ตอนนี้มีคนใช้คนหนึ่งเอากะละมังใบหนึ่งออกมาจากห้องเขา
ตอนนั้นเขาใช้กะละมังใบนี้ใส่น้ำ แล้วราดใส่ฉัน สีหน้าของเซียวหลิงหลิงเปลี่ยนไปทันที
แววตาที่ตำรวจมองเขาเต็มไปด้วยดูถูก
“เราได้รับแจ้งความ แจ้งว่าคุณใช้กะละมังใส่น้ำร้อนทำร้ายคุณเซียวคนนี้ใช่ไหมครับ ?”
“อย่าไปฟังพวกคนไม่ดีแจ้งเรื่องก่อนสิคะ !” เซียวหลิงหลิงพูดขึ้นมาทันที เขากล้าทำแต่ไม่กล้ารับมาโดยตลอด
เมื่อก่อนเรื่องแย่ๆ ที่เซียวหลิงหลิงทำ ตอนที่คุณพ่อถามขึ้นมา เขาไม่ยอมรับตลอด ปฏิเสธยังไงก็ปฏิเสธอย่างนั้น
แต่ก็นะ เขาก็ไม่ถือว่าฉลาดสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ทำมักจะหลงเหลือร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ ไว้เสมอ และถูกคุณพ่อจับได้คาหนังคามือ จากนั้นก็โดนคุณพ่อทำโทษอย่างรุนแรง
แต่เซียวหลิงหลิงเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหลังจากได้รับคำตักเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังกลายเป็นคนที่ยิ่งสอนยิ่งมีความกล้าซะด้วยซ้ำ
คิดว่าคนแบบเซียวหลิงหลิง ตำรวจก็คงเจอมานัดต่อนัด
“งั้นได้ครับ เราคงต้องพาคุณกลับไปพิสูจน์รอยนิ้วมือ ถ้าพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นลายนิ้วมือคุณละก็ ถึงคุณจะปฏิเสธมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไร”
“กะละมังนี้มันอยู่ในห้องฉัน มีลายนิ้วมือฉันมันจะไปแปลกตรงไหน ?”
“กะละมังนี้ของฉันค่ะ” คนใช้ที่เอากะละมังมาพูดอย่างขลาดกลัว
“เธอตายแน่ !” เซียวหลิงหลิงดุเขาเสียงดัง
คนใช้ตกใจจนหดตัวไปไม่กล้าพูดอะไรอีก
ตำรวจมองที่เขาอย่างเยือกเย็น “ฉันคุณยังพูดมั่วอีกครั้ง คุณจะเป็นผู้ต้องสงสัยในการข่มขู่พยาน”
“พยานอะไรกัน ? นี่เป็นของของตระกูลเซียว เป็นของของฉัน และฉันก็เป็นคนซื้อมา ของทุกชิ้นเป็นของฉัน !”
“คำพูดของเขาแม้แต่ตำรวจยังหัวเราะ “คุณคิดว่านี่เป็นยุคทาสงั้นเหรอ เขาไม่ทาสที่คุณซื้อมา เขาแค่ทำงานให้คุณก็เท่านั้นเอง ไม่ต้องมาทำเป็นตัวเองยิ่งใหญ่หรอก เอาตัวเซียวหลิงหลิงไป !”
แม้แต่คำว่าคุณตำรวจก็ไม่เรียก เรียกแต่ชื่อเลยตรงๆ เซียวหลิงหลิงโมโหจนตาเขียวไปหมด แต่ยังไงเขาก็กลัวตำรวจ เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก
ฉุดรั้งกันจนสุดท้ายตำรวจก็หมดความอดทน ก็เลยโบกๆ มือ “ในเมื่อคุณไม่ให้ความร่วมมือ งั้นก็กลับไปทำการตรวจสอบกับพวกเรา คุณหลุดพ้นจากความน่าสงสัยเมื่อไหร่ ก็ค่อยปล่อยคุณออกมา”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่ไป พวกคุณใครกล้าจับฉัน ? มีคำสั่งจับตัวรึไง ? ได้หาคำสั่งรึเปล่า ?” เซียวหลิงหลิงเอะอะโวยวายเสียงดัง
ตำรวจประชาชนคนหนึ่งตบๆ ที่ไหล่เธอ “เราไม่ได้จับคุณ เราแค่ให้คุณกลับไปกับเราเพื่อช่วยสอบสวน คุณไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ ถ้าคุณยังจะเป็นแบบนี้อีกละก็ จะถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรงกับตำรวจ โทษจะหนักกว่านี้เยอะเลยนะครับ”
“คุณคิดว่าคุณพูดสองสามคำ สามารถทำให้ฉันหยุดได้งั้นเหรอ ? ฉันบอกคุณให้นะ ไม่มีทาง !”
เซียวหลิงหลิงแยกฟันออกมา แต่กลับถูกตำรวจกดไหล่ไว้
ตั้งแต่เริ่มจนจบ แม่เลี้ยงหลบอยู่ในห้องไม่ออกมาเลย เหมือนจู่ๆ ฉันจะรู้แล้วว่าวิธีการปฏิสัมพันธ์ของแม่ลูกสามคนนี้เป็นยังไง
นั่นก็คือ ตอนที่รังแกฉัน ทุกคนจะร่วมมือร่วมใจกัน แต่ในบรรดานั้น ถ้าคนในคนหนึ่งเผชิญอันตราย อีกสองคนก็ไม่ได้ร่วมมือกันปกป้องแต่กลับไปหลบซ่อนตัว
ที่จริงการรวมกลุ่มแบบนี้มันง่ายมากที่จะต่อสู้ ถ้าตอนนั้นฉันเข้มแข็งหนักแน่นสักหน่อย ฉันก็คงไม่ลำบากขนาดนั้น
คุณย่าพูดถูก การที่ปกป้องตัวเองไม่ใช่การที่เอาตัวเองหดลงไปในกระดองเหมือนเต่า แต่ต้องเอาอาวุธออกมาต่อสู้
ฉันนึกได้ถึงจุดนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ตอนไหน
เซียวหลิงหลิงถูกตำรวจนำตัวไป จากนั้นคุณย่าก็คะยั้นคะยอให้ฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อย
คุณหมอเห็นฉันก็ตกใจ เพราะเมื่อวานฉันเพิ่งถูกนำตัวมาตรวจทั้งร่างกายที่โรงพยาบาล วันนี้ก็มาอีกแล้ว
และมีตำรวจติดตาม 2 นาย เพื่อสะดวกในการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...