เสียงของสีจิ่นยวนดังมาก แถมเขายังพูดมันด้วยความชัดถ้อยชัดคำอีกด้วย ชัดจนฉันได้ยินมันอย่างชัดเจนทุกคำ
เขายืนปิดตาและส่งเสียงตะโกนดังลั่นจนหน้าดำหน้าแดงอยู่ที่ประตู
ถึงห้องพักฟื้นจะมีห้องด้านนอกและด้านในสองห้อง แต่ยังไงมันก็คือห้องพักฟื้น พื้นที่มีไม่เยอะ สีชิงชวนก็ยืนอยู่ที่หน้าเตียงฉัน คำพูดที่สีจิ่นยวนพูดเมื่อกี้ เขาได้ยินมันทุกคำไม่มีตกหล่นเต็มสองหู
จิตใต้สำนึกฉันอยากจะกระโดดลงจากเตียงและไปอุดปากสีจิ่นยวนไว้ แต่เขาไม่รู้ว่าสีชิงชวนอยู่ในห้องด้วย ยังคงปิดตาและตะโกนเสียงดังไม่หยุด “เซียวเซิง ผมชอบพี่ ผมชอบพี่จริงๆ ตอนที่เจอกันครั้งแรก พี่ยืนอยู่ข้างๆ สนามกีฬาที่บ้านผมและอยากดูผมเล่นบาส ผมก็ชอบพี่ตั้งแต่ผมเห็นพี่ครั้งแรก!”
“สีจิ่นยวน!” ฉันรีบเรียกเขาด้วยความลนลานทันที “นายเงียบไปเลยนะ!”
“ผมไม่เงียบ ชอบก็คือชอบ ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วย”
“พี่สามเขาไม่เห็นค่าพี่ พี่หย่ากับเขาเถอะ ผมแต่งกับพี่เอง!”
“หึหึ” สีจิ่นยวนทำให้สีชิงชวนรู้สึกขบขันขึ้นมา
เขาต้องไม่ได้ยิ้มมาจากใจแน่ เขากำลังโกรธจนหัวเราะออกมาต่างหาก
เมื่อสีจิ่นยวนได้ยินเสียงของสีชิงชวนก็รีบเปิดตาขึ้นทันที แต่มันก็ช้าไปซะแล้ว
คำพูดที่เขาพูดไปเมื่อกี้ สีชิงชวนได้ยินมันหมดแล้ว
ฉันมองเขาด้วยความรู้สึกเฟลๆ ฉันไม่คิดเลยว่าสีจิ่นยวนจะรู้สึกแบบนั้นกับฉัน
ปกติเขาชอบมาชวนฉันเล่น มักจะวอแวอยู่รอบตัวฉัน ฉันคิดว่าเขาแค่ไม่มีเพื่อนในวัยเดียวกันในบ้านตระกูลสี และเขาเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ที่เมืองฮวาก็ไม่มีเพื่อนคนไหน การเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับฉันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะมากไปถึงขั้นชอบพอและไปไกลถึงการบอกว่าจะขอฉันแต่งงาน เกือบทำฉันขวัญหนีดีฝ่อแล้วเนี่ย
เดิมทีฉันก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับน้องสามีอยู่แล้ว ตอนนี้สีจิ่นยวนยังมาตะโกนบอกฉันแบบนี้อีก ชื่อเสียงอันดีงามของซูต๋าจี่อย่างฉัน หนีไม่รอดแล้ว
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองสีหน้าของสีชิงชวน เขายื่นนิ้วออกมาและชี้ไปที่จมูกของสีชิงชวน
“แกมานี่เลย!”
สารภาพรักกับพี่สะใภ้ต่อหน้าต่อตาพี่ชาย มันก็ดูฮาร์ดคอร์อยู่นะ
ฉันไม่รู้ว่าสีชิงชวนจะสั่งสอนเขายังไงจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถช่วยพูดขอร้องแทนเขาได้อยู่ดี
สีจิ่นยวนลังเลอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้ามาอย่างไม่หวาดหวั่นและกระฉับกระเฉง เขาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าสีชิงชวนละเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา “พี่ ในเมื่อพี่อยู่ด้วย งั้นก็ถือโอกาสนี้บอกให้พี่รู้ความรู้สึกของผมไปด้วยก็แล้วกัน”
“ถือโอกาสอะไร? ถือโอกาสบังคับให้ฉันหย่ากับเซียวเซิง จากนั้นเธอก็แต่งงานกับแกเหรอ แกอย่าลืมนะว่าแกยังไม่บรรลุนิติภาวะ”
“อีกไม่นานผมก็บรรลุนิติภาวะแล้ว”
“ในกฎหมายการแต่งงานของประเทศเรา แกยังไม่ถึงวัยแต่งงานช้า”
“งั้นเราไปแต่งกันที่ต่างประเทศก็ได้”
“สีจิ่นยวน นายกำลังยั่วโมโหใครอยู่?” ฉันอดไม่ไหวจริงๆ ฉันใช้คุกกี้ชิ้นเล็กๆ ที่ทานเหลือชิ้นหนึ่งเขวี้ยงใส่เขา “นายพูดให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหม?”
“อย่าสิ เขาอยากสารภาพรักไม่ใช่เหรอ? คุณก็ปล่อยให้เขาพูดความในใจออกมาเลยครั้งเดียวจบๆ” สีชิงชวนลากเก้าอี้มานั่งฟังด้วยความใจจดใจจ่อ
“สีจิ่นยวน ตอนนี้ฉันให้โอกาสแก แกสารภาพต่อสิ”
“เมื่อกี้ผมสารภาพไปแล้ว” สีจิ่นยวนเกาหัวยิกๆ “พี่ ในเมื่อพี่ไม่ได้ชอบพี่เซียวเซิง ทำไมพี่ต้องผูกมัดเธอไว้ด้วย?”
“แกรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ชอบเธอ?” สีชิงชวนย้อนถาม
“ถ้าพี่ชอบเธอจริงๆ แล้วทำไมพี่ต้องทำแบบนี้กับเธอด้วย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...