ไม่นานก็มีบอดี้การ์ดขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของเขา ฉันเห็นเซียวซือสีหน้าตกใจ สายตาซับซ้อน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
ไม่นานบอดี้การ์ดก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับซังสือซี ซังสือซีเลื่อนดู แล้วโทรหาเบอร์ๆ หนึ่ง จากนั้นโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าของเซียวซือก็ดังขึ้น
โทรศัพท์สั่นอยู่บนโต๊ะ ทำเอาทุกคนตกตะลึง
สีชิงชวนถือโทรศัพท์เดินไปหาเซียวซือพร้อมเงยหน้าใส่เธอ “รับสายสิ ดูซิว่าใครโทรมา?”
เซียวซือมองสีชิงชวนด้วยสายตาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอตกใจหรือว่าอะไรกันแน่
เธอไม่ยอมรับสายสักทีจนสายตัดไป
สีชิงชวนโทรไปอีกครั้ง ทำให้ทุกคนรู้ว่าใครเป็นคนโทรมา
สีชิงชวนเห็นว่าเธอไม่ยอมรับสาย จึงเดินเข้าไปเอง เพื่อรับสายแล้วเปิดลำโพงให้เธอแทน
เขาพูดกับโทรศัพท์ “ฮัลโหล คุณเซียว”
จากนั้นโทรศัพท์ตรงหน้าของเซียวซือก็มีเสียงของสีชิงชวนดังขึ้น
การที่เจอเบอร์โทรศัพท์ของเซียวซือในโทรศัพท์ของไอ้อ้วนคนนั้นหมายความว่ายังไง?
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงครหาดังขึ้นในห้องโถง เหล่าวีอาร์จากประเทศฝรั่งเศสก็ครหาขึ้นด้วย
สีชิงชวนยื่นโทรศัท์ของไอ้อ้วนนั่นให้กับบอดี้การ์ด จากนั้นก็วางมือไว้บนโต๊ะพร้อมก้มตัวลงมองเซียวซือจากข้างบน
สายตาของเขาสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวได้ เพราะเซียวซือก้มหน้าลง สีหน้าซีดเซียวจนน่ากลัว
“ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาทีในการอธิบาย เซียวซือ” สีชิงชวนบอกกับเซียวซือ
“ฉันไม่มีอะไรจะอธิบาย ฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ ฉันมั่นใจ”
“อย่ามาพูดเรื่องพวกนี้กับผม!” เสียงของสีชิงชวนดังขึ้น ทั้งยังดุมากด้วย “ผมดูแค่หลักฐาน ถ้าคุณหาหลักฐานมาแก้ตัวได้ก็แสดงว่าไม่ใช่ฝีมือคุณ”
“แล้วถ้าไม่มีล่ะ?” เซียวซือเงยหน้ามองสีชิงชวน
“ง่ายๆ แจ้งความ!”
เซียวซือจ้องตาของสีชิงชวนเขม็ง “คุณไม่ทำแบบนั้นหรอก”
“งั้นก็แสดงว่าคุณไม่รู้จักผมเลย ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที เริ่มจับเวลาตั้งแต่ตอนนี้เลย 60…59…”
ในห้องโถงเงียบสงัดอีกครั้ง ได้ยินเพียงเสียงนับถอยหลังของสีชิงชวนเท่านั้น
ฉันเห็นเซียวซือกำลังตัวสั่นเทา เซียวซือเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยและนิ่งเงียบของเมืองฮวามาตลอด นิ่งขนาดไม่แสดงออกว่ากำลังเศร้าหรือดีใจ ไม่เหมือนกับเซียวหลิงหลิงที่ออกแนวเซอร์ๆ หน่อย
อาจเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเซียวซือเป็นแบบนี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามซ่อนสีหน้าไว้มากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อาจซ่อนความกลัวในสายตาได้
นอกจากหวาดกลัวแล้วยังมีความรู้สึกโกรธที่ไม่เข้าใจปนอยู่ด้วย
ใช่ เซียวซือกำลังโกรธ เธอต้องโกรธที่สีชิงชวนดุเธอแน่ๆ
ความจริงแล้ว แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่รู้เลย
สีชิงชวนนับถอยหลังมาจนถึงหลักหน่วย การนับถอยหลังของเขาไวเหมือนฝีเท้าผีอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันเป็นคนโทรเอง!” ขณะที่สีชิงชวนกำลังจะนับถึงสามนั้น เซียวซือก็เอ่ยขึ้นราวกับตะโกนออกมา “ฉันเป็นคนโทรเอง”
“คุณเป็นคนสั่งให้ไอ้อ้วนนั้นขืนใจภรรยาผมเหรอ?” น้ำเสียงของสีชิงชวนทุ้มต่ำมากกระทั่งอบอุ่น
แต่ทว่า ความเงียบสงบมาก่อนฝนตก
เซียวซือก้มหน้าก้มตาไม่ตอบ
“ใช่ไหม?” สีชิงชวนตบโต๊ะกะทันหัน เซียวซือตกใจสะดุ้งโหยง มือของเธอจึงปัดไปโดนแก้วไวน์บนโต๊ะ ทำให้ไวน์หกเต็มชุดของเธอ
เธอรีบเช็ดคราบไวน์บนเสื้อ สีแดงเลือดหมูของไวน์ทำให้ชุดสีขาวของเธอย้อมไปด้วยสีแดง ดูทุเรศมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...