พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 316

ฉันชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับสีจิ่นยวนจน ในที่สุดเขาก็ยอมกลับไปแล้ว ฉันจึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

ทันทีที่เขาเดินออกไป สีชิงชวนก็เดินเข้ามาในห้องทันที

เขายืมถามฉันอยู่ที่หน้าประตู “เป็นไง?” เขาพูด “เขากลับไปแล้ว? แผนขัดตาทัพ?”

ความรู้สึกที่ไม่มีอะไรที่สามารถปิดบังสีชิงชวนได้นี่ช่างน่าอึดอัดจริงๆ

เหมือนฉันกำลังเปลือยล่อนจ้อนและเปิดอย่างหมดเปลือกต่อหน้าเขา

ฉันจึงไม่ได้พยักหน้ารับหรือส่ายหน้าปฏิเสธ เขาก็เลยเดินเข้ามาเปิดฝากระบอกเก็บอาหาร

กลิ่นเหม็นๆ ของบะหมี่หอยหวานลอยคละคลุ้งออกมา ฉันชอบทานบะหมี่หอยหวานมาก เวลาหิวก็จะรู้สึกว่ากลิ่นนี้มันน่าปลื้มใจสุดๆ ไปเลย แต่ตอนนี้ฉันอิ่มแล้ว พอดมเข้าไปอีกจึงรู้สึกมันน่าเวียนหัวมาก

“ฉันไม่อยากกิน”

เขาขมวดคิ้ว “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณอยากกินบะหมี่หอยหวาน?”

“ตอนนี้ไม่อยากกินแล้ว” ฉันบอก “สีจิ่นยวนเอาอาหารบนเครื่องบินมาให้ฉันกิน สเต๊กเนื้อวัวหนึ่งชิ้นเต็มๆ”

ฉันไม่ได้เงยหน้าไปมองสีชิงชวน ไม่รู้เหมือนกันว่าสีหน้าตอนนี้ของเขาเป็นยังไง ฉันรู้แค่ว่าสีหน้าของเขาตอนนี้ต้องไม่น่ามองเท่าไหร่แน่ๆ

เมื่อมองสายตาของเขา ฉันเหมือนกลายเป็นซูต๋าจี่ สนมคนโปรดของโจ้วอ๋องที่มาเพื่อยั่วยวนผู้ชายโดยเฉพาะ

แต่ว่าเขาน่าจะรู้ดีว่าฉันไม่มีความสามารถอะไรขนาดนั้นหรอก ไม่งั้นฉันคงยั่วเขาสำเร็จไปนานแล้ว

สีชิงชวนไม่ได้มีความอดทนอะไร หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรฉันอีก

เขาต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะฉันเจาะจงบอกให้เขากลับบ้านไปทำอาหารเช้าให้ฉันทานเอง แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ทาน

ใจเขาเองก็รู้ดีว่าฉันแค่อยากไล่ให้เขาออกไปไกลๆ จากฉัน

จากนั้นฉันก็ทำการตรวจร่างกายอยู่หลายอย่าง ถ่ายเอกซเรย์อยู่หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แล้วก็เอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยและให้คำปรึกษา

ทุกครั้งตอนที่รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สีชิงชวนจะไปร่วมฟังด้วยตัวเองทุกครั้ง

ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาในใจเขาคิดยังไง ฉันรู้สึกเหมือนเขาจะค่อนข้างประหม่า เพราะฉะนั้นที่เฉียวอี้บอกว่าเขาอยากฆ่าฉันให้ตาย ฉันว่าความคิดนี้มันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย

ถ้าเขาคิดจะฆ่าฉันจริงๆ ก็คงไม่ต้องเสียแรงมาช่วยฉันแบบนี้

ไม่งั้นแม้แต่ฉันเองก็ยังคิดว่า ที่เขาทำแบบนี้มันดูจะอ้อมค้อมเกินไปหรือเปล่า สู้ฆ่าฉันไปเลยจะได้จบๆ ทำไมตอนนี้ยังต้องมาช่วยฉันรักษาอีก?

เฉียวอี้บอกว่าจิตสำนึกที่ยังหลงเหลืออยู่เขามันเรียกร้อง หรือไม่ก็กลัวว่าถ้าฉันตายขึ้นมาจริงๆ ฉันจะกลายเป็นวิญญาณอาฆาตมาตามบีบคอเขาให้ตาย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ สีชิงชวนก็ไม่กลัวหรอก เขาเคยกลัวผีซะที่ไหนกัน?

ฉันคิดว่าพอสีจิ่นยวนกลับบ้านไปแล้ว คนที่บ้านก็คงไม่ปล่อยเขาออกมาอีก หรืออาจจะส่งเขากลับไปต่างประเทศเลย แต่คิดไม่ถึงว่าฉันทานมื้อเที่ยงเสร็จได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็กลับมาอีกแล้ว

ในมือเขาถือถุงกระดาษอยู่ถุงหนึ่ง ด้านในตุงๆ นูนๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร

เขาหยิบออกมาให้ฉันดูทีละชิ้นๆ “อันนี้เป็นคุกกี้ที่ผมอบมา ดมดูสิ หอมใช่ไหม?”

ฉันเห็นวัตถุกลมๆ ที่มีรูปร่างประหลาดๆ และมีสีที่แยกไม่ออกแต่ละอันในกล่องใสๆ ทำได้เพียงยืนยันให้แน่ใจว่ามันคือคุกกี้จริงๆ

“พี่อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เซียวเซิง ถึงหน้าตามันจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่รสชาติอร่อยมากนะ ผมไม่ได้ใส่น้ำสักหยด ใส่นมทั้งหมดเลย”

“นายอบคุกกี้เป็นได้ไง?”

“ป้าอู๋สอนผมไง พี่นอนน่าสงสารอยู่บนเตียงคนเดียว ผมก็เลยคิดว่า ทำอะไรเองให้พี่หน่อย จะได้ทำให้พี่มีพลัง”

ถึงฉันจะไม่ได้คิดว่าคุกกี้รูปร่างประหลาดๆ พวกนี้จะให้พลังอะไรกับฉันได้ แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของเขา

เขากระตือรือร้นอยากจะให้ฉันชิม ในเมื่อเจ้าหนูนี่กระตือรือร้นขนาดนี้ ฉันก็คงใจดำปฏิเสธไม่ได้

ฉันใช้สองนิ้วหยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่งเข้าไปเคี้ยวในปาก รสชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ฉันคิด หอมและกรอบมาก ช็อกโกแลตและนมกลิ่นหอมหวานและเข้มข้นมาก

ฉันยกนิ้วโป้งให้เขา “อร่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)