ในเมื่อเฉียวเจี้ยนฉีเข้าใจอะไรมากขนาดนี้ ฉันเองก็ไม่ควรป๊อดไม่ใช่เหรอ?
ฉันแสดงความคิดเห็นทันที “มีเหตุผลสองประการ ประการแรกคือ สีชิงชวนเป็นคนที่มีอำนาจมากเป็นพิเศษ ประการที่สอง คุณเพิ่งกลับเมืองฮวา อีกหน่อยยังจะต้องรับช่วงต่อบริษัทของคุณพ่อเฉียวอีก ฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากมีปัญหาอะไรกับสีชิงชวนหรอกใช่ไหม”
เฉียวเจี้ยนฉีหัวเราะจนทำให้เห็นถึงฟันกราม ราวกับว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรเลยสักนิด “ได้ยินมาว่าคนในเมืองฮวาต่างก็กลัวสีชิงชวนกัน ตั้งแต่นักธุรกิจรายใหญ่รวมไปถึงคนธรรมดา สีชิงชวนน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ฉันไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้ว่าสีชิงชวนน่ากลัวมากขนาดไหน เรื่องแบบนี้มันต้องสัมผัสด้วยตัวเองไม่สามารถบอกต่อกันได้ เฉียวเจี้ยนฉีทำเหมือนว่าตัวเองไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใดมาก่อน ในเมื่อเขาอยากหาเหาใส่ตัว ฉันไม่จำเป็นต้องถูกเขาลากไปเกี่ยวข้องด้วย
ฉันพูดกับเขาอย่างปอดแหก “งั้นก็รบกวนคุณเปิดประตูให้ฉันลงที่นี่หน่อยนะ ฉันจะเดินเข้าไปเอง”
“ในครึ่งแรกคุณทำได้ดีมากเลยทีเดียว” เฉียวเจี้ยนฉีหยุดรถบนริมถนน แต่ก็ไม่ได้เปิดประตูบอกให้ฉันลงไป “ดังนั้น ในครึ่งหลังก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะตัดสินให้มีบทสรุปที่สวยงามยังไง”
“เรื่องในวันนี้คือเรื่องอะไร?” ฉันถาม
“เป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่ต้องการ ไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง โดยเฉพาะสีชิงชวน เพราะเวลาที่เขาจะทำอะไรก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าคุณจะคิดยังไงไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าสีชิงชวนรู้ว่าคุณมายุยงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาแบบนี้ ฉันนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าเขาจะต้องทำยังไงกับคุณ”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของคุณ ผมจะเฝ้ารอวันที่สีชิงชวนมาอัดผม”
“ทำไมล่ะ? ดูไม่ออกว่าคุณมีแนวโน้มจะถูกทำร้ายเลยนี่”
เขาหัวเราะอย่างมีความสุข หากว่าฉันเป็นเขา คงไม่มีทางยิ้มอย่างมีความสุขแบบเขาได้อย่างแน่นอน เพราะเขาหนีจากสิ่งที่ตัวเองได้ก่อไว้ไม่พ้นหรอก และฉันก็ไม่ได้จะคุยอะไรกับเขาต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นความโชคร้ายของเขาหรือเป็นความโชคร้ายของฉัน ระหว่างที่เรากำลังคุยอยู่ ไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีรถอีกคันได้มาจอดอยู่ข้างๆเรา และยังเป็นเฉียวเจี้ยนฉีที่เป็นคนเห็นก่อนอีกด้วย เขาชำเลืองไปมองด้านข้าง ฉันก็มองตามเขา จึงเห็นว่าเป็นรถของสีชิงชวนที่จอดไว้ข้างรถเรา
กระจกรถได้ถูกลดลงมา สีชิงชวนนั่งอยู่เบาะหลังคนขับ วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดผีเข้าอะไรขึ้นมาเขาถึงได้สวมแว่นตามาด้วย ฉันเห็นเขาสวมเป็นบางครั้ง และทุกครั้งจะรู้สึกเหมือนเดจาวูว่าเป็นมนุษย์ที่แต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมเรียบร้อยแต่มีนิสัยป่าเถื่อน เขาหันขมับมาทางเรา ไม่ได้มองมาที่เราตรงๆ แต่ฉันรู้สึกว่าขมับของเขาเหมือนมีดวงตา หรือไม่ก็เหมือนเรดาร์ที่กำลังยิงกราดมาที่เราอย่างไร้ความปราณี ใจฉันเหมือนมีเสียงกรีดร้องอยู่ข้างใน ตายแน่ๆ ใช่ จะต้องตายแน่เลย
จะบังเอิญอะไรขนาดนี้ ถ้ารู้งี้ให้เฉียวเจี้ยนฉีเข้าไปส่งฉันหน้าบ้านพักเลยยังจะดีสักกว่าอีก สีชิงชวนคงไม่รอฉันอยู่ตรงหน้าประตูอยู่ตลอดเวลาหรอก ดีกว่าต้องมาเจอเขาตรงทางเข้าบ้านพักแล้วต้องมาพูดคุยกันอย่างไร้สาระ ตอนนี้ถูกสีชิงชวนจับได้อย่างคาหนังคาเขาแล้ว ความจริงฉันก็ไม่ได้สูญเสียโอกาสที่จะเข้าใกล้กับผู้ชายทุกคนหรอกนะ แต่ว่าวันนี้ฉันไม่ได้รับสายเขาทั้งวันเลย โทษประหารสามารถเลี่ยงได้ แต่โทษที่ต้องรับตอนมีชีวิตอยู่มันเลี่ยงได้ยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...