สีชิงชวนเองก็ได้ทานน้ำซุปไปหนึ่งคำ สายตาที่เขามองฉันราวกับว่าฉันเป็นคนปัญญาอ่อนที่เกาะคนอื่นกินเลย ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรฉันก็เป็นแค่คนปัญญาอ่อนในสายตาเขาอยู่แล้ว ยังดีที่คนกวางตุ้งทานน้ำซุปจะไม่ทานกากน้ำซุปด้วย ถ้วยที่ฉันกำลังทานอยู่จึงเป็นซุปใส ป้าอู๋ได้กรองกากน้ำซุปออกให้ฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกฉันกะว่าจะทานแค่ครึ่งถ้วย แต่เพราะน้ำซุปมันอร่อยจนเกินไป มันอร่อยและสดใหม่ด้วย พอค่อยๆชิมแยกรสชาติจะมีรสหวานอยู่ด้วยและสุดท้ายฉันก็ได้ทานหมดถ้วยโดยไม่รู้ตัวหลังจากที่ฉันทานเสร็จก็เห็นว่าสีชิงชวนก็ทานเสร็จแล้วเหมือนกัน และกำลังมองมาที่ฉัน
ฉันกลัวว่าเขาจะให้ป้าอู๋ตักอีกถ้วยมาให้ฉันอีก ยังดีที่เขาลุกขึ้นยืนแล้วเอามือทั้งสองยันไว้ที่โต๊ะแล้วมองฉัน “ทานเสร็จแล้วหรือยัง?”
“อื้ม” ฉันพยักหน้า
“งั้นก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำแล้วนอนกัน”
ฉันเดินขึ้นไปชั้นสองพร้อมกับสีชิงชวนภายใต้การจ้องมองด้วยรอยยิ้มของป้าอู๋กับพี่หลี่ ในความคิดของพวกเธอคงคิดว่าเดี๋ยวคงมีเรื่องราวที่โรแมนติกและดุเดือดรออยู่แน่นอน แต่ฉันมองจากแผ่นหลังของสีชิงชวนก็สามารถดูออกได้ว่า เขาจะต้องทารุณฉันอย่างแน่นอน
ฉันกลับไปอาบน้ำในห้องนอน สีชิงชวนก็ไปทานข้าวอีกห้องหนึ่งต่อ หากว่าคืนนี้เขานอนที่ห้องนั้นเลย ฉันก็จะไม่ถูกเขาทรมานแล้วล่ะ ฉันอธิษฐานต่อสวรรค์หากทำให้ฉันสมหวังล่ะก็ ต่อไปฉันจะต้องไปแก้บนที่วัดอย่างแน่นอน พอฉันอาบน้ำเสร็จก็นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อไดร์ผม และสีชิงชวนก็ได้เดินเข้ามา
เขาเปลี่ยนเสื้อแล้วใส่ชุดนอน เนื้อผ้าที่เป็นสีควันบุหรี่ ตรงขอบเป็นสีน้ำตาลเข้มและมีกากเพชรสีเข้มอีกด้วย แลดูหรูหรามาก และพอมาสวมบนตัวเขาก็ไม่ได้ดูขัดตาอะไรเลย เขามีคุณสมบัติพิเศษที่แปลกมากอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าเขาจะสวมชุดที่แปลกมากแค่ไหนบนตัวเขา หรือว่าเรื่องที่คาดคิดไม่ถึงเกิดขึ้นกับตัวเขา สิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่รู้สึกแปลกอะไรไปเลย
ก็เหมือนกับเรื่องที่ฉันมั่นใจว่าเขาคือเกย์ในตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าคนแบบสีชิงชวนจะต้องทำเรื่องแบบนี้แบบนั้นที่มันดังสั่นสะเทือนเลือนลั่นออกมาแน่นอน เขาเดินมาใกล้ฉัน จนฉันลืมไดร์ผมไปเลย ปากของไดร์เป่าผมยังคงเป่ามาที่ขมับของฉันไม่ยอมหยุด เขาเอาไดร์เป่าผมออกจากมือฉันด้วยท่าทีที่อ่อนโยนแล้วช่วยฉันไดร์ผมต่อ ฉันตกใจจนเหงื่อออกเต็มหลัง ต้องมีวิกฤตบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้พื้นผิวที่ดูสงบอย่างแน่นอน เพียงแต่มันจะเงียบสงัดก่อนเกิดพายุเท่านั้นเอง ฉันเข้าใจข้อนี้ดี
ฉันจึงเฝ้ารอพายุฝนที่กำลังจะกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงอยู่เงียงๆ หลังจากที่ไดร์ผมจนผมแห้งสนิทแล้ว สีชิงชวนก็รวบผมฉันไว้ด้านหลัง ตบไหล่ของฉันเบาๆแล้วพูดว่า “เหนื่อยก็นอนเถอะ”
จากนั้นเขาก็ขึ้นเตียงไปนอนก่อน แล้วหลับตาลง ฉันมองหน้าเขาอย่างยากที่จะเชื่อ เขาจะนอนแล้วจริงเหรอ แปลว่าปล่อยฉันแล้วใช่ไหม? มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง? หรือจะรอให้ฉันขึ้นเตียงก่อนแล้วค่อยมาขึ้นคร่อมฉัน? แต่เรื่องแบบนี้มันไม่มีอะไรที่จะวิจารณ์ได้เพราะเราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะทำเรื่องที่ใกล้ชิดกันมากขนาดไหน ฉันก็ไม่สามารถว่าอะไรเขาได้ ฉันยังคงจ้องเขาด้วยความงุนงง สีชิงชวนได้ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมามองฉัน
“คุณคิดว่าจะนั่งอยู่ตรงนั้นไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม?”
“มันไม่ใช่แน่นอนอยู่แล้ว” ฉันรีบลุกขึ้นจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วตรงไปที่เตียง จากนั้นก็เอ็นหลังนอนข้างเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...