ที่หร่วนหลิงพูดก็มีเหตุผล ฉันเองก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน อันที่จริงหุ้นที่อยู่ในมือสามสิบเปอร์เซ็นต์ของฉัน เปรียบเสมือนมันหวานร้อนๆที่ถือเอาไว้ก็มีแต่จะลวกให้มือพองเปล่าๆฉันรู้ว่ามันหวาน ช่างหวานอร่อยมาก เมื่อเคี้ยวอยู่ในปากจะรู้สึกเอร็ดอร่อยมาก แต่ปัญหาคือตอนนี้มันยังร้อนมาก ฉันจะสามารถถือมันไว้ได้ไหม สามารถถือมันจนถึงวันที่จะเพลิดเพลินกับมันได้ไหม และหากว่าฉันสามารถรักษาหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์นี้ไว้ได้ นั่นก็แปลว่าฉันรักษาหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์นี้ไว้เพื่อรอส่วนแบ่งจากกำไร นั่นมันทำให้ฉันรู้สึกละอายใจเหมือนกัน
ฉันแค่ลองคิดดู แต่ไม่ได้พูดออกมา แต่ท่าทางที่ก้มหัวแล้วไม่พูดอะไรของฉัน คาดว่าหร่วนหลิงก็น่าจะดูออกเจ็ดแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะเธอเองก็ดูค่อนข้างที่จะหงุดหงิด
“ดูเหมือนว่าคุณมีแผนว่าจะสละหุ้นส่วนของคุณใช่ไหม? ท่านประธาน หากว่าเฉียวอี้มารู้เข้าคงต้องโมโหเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยู่ด้วยแต่คุณก็ไม่ควรดูถูกตัวเองแล้วยอมแพ้ไปแบบนี้นะ”
“ฉันไม่ได้ดูถูกตัวเองแล้วคิดจะยอมแพ้อะไร ฉันแค่….”
“พอเถอะค่ะ” หร่วนหลิงโบกมือ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโหมากกับฉัน
ฉันรู้ว่าเธอเกลียดความไม่ได้ดั่งใจ หากว่าเฉียวอี้อยู่ด้วยเธอจะต้องโกรธจนด่าฉันเละอย่างแน่นอน แต่ฉันคิดมาหลายวันแล้วถึงได้คำตอบนี้มา ถึงฉันจะเป็นคนที่ขี้ขลาดมาก แต่ในบางเรื่องฉันก็เป็นคนที่ดื้อรั้นมากๆเหมือนกัน หากว่าฉันได้ตัดสินใจอะไรแล้ว ไม่ว่าใครก็ยากที่จะเปลี่ยนใจฉันได้
หร่วนหลิงมองฉันสักพัก “หากว่าคุณต้องการจะทำอย่างนี้จริงๆ งั้นฉันก็จะไม่ขวางคุณไว้อีกต่อไป หากว่าคุณรู้สึกว่าฉันก้าวก่ายชีวิตคุณมากเกินไป คุณสามารถไล่ฉันออกได้เลย ไม่อย่างงั้นฉันจะย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่นเองค่ะ”
“อันที่จริงคุณไม่ต้องย้ายหรอก คุณเป็นเลขาของประธานอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะบอกกับเซียวซือให้ เพราะคุณเป็นเลขาที่เก่งมากคนหนึ่ง มีความสามารถด้านการทำธุรกิจ เซียวซือไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล เขาจะต้องเก็บคุณไว้ข้างกายเขาอย่างแน่นอน”
“ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่า ฉันจะสามารถเป็นเลขาของประธานได้ไหม? หื้ม?” จู่ๆหร่วนหลิงก็ตวาดใส่ฉัน
ฉันสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าขอบตาของเธอเริ่มแดง ฉันเป็นคนหนึ่งที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ฉันคิดว่าขอบตาของฉันก็แดงแล้วเหมือนกัน เพราะฉันเริ่มรู้สึกคัดจมูก และเหมือนน้ำตาของฉันมันเริ่มไหล
“ฉันขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณผิดหวัง ชีวิตจริงมันไม่เหมือนอย่างในละคร ไม่สามารถโตเป็นผู้ใหญ่ได้เร็วขนาดนั้นหรอก หลายๆอย่างมันต้องพึ่งสติปัญญาที่มีมาแต่เกิด ฉันไม่ได้มีความสามารถพิเศษในด้านนี้ ตอนนี้เซียวซื่อกรุ๊ปได้เติบโตอย่างมั่นคงแล้ว ฉันกลัวว่าวันหนึ่งจะเป็นเพราะการวางแผนที่ผิดพลาดของฉันคนเดียว จนทำให้เซียวซื่อกรุ๊ปเกิดเรื่องผิดพลาดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นมา แบบนั้นมันจะทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อความคาดหวังที่พ่อมีกับฉันจริงๆ”
“ท่านประธาน” หร่วนหลิงมองฉันด้วยสายตาอย่างเหี่ยวเฉาไม่มีพลัง “ไม่ว่าจะมีเหตุผลที่พิลึกกึกกือหลายอย่างมาทำให้เรายอมแพ้ แต่จำเป็นต้องมีแค่เหตุผลเดียวที่จะทำให้เรายืนหยัดต่อไปได้ นั่นก็คือไม่ทำให้ผู้อื่นผิดหวัง ไม่ทำให้ตัวเองผิดหวัง”
“พอเถอะ ฉันก็ฟังคำคมมาไม่ใช่น้อย พอนำไปใช้ให้บรรลุผลมันกลับยากมาก เห็นด้วยไหม? ฉันขอขอบคุณการที่คุณสนับสนุนฉัน แต่ฉันทำไม่ได้จริงๆ”
ฉันแสดงความอ่อนแอและความขี้ขลาดของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ หร่วนหลิงถึงกับหมดคำจะพูด เธอยืนมองฉันอยู่หน้าฉันสักพักด้วยท่าทางที่เหมือนกับว่าแทบจะไม่รู้จักฉันแล้วด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็พยักหน้าในที่สุด
“งั้นก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณได้ตัดสินใจแล้ว คุณคือเจ้านายส่วนฉันเป็นแค่ลูกจ้าง ฉันไม่มีอำนาจใดที่มีอิทธิพลต่อคุณ คุณคิดอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ!”
ที่หร่วนหลิงพูดแบบนี้ แน่นอนไม่ใช่การสนับสนุนฉันหรือว่าได้ทอดทิ้งฉัน ฉันรู้ดี ฉันรู้ว่าหร่วนหลิงโมโหมาก แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถทำให้คนๆหนึ่งพอใจได้ คนๆนั้นก็คือสีชิงชวน ฉันคิดว่าหากเขาได้ยินเรื่องที่ฉันจะสละตำแหน่งให้กับเซียวซือ เขาคงจะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะดีใจจนปล่อยฉันไป หย่าร้างกับฉัน แบบนั้นร่างกายและจิตใจของฉันจะถูกปลดปล่อยไปด้วย แค่คิดก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับฉันแล้ว
หร่วนหลิงเดินออกจากออฟฟิศแล้วถือแก้วกาแฟที่เธอให้ฉันไปด้วย ฉันคงทำให้เธอผิดหวังอย่างมาก ผิดหวังจนไม่อยากให้ฉันดื่มกาแฟเลย ในเมื่อฉันมีความคิดแบบนี้แล้ว งั้นก็จะต้องทำต่อไป ดังนั้นฉันจึงโทรหาเซียวซือให้เธอมาหาฉันที่ออฟฟิศ ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับเธอ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเรียกเซียวซือมาออฟฟิศของฉัน ต่อไปคงจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่นี่เป็นสิ่งที่ฉันเลือกที่จะยอมแพ้กันไปเอง มันเลยไม่มีอะไรต้องเสียใจ
เซียวซือมาหาฉันในไม่ช้า ตอนที่เธอมาเยี่ยมฉันรอบที่แล้ว เพราะเรื่องชุดนอนเซ็กซี่นั่น มันจึงทำให้ฉันรู้สึกทำตัวไม่ถูกเวลาเจอเธอ แต่ปฏิกิริยาของเธอไม่ได้แตกต่างอะไรกับเมื่อก่อน เหมือนกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคราวที่แล้ว มันไม่เคยเกิดขึ้นอย่างงั้นเลย ฉันชื่นชมทัศนคติที่เธอเป็นคนแยกแยะอะไรออกได้อย่างชัดเจน ซึ่งฉันไม่สามารถทำได้เลยฉะนั้นฉันจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นี้ได้
“ทำไมถึงได้มาเข้างานเร็วขนาดนี้น่ะ?” เธอสอบถามอย่างอ่อนโยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...