“ลองเล่ามาฟังหน่อย” จู่ๆสีชิงชวนก็พูดขึ้นมา ทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมาก ฉันก็นึกว่าตลอดระยะทางนี้เขาจะไม่พูดอะไรอีกแล้วสักอีก
อันที่จริงฉันก็หวังให้เขาจะพูดอะไรบ้าง อย่างน้อยๆมันก็ดีกว่าการที่ไม่พูดอะไรออกมาเลย แต่เขาจะให้ฉันเล่าอะไร? ฉันจ้องเขาอย่างงงงัน
เขาพูดต่อ “ลองเล่ามาว่าทำไมเฉียวเจี้ยนฉีที่ผมเจอถึงได้ไม่พูดอะไรเลย?”
สีชิงชวนชอบเล่นเกมทายใจ เขาจะชอบตั้งคำถามแล้วให้ฉันตอบ คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องคิดเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกลัวจนเกินไป ก็สามารถโพล่งออกจากปากได้อย่างง่ายๆเลย
ฉันตอบ “เพราะว่าคุณไม่พอใจที่จะคุยกับเขาไง เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไร คุณสมบัติของเฉียวเจี้ยนฉียังไม่เพียงพอที่จะกลายเป็นศัตรูใดๆของคุณ รวมไปถึงศัตรูหัวใจด้วย”
สมองของสีชิงชวนได้เริ่มทำงาน แล้วหันมามองฉัน สายตาที่เขามองฉันราวกับว่าจะมีกำปั้นออกมาจากตาของเขาตลอด แล้วชกหน้าฉันอย่างแรงอย่างงั้นเลย
“ถือว่าคุณยังไม่ได้โง่จนไม่มีเหตุผล คุณเป็นคนที่ใส่ใจกับทุกอย่าง และสามารถที่จะเดาออกว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้านำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง ก็ไม่ได้นับว่าเป็นคนที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลย”
คำที่เขาพูด อะไรคือหากนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง? พูดอย่างกับว่าปกติในหัวสมองของฉันชอบคิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องอะไรทำนองนั้นเลย ฉันส่งเสียงในลำคอ แสดงให้เขาเห็นว่าฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา
เขาถามฉันอีกครั้ง “แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่ได้รับโทรศัพท์ของผมเลย?”
ข้อนี้ฉันไม่รู้ว่าควรตอบว่ายังไงดี หากว่าตอบได้ไม่ดี สิ่งที่รอฉันอยู่คือบทลงโทษที่รุนแรงของกฎหมายไม่ใช่เหรอ โอ้ว ไม่สิ เป็นบทลงโทษที่รุนแรงจากสีชิงชวนต่างหาก
ฉันไม่รู้ว่าควรตอบยังไง เขาจึงตอบแทนฉัน “เป็นเพียงแค่คำคมแย่ๆที่เขากรอกใส่หัวคุณเท่านั้น บอกว่าจะไม่มีใครสามารถแทรกแซงอะไรคุณได้ ให้คุณทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ งั้นคุณก็เป็นตัวของตัวเองอะไรเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
เขาไม่จำเป็นต้องถามฉันว่าใช่หรือไม่ด้วยซ้ำ เพราะเขาพูดถูกหมดทุกอย่าง เหมือนว่าเขาได้ใส่เครื่องดักฟังไว้ในตัวฉันอย่างงั้นเลย ไม่ว่าเราพูดกันเรื่องอะไรหรือทำอะไรเขาก็รู้ดีไปหมดทุกเรื่อง
“ในเมื่อคุณแทบจะเดาถูกหมดทุกอย่างแล้ว จะถามฉันอีกทำไม?”
“คุณให้คนอื่นปลุกปั่นได้ง่ายขนาดนี้ แค่คำสองคำก็สามารถล้างสมองคุณได้ คุณจะถูกคนอื่นดึงเข้าไปอยู่ในองค์กรแชร์ลูกโซ่ได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องปลุกปั่นอย่างดุเดือด คุณก็จะอาสาทุ่มเทสุดความสามารถให้กับพวกเขา”
เขาประชดประชันฉันอีกแล้ว การที่เขาโทรหาฉันทั้งวันแล้วฉันไม่ได้รับสายเลย อย่าว่าแต่ตอนนี้เขาประชดประชันฉันเลย ถึงเขาจะควักเครื่องในของฉันออกมา ฉันก็ต้องอดทนเอาไว้ไม่ใช่เหรอ
“เหอะๆ” ฉันทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ “ฉันไม่ได้มีจิตใจที่อ่อนแออย่างที่คุณคิดขนาดนั้นหรอกนะ อันที่จริงสิ่งที่เขาพูดมันตรงประเด็นฉันเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...