เฉียวอี้เปลี่ยนนิสัยไปอย่างไม่ทันคาดคิด เปลี่ยนไปจนฉันรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงนี้
เธอขับรถไปเรื่อยๆ ขับไปเรื่อยๆ ทั้งไม่ได้ถามฉันว่าจะไปที่ไหน และก็ไม่ได้บอกฉันว่าเธอจะขับไปที่ไหนเหมือนกัน
ดูเหมือนว่าถนนเส้นนี้จะไม่มีจุดสิ้นสุด และเหมือนว่าจะขับไปอีกนานแสนนาน
ฉันเป็นฝ่ายอดขอความเมตตาจากเฉียวอี้ไม่ได้ก่อน ฉันกระตุกชายเสื้อของเธอ “พวกเราจะไปที่ไหนกันเหรอ? ”
“ไม่รู้”
“ขับไปเรื่อยๆ แบบที่เธอทำอยู่ตอนนี้รถจะน้ำมันหมดหรือเปล่า? ”
“ไม่รู้”
“ขอโทษ ที่ฉันไม่ได้ปรึกษากับเธอก่อน เพราะฉันรู้ว่าถ้าฉันบอกเธอ เธอต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน ฉันก็เลยไม่ได้บอกเธอ”
“ไม่เป็นไร” ตอนที่เธอตอบกลับประโยคนี้ของฉัน เธอนิ่งมาก นิ่งจนฉันรู้สึกลนลานไปหมด
ต่อให้ตอนนี้เฉียวอี้จะดุด่าฉันสักที หรือแม้กระทั่งตีฉันแรงๆ สักที มันก็ยังดีกว่าที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน
ฉันทำให้เธอโกรธเข้าให้แล้วใช่หรือเปล่า?
ฉันทำให้เธอผิดหวังมากใช่หรือเปล่า?
คำตอบก็คือใช่อย่างแน่นอน ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
“เฉียวอี้...” ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะพูดอะไรดี ฉันมองไปที่เฉียวอี้ด้วยความหวาดกลัว “เธออย่าโกรธฉันเลยนะ ไม่ใช่เพราะฉันรับแรงกดดันไม่ไหวหรอก และก็ไม่ใช่เพราะฉันทนความลำบากไม่ไหว ฉันแค่รู้สึกว่าในเมื่อฉันทำได้ไม่ดี งั้นฉันยังจะยึดตำแหน่งนี้ไว้ทำไม? สู้ยกตำแหน่งให้คนที่เหมาะสมกว่าฉันจะดีกว่า”
ฉันคาดว่าคำพูดแบบนี้ของฉัน เฉียวอี้จะต้องรู้สึกว่ามันไม่ควรค่าแก่การฟังอย่างแน่นอน เธอแตกต่างจากฉัน เธอไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ครั้งนี้เฉียวอี้ก็ยังคงไม่ดุด่าฉัน เธอเพียงเอ่ยกับฉันเบาๆ ว่า “ความคิดของเธอไม่ผิด เซียวเซิง ไม่มีใครบอกว่าเธอทำผิด ในใจของเธอ เธอทำไปเพื่อเซียวซื่อกรุ๊ป แต่มีน้อยคนนักที่จะเข้าใจเธอ”
ท่ามกลางแสงสีในยามค่ำคืนที่ไกลสุดลูกหูลูกตาฉันจับจ้องไปที่แววตาของเฉียวอี้ ฉันอยากรู้ว่าคำพูดในครั้งนี้ที่เธอพูดกับฉันเมื่อสักครู่นี้ เป็นความจริงใจหรือเสแสร้ง เป็นเพราะเธอโกรธฉันมากๆ จริงๆ หรือขี้เกียจเกินกว่าจะพูดกับฉันเลยโอนอ่อนไปตามฉัน หรือเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกแบบนี้จริงๆ
ทันใดนั้นเฉียวอี้ก็จอดรถเข้าข้างทางและหันมามองฉัน “ฉันเข้าใจเธอ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเธอ บางคนก็มีเจตนาร้ายใช้ประโยชน์จากความใจดีของเธอ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเธอขนาดนั้น”
ฉันพยักหน้ารับ “ฉันรู้ ฉันรู้อยู่แล้ว”
“บนโลกใบนี้ บางคนก็เลวมากๆๆ เลวจนเธอคิดไม่ถึงเลยว่าทำไมเขาถึงได้เลวขนาดนี้ โลกใบนี้ไม่ใช่ละครฉงเหยา1 ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งจู่ๆ คนเลวคนนั้นจะกลายเป็นคนดีมากๆ ได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีเรื่องแบบนี้บนโลกใบนี้ เซียวเซิง นี่คือโลกอันโหดร้าย เธอจะเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในความฝันไม่ได้ และเธอก็จะเอาแต่ยอมไม่ได้เหมือนกัน เธอต้องตอบโต้กลับไป เธอต้องทำให้เธอรู้ว่าตัวเธอเองทำได้ อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธตัวเอง อย่ารู้สึกว่าเซียวซือทำได้ดีกว่าเธอ”
“เธอเชื่อในตัวฉันเหรอ? ” ฉันเอ่ยถามเธออย่างช้าๆ ระมัดระวัง
“สติปัญญาของเซียวซือก็ธรรมดาๆ ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเลยสักนิด เธอแค่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เพราะเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เธอได้รับการกดขี่มาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เซียวซือแตกต่างออกไป ในใจของหล่อนเองมองว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง ขอแค่หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง หล่อนก็จะคิดจริงๆ ว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แต่สติปัญญาโดยกำเนิดเป็นสิ่งที่กำหนดทุกอย่าง เธอต้องทำได้อย่างแน่นอน ขอแค่เธอไม่ยอมแพ้”
ฉันอ้าปากค้างมองไปที่เฉียวอี้ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่ยอดเยี่ยมที่สุด
จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังยืนหยัดข้างฉันอยู่อย่างนี้ เธอยังคงมั่นใจไม่ยอมแพ้ในตัวฉันอยู่อย่างนี้ แม้แต่ตัวฉันเองยังยอมแพ้ในตัวเองไปแล้วเลย แต่เธอกลับยังคงไม่ยอมแพ้
“ฉันขอบคุณที่เธอมั่นใจในตัวฉันนะ แต่ชีวิตคนเราไม่ใช่ว่าพอดื่มซุปไก่เข้าไปชามแล้วชามเล่าแล้วมันจะทำได้เลย”
“สิ่งที่ฉันพูดถึงไม่ใช่ซุปไก่ เมื่อไรเธอถึงจะรู้ตัวเองสักทีว่าเธอสามารถทำได้ ขอแค่เธอไม่ปฏิเสธตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเธอก็สามารถค่อยๆ เรียนรู้มันไปได้ แล้วเธอก็จะเรียนรู้ที่จะจัดการกับทุกเรื่องได้อย่างรวดเร็ว เซียวเซิง สถานการณ์ทั่วๆ ไปของเฉียวกรุ๊ปในช่วงหลายวันนี้ ฉันเองก็พอควบคุมได้พอสมควรแล้ว ทุกวันตอนเช้าฉันสามารถเจียดเวลาสักสองชั่วโมงมาที่เซียวซื่อกรุ๊ปได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...