มีแค่สีจิ่นยวนเท่านั้นแหละที่คิดได้และเก็บเอาอาหารบนเครื่องบินมาให้คนอื่นกิน
เขาทำให้ฉันคิดถึงคุณพ่อที่พาฉันนั่งเครื่องบินครั้งแรก ตอนนั้นคุณแม่เสียแล้ว แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทานอาหารบนเครื่องบิน ฉันตั้งใจเก็บขนมปังก้อนกลมๆ เล็กๆ และขนมบิวเกิลห่อหนึ่งลงมาให้คุณแม่ทานที่หลุมฝังศพ
ความจริงอาหารบนเครื่องบินไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่ฉันก็ทานมันจนหมด
สีจิ่นยวนนั่งลงข้างๆ ฉันและมองฉันด้วยดวงตาสุกใสอยู่ตลอดเวลา
ฉันคิดว่าสีจิ่นยวนเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจมาก ในยุคนี้ผู้ชายที่ซื่อสัตย์จริงใจแบบเขานับวันยิ่งน้อยลงทุกที อ้อ ไม่ใช่สิ อย่างเขาน่าจะเป็นเด็กผู้ชายมากกว่า
“เซียวเซิง พี่อย่าไล่ผมเลยนะ” เขาทำท่าทางน่าสงสาร “พูดก็พูดเถอะ ผมเป็นคนชวนให้พี่ไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกัน ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ที่พี่ต้องบาดเจ็บ มันก็เกี่ยวกับผมด้วยเหมือนกัน ผมจะทิ้งพี่อยู่โรงพยาบาลแบบนี้แล้วไปเรียนได้ไง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันบอกว่าผมจะทำแบบนั้นไม่ได้”
“นายมีจิตสำนึกด้วยเหรอ…” ฉันแทงใจเขาไปคำหนึ่ง
“ผมจะไม่มีจิตสำนึกได้ไง” เขาคว้ามือฉันไปวางทาบบนหน้าอกของเขา “พี่ไปเอามีดผลไม้มากรีดดูก็ได้ จิตสำนึกผมมีเยอะเลย”
ฉันยิ้มออกมาทันที ในตอนนั้นเองประตูก็เปิดออก สีชิงชวนถือกระบอกเก็บความร้อนและเดินก้าวยาวๆ เข้ามาอย่างรวดเร็ว และเขาก็เห็นฉากหยอกล้อสนุกสนานของฉันและสีจิ่นยวนทั้งหมด
เขาเดินเข้ามาหลายก้าวกว่าจะเห็นสีจิ่นยวนยืนอยู่ จากนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน
สีจิ่นยวนตกใจและร้องออกมา จากนั้นก็หลบมาอยู่ด้านหลังฉัน
“สีจิ่นยวน นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? อย่าบอกนะว่านายบินมาจากสนามบินที่นายต้องเปลี่ยนเครื่อง! หืม?”
สีชิงชวนวางกระบอกเก็บความร้อนไว้บนโต๊ะหัวเตียงและพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด
สีจิ่นยวนหลบอยู่ข้างหลังฉันไม่กล้าโผล่หน้าออกมา แต่ก็ยังตะโกนออกมาเสียงดัง “พวกพี่หลอกผม บอกว่าเซียวเซิงแค่เคล็ดขัดยอกนิดๆ หน่อยๆ เธอเคล็ดที่ไหนกัน? เธอเจ็บหนักมากเลยต่างหาก!”
“แล้วยังไง? นายเป็นหมอเหรอ? นายเป็นพยาบาลเหรอ? นายกลับมาแล้วมีประโยชน์อะไร? ก็ทำได้แค่มองอยู่ข้างๆ อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”
สีชิงชวนเข้ามาจับเขา แต่สีจิ่นยวนหลบอยู่ข้างหลังฉัน ฉันกลัวว่าสีชิงชวนจะทำอะไรเขาจึงกางแขนทั้งสองข้างปกป้องเขาเอาไว้
“เขาไม่ควรบินกลับมาแต่ก็ยังไงก็กลับมาแล้ว คุณอย่าไปว่าเขาเลย!”
คงเป็นเพราะฉันบาดเจ็บอยู่ สีชิงชวนจึงเก็บอาการไว้
เขาขมวดคิ้วและตะคอกใส่สีจิ่นยวน “ถ้ายังอยากรักษาหน้าอยู่ก็ออกมา อย่ามัวแต่หลบอยู่หลังเซียวเซิง!”
“ผมไม่ได้อยากรักษาหน้าสักหน่อย พี่สาม พวกพี่มันชอบบงการเหมือนฟาสซิสต์ พี่ไม่ต้องมาจับผมไปเรียนหรอก ผมรอให้เซียวเซิงหายแล้วผมค่อยไป!”
แขนยาวๆ ของสีชิงชวนคว้าตัวเขาออกไปจากด้านหลังฉัน สีจิ่นยวนที่สูง 187 เซนติเมตรทำได้เพียงก้มหน้าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าสีชิงชวน ความหยิ่งยโสที่มีเมื่อกี้อันตรธานหายไปหมดแล้ว
“ฉันจะให้คนจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้แหละ นายรีบกลับไปเรียนหนังสือซะ!”
“ไม่เอา ผมจะอยู่ข้างๆ เซียวเซิง!”
“สีจิ่นยวน ฉันไม่ได้ปรึกษาแกอยู่!”
“ผมก็ไม่ได้ปรึกษากับพี่เหมือนกัน!” สีชิงชวนคงไม่เคยมีท่าทีแบบนี้กับสีชิงชวนมาก่อน เขาตะคอกเสียงดัง “ผมจะอยู่กับพี่เซียวเซิง พี่ทำไม่ดีกับเซียวเซิง พี่ทำให้เธอเจ็บตัวตลอด พี่ยังตั้งใจทำให้เกิดรถชนด้วย!”
ฉันตกใจกับคำพูดของสีชิงชวนมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็กล้าพูดมันออกมาหมดทุกอย่าง
ทันใดนั้นสีชิงชวนก็เงียบไม่พูดจา แต่สีหน้าของเขาดูไม่น่ามองมาก เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลแก่ขับให้หน้าเขาดูขาวมาก ขาวจนมองไม่เห็นสีเลือดเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...