถ้าการรอรถติดแล้วมันทำให้น่าเบื่อก็กินขนมสิ เมื่อคุณกินจนอิ่มการจราจรก็จะคล่องตัวเอง”

แต่ว่าตอนนี้ฉันกินลงที่ไหนกันเล่า? เพื่อเป็นการไม่ทำให้เขาเสียน้ำใจ ฉันเลยเคี้ยวเส้นปลาหมึกแห้งค่อนวัน แต่ก็ยังกลืนไม่ลงอยู่ดี ในขณะที่ฉันยังรถติดอยู่บนถนน สีชิงชวนก็ได้โทรเข้ามา

เขาถามฉันว่าอยู่ไหน ฉันงึมงำอยู่สักพัก “ข้างนอก”

“บอกว่าให้รอผมอยู่ในโรงพยาบาลไง ออกไปเพ่นพ่านอยู่ข้างนอกทำไม?”

“ฉันมีธุระนิดหน่อย”

“ธุระอะไร?”

“เอิ่ม ฉันจะไปไหว้พ่อของฉัน”

“วันนี้เป็นวันอะไรเหรอ?” เขาน่าจะกำลังคิดดูอยู่

“ไม่ได้เป็นวันอะไร” ฉันถูกซักถามจนเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา “ก็แค่พาเพื่อนคนหนึ่งไป…..”

ทันใดนั้นเฉียวเจี้ยนฉีก็แย่งโทรศัพท์ไปจากฉันแล้วตัดสายทิ้ง ฉันมองเขาอย่างงงงัน “คุณตัดสายฉันทิ้งทำไม?”

“สีชิงชวนโทรมาเหรอ?” เขาคืนโทรศัพท์ให้ฉันอีกครั้ง

“อื้ม” ฉันพยักหน้า “เอิ่ม คุณรู้จักสีชิงชวนด้วยเหรอ?”

“กลับมาในประเทศแล้วจะให้ไม่รู้จักสีชิงชวนได้ไง?” เฉียวเจี้ยนฉีหยิบบ๊วยเชื่อมจากซองแล้วโยนเข้าปาก “ผมรู้ว่าคุณแต่งงานกับสีชิงชวนแล้วด้วย เขาเป็นคนมีอำนาจ เด็ดขาด เป็นคนที่เผด็จการมาก”

ห๊ะ แม้แต่คนนอกยังรู้จักเขาดีขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเงียบไม่พูดไม่จาเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเห็นด้วยกับเขา

“อันที่จริง คุณไม่จำเป็นต้องคอยรายงานเขาให้ทราบทุกๆเรื่องอย่างละเอียดแบบนี้ก็ได้”

“เขาเป็นคนถามเอง”

“ผมรู้” เขาหยิบบ๊วยเชื่อมเข้าปากอีกเม็ดหนึ่ง “คุณรู้ไหมว่า ผู้ชายทุกคนมักชอบผู้หญิงอยู่ประเภทหนึ่ง”

“ประเภทไหนเหรอ?”

“ประเภทที่เข้าถึงได้ยาก” เขาจ้องมองฉันอย่างจริงจัง “ไม่ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาจะสวยแค่ไหน อ่อนโยนแค่ไหน จิตใจดีแค่ไหน น่ารักแค่ไหน แต่เมื่อเขารู้ว่าเขาสามารถเข้าถึงคุณได้ ประกายแสงเหล่านั้นก็จะหายไปครึ่งหนึ่ง”

จู่ๆเขาก็พูดเรื่องนี้กับฉัน ฉันรู้สึกงงงันนิดหนึ่ง แต่นี่ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของการเรียนรู้ ฉันมองเขา เพื่อที่จะแสดงให้เขาเห็นว่าฉันตั้งใจฟังด้วยความเคารพนับถือเขา

“หากอยากให้ความสนใจของสีชิงชวนที่มีต่อคุณยาวนานกว่านี้ ก็อย่าให้เขาควบคุมคุณได้ คุณมีอิสระได้เต็มที่ ไม่มีเหตุผลที่คุณจะให้เขามาควบคุมคุณไว้”

โทรศัพท์ที่อยู่ในมือฉันดังขึ้นอีกรอบ เขามองฉัน “ไม่อยากรับก็ไม่ต้องรับหรอก”

ฉันไม่ได้อยากรับหรอก แต่ผลที่จะตามมาหลังจากไม่รับสายสีชิงชวน มันยากที่ฉันจะคาดเดาได้

เขาเหมือนดูออกว่าฉันกำลังกังวลอะไรอยู่ แล้วยิ้มระรื่น “เขาคงไม่ฆ่าคุณหรอกใช่ไหม?”

“มันไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว”

“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องคิดไว้ก่อน หากมันไม่เกี่ยวกับความเป็นความตายก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรทั้งนั้น งั้นก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรแล้วนี่”

สิ่งที่เขาพูด ฟังแล้วดูมีเหตุมีผล ใช่สิ ถึงไม่รับสายสีชิงชวนก็ไม่ถึงกับต้องตายสักหน่อย จะไปกลัวอะไร ฉันเลยมองดูโทรศัพท์ของฉันที่กำลังดังอยู่แบบนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน แล้วจู่ๆก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา ทำไมฉันจะต้องถูกสีชิงชวนควบคุมไว้ด้วย? ทำไมฉันต้องคอยรายงานทุกเรื่องกับเขาด้วย? แล้วเขาเคยรายงานอะไรฉันบ้างไหม? ในที่สุดการจราจรก็คล่องตัวสักที รถของเราค่อยๆเริ่มวิ่งไปข้างหน้า

ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว เฉียวเจี้ยนฉีดูนาฬิกา “หิวหรือยัง?”

ฉันเริ่มรู้สึกหิวแล้วจริงๆ แม้จะมีขนมขบเคี้ยวกล่องใหญ่อยู่ตรงหน้า แต่ฉันก็ไม่ได้กินมัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)