พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 282

เสียงกริ่งดังติดกันราวกับเป็นเครื่องรางเร่งเอาชีวิตฉันเลย ในหัวของฉันได้มีภาพปรากฏให้เห็นเรียบร้อย สีชิงชวนที่ยืนอยู่หน้าประตู ถือตะขอเหล็กขนาดใหญ่ไว้ในมือ เมื่อเขาเห็นฉันก็จะใช้ตะขอเหล็กขนาดใหญ่นั้นมาเกี่ยวฉัน แล้วควักเครื่องในของฉันออกมาจนหมดแล้วเอาให้หมากิน มีความเป็นไปได้มาก มีความเป็นไปได้สูงมากด้วย ฉันกำลังคิดว่าจะเข้าไปแอบใต้โต๊ะดีไหม ขณะเดียวกันฉันก็กำลังคิดว่าในเมื่อเฉียวเจี้ยนฉีบอกว่าชอบฉัน แล้วตอนที่สีชิงชวนเตรียมจะฆ่าฉัน อยากรู้ว่าเขาจะช่วยฉันไหมนะ

ขณะเดียวกัน เฉียวเจี้ยนฉีก็ได้เปิดประตูออก วันตายของฉันได้มาถึงแล้ว ตอนก่อกบฏรู้สึกสนุกมาก แต่ผลที่ตามมามันช่างน่าเวทนามาก

แต่ทว่า เสียงที่ดังมาจากประตูกลับเป็นเสียงของผู้หญิง “ทำไมถึงปล่อยให้รอค่อนวันถึงเปิดประตูให้ หรือว่าซ่อนผู้หญิงไว้ข้างในเหรอ?”

ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาข้างในโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า เธอย้อมผมสีแดงดูสะดุดตาเป็นพิเศษ เธอยังสวมชุดแซกสีแดงสดราวกับดอกโบตั๋นที่กำลังเบ่งบาน ไม่ว่าจะตรงไหนก็เป็นสีแดงไปหมด ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีแต่ฉันก็ยังจำเธอได้ทันทีที่เห็น ใบหน้าของเธอไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนัก เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนธรรมดาที่มีความงามเล็กน้อยและก็เป็นผู้หญิงรุ่นแม่แล้ว

สิ่งที่จดจำได้ดีคือการแต่งตัวของเธอ ตอนที่เธออยู่ในช่วงที่เข้าสู่วัยกลางคนก็ชอบย้อมผมให้เป็นสีแดงบ้าง สีม่วงบ้าง ชอบแต่งตัวสีสันสดใส คุณแม่เฉียวน่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กับเรา บอกว่าก่อนที่เธอจะออกไปข้างนอกแล้วได้ทำกล่องสีตกถึงเป็นอย่างที่เห็น ฉันรู้สึกว่าคำบรรยายของคุณแม่เฉียวนั้นราวกับเป็นการถ่ายทอดจิตวิญญาณออกมา แต่นึกไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปหลายปีขนาดนี้ สไตล์การแต่งตัวของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

เธอคือแม่ของเฉียวเจี้ยนฉี เป็นภรรยาคนแรกของคุณพ่อเฉียว ยังดี คนที่มาไม่ใช่สีชิงชวน ทีนี้เครื่องในของฉันก็ปลอดภัยชั่วคราวแล้วสิ ฉันกำลังยืนงงอยู่ในห้องรับแขกและได้เผชิญหน้ากับเธอพอดี

แม่ของเฉียวเจี้ยนฉีเบิกตากว้างแล้วพูดอย่างเฉียบคม “เฉียวเจี้ยนฉี แกแน่มากเลยนะ เพิ่งจะกลับมาได้ไม่กี่วันแกก็ได้ซ่อนผู้หญิงไว้ในบ้านแล้ว”

“แม่ ถ้าแม่ลดเสียงลงหน่อย ผมจะซาบซึ้งในบุญคุณเป็นอย่างมากเลยครับ” เฉียวเจี้ยนฉีปิดประตูลงด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก

“ฉันโทรหาแกหลายสายขนาดนั้นทำไมถึงไม่รับ?” แม่ของเฉียวเจี้ยนฉีรีบเดินเข้ามายืนมองฉันอย่างละเอียด ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่ง ดังนั้นฉันจึงเรียกคุณน้าด้วยความเคารพ

เธอไม่พูดอะไรสักคำ แล้วมองฉันจากหัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดุร้าย “อ้อ เฉียวเจี้ยนฉี ช่วงนี้แกตาถึงขึ้นเยอะแล้วนี่ ผู้หญิงคนนี้สวยพอใช้ได้เลย หุ่นก็ถือว่าใช้ได้ เป็นหุ่นที่เหมาะกับการให้คลอดลูกชายจริงๆ”

และในตอนนี้ฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณพ่อเฉียวถึงได้ไม่ชอบเธอ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นสามีภรรยากัน แต่นั่นเป็นเพราะคำสั่งของพ่อแม่ หลังจากที่แต่งงานกันยาวนานแต่ก็ไม่สามารถรักเธอได้ ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดเลยว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะคุณแม่เฉียว ในที่สุดตอนนี้ก็เข้าใจละว่า ในตัวของแม่เฉียวเจี้ยนฉีไม่มีสิ่งที่น่าดึงดูดอะไรเลยจริงๆอันดับแรกคือเธอไม่ให้เกียรติคนอื่น ความฉลาดทางอารมณ์ก็ยังน้อยมากด้วย เป็นคนไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นอีกด้วย

ฉันคิดว่าเฉียวเจี้ยนฉีทำตัวไม่ถูกกว่าฉันอีก เขาเดินเข้ามาดึงแม่เขาออกไป “แม่อย่าพูดอะไรมั่วซั่วนะ เธอคือเซียวเซิงไง แม่ยังจำได้ไหม?”

“เซียวเซิง?” แม่ของเฉียวเจี้ยนฉีหรี่ตามองฉันนานมาก เหมือนว่านึกอะไรได้บ้างแล้ว จากนั้นก็ตบขาตัวเอง “อ้อๆ ลูกสาวของตระกูลเซียว ที่ชอบคลุกคลีอยู่แต่กับนังจิ้งจอกน้อยนั่นทั้งวันใช่ไหม”

“อย่างน้อยๆเฉียวอี้ก็คือน้องสาวของผมนะ” เฉียวเจี้ยนฉีขัดจังหวะเธอ

“เหอะ น้องสาวที่ราคาถูกแบบนี้ไม่เอาก็ช่าง เฉียวเจี้ยนฉี แกต้องแยกแยะให้ออกนะว่าฉันให้แกกลับมาทำอะไร ไม่ได้ให้แกมานับพี่นับน้องนะ” เธอพูดได้สักพักก็นิ่งไป แล้วหันมามองฉันต่อ “เธอยังอยู่ที่นี่อีกทำไม?”

ฉันงงไปหมดแล้ว ตามจังหวะคำพูดของเธอไม่ทัน

“ฉันกำลังพูดกับลูกชายฉันอยู่ เธอออกไปเลยนะ!” เธอโบกไม้โบกมืออย่างเอือมระอา จากนั้นก็พูดกับเฉียวเจี้ยนฉีว่า “จากนี้ไป แกอย่าใครมาที่นี่โดยที่ไม่ดูให้ดีๆแบบนี้อีกนะ ผู้หญิงบนโลกนี้มีตั้งเยอะแล้วทำไมจะต้องพาเธอมาที่นี่ด้วย”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟังคนที่พูดแค่คำสองคำแล้วทำให้ฉันหงุดหงิดอย่างนี้ ฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่มีความอดทนมาตลอด แต่พอมาเจอแม่ของเฉียวเจี้ยนฉี มันทำให้ฉันแทบจะอยากระเบิดทุกวินาทีเลย ดังนั้น ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมคุณแม่เฉียวที่เป็นผู้หญิงที่ดูงดงามมีสง่าและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ถึงโมโหทุกครั้งที่เจอเธอ

แต่ว่า บังเอิญว่าฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ต่อพอดีเลย ฉันหยิบกระเป๋าจากโซฟา “เฉียวเจี้ยนฉี ฉันกลับก่อนนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)