พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 338

ป้าอู๋และคนอื่น ๆ จ้องมองมาที่ฉัน “คุณนายสามบาดเจ็บอีกแล้วเหรอคะ ?”

ฉันสังเกตเห็นว่าพวกเขาได้พูดคำนั้นอีกครั้ง มันช่างน่าอายเสียจริง

เด็กสาวหลาย ๆ คนในครอบครัวพยายามมาช่วยพยุงฉันขึ้นทั้งซ้ายทั้งขวา ตอนนี้ฉันเลยดูเหมือนถูกห่อด้วยผ้าพันแผลจนกลายเป็นมัมมี่

ฉันรีบพูดขึ้น “ฉันสบายดีค่ะ ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง”

พวกเขาเลยยอมแพ้กันไปเอง

ซุปของเย็นวันนี้เป็นปอดหมูตุ๋นกับลูกแพร์ จริง ๆ แล้วทุกอย่างที่ใส่ไปในซุปฉันโอเคกับมัน อีกทั้งปอดหมูเองก็อร่อยเอามากๆ

เฉียวอี้ชอบพูดเสมอว่าปอดหมูรสชาติเหมือนกับเนื้อคน พูดเหมือนกับเธอเองเคยกินเนื้อคนมาก่อน

ฉันเพิ่งกินซุปไปได้หนึ่งชาม ป้าอู๋ก็เอาชามที่สองมาให้ฉัน

สีชิงชวนกลับมาก่อนที่ชามที่สองจะได้วางบนโต๊ะ ฉันคิดว่าเขาจะอยู่ที่โรงพยาบาลไปอีกสักพักคาดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้

เพราะเขายังไม่ได้กินข้าวเย็น เขาจึงไปล้างมือแล้วตรงดิ่งมานั่งที่โต๊ะ

คุณย่าถลึงตามองไปที่เขา “เป็นยังไงล่ะ หลินไต้อวี้ของหลานไม่ได้ชวนกินข้าวเย็นหรือไง ?”

บางครั้งฉันก็คิดว่าความใจร้ายของสีชิงชวนน่าจะส่งตรงมาจากคุณย่า เวลาที่ใจร้ายก็ใจร้ายจริง ๆ

สีชิงชวนรู้สึกชินไปแล้ว เลยไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด

ก่อนที่จะยกชามซุปขึ้นมาเขาก็ถามฉันก่อนว่า “คุณเป็นยังไงบ้าง ?”

ฉันรู้สึกประหลาดใจกับความเป็นห่วงของเขา “ฉันไม่เป็นไร สบายดี จริง ๆ แล้วมันก็ได้ร้ายแรงอะไรหรอก”

เขาเพิ่งยกชามขึ้นมา ในเมื่อเขาถามฉัน ฉันเองก็ต้องถามถึงเซียวซือตามมารยาท “เซียวซือเป็นอย่างไรบ้าง ?เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?"

“ไม่เป็นไร พอส่งไปถึงโรงพยาบาลเธอก็ตื่นแล้ว"

“โรงพยาบาลไม่ใช่ที่พัก ตื่นขึ้นมาแล้วก็ยังต้องกลับที่ที่สมควรกลับ เว้นแต่จะมีคนต้องการปกป้องเอาไว้”

คุณย่าพูดอย่างมีเลศนัย ฉันคิดว่าตั้งแต่เซียวซือเข้าโรงพยาบาล ตัวสีชิงชวนเองก็น่าจะทำตามสถานการณ์ไป เดิมทีเขาคงไม่ได้วางแผนว่าจะทำอย่างไรกับเซียวซือ แค่จัดการแบบพอประมาณก็โอเคแล้ว

ฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะให้อภัยคนอื่นไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ถูกคนอ้วนนั่นทำร้ายสักหน่อยเพราะงั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ

ฉันคิดแบบนี้ แต่สีชิงชวนกลับไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเราเลยกินข้าวมื้อนี้กันอย่างเงียบ ๆ

แต่พอกินเสร็จฉันก็กลับไปที่ห้อง แต่สีชิงชวนกลับเดินตามเข้ามา แล้วยืนพิงตรงประตูแล้วมองมาที่ฉัน “สะดวกคุยไหม ?”

“สะดวก ฉันจะไม่สะดวกได้ยังไงล่ะ ?” ฉันรู้ว่าเขาอยากจะคุยอะไรกับฉัน ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องที่เกี่ยวกับเซียวซือ เขาคงไม่อยากให้ฉันฟ้องเธอ

ฉันคิดว่าเขาน่ะคิดมากเกินไป เดิมทีฉันก็ไม่ได้อะไรกับเซียวซือสักหน่อย

สีชิงชวนเดินเข้ามาแล้วนั่งลงตรงที่โซฟาแล้ววางข้อศอกทั้งสองข้างไว้ที่เข่าแล้วลากสายตามองมาที่ฉัน ท่าทางที่แสดงออกสามารถเอามาถ่ายหนังได้ ดูมีสไตล์มาก

อันที่จริงฉันเดาได้ว่าเขาต้องการพูดอะไรกับฉัน แต่เวลาผ่านไปนานเขาก็คงยังไม่พูดอะไรออกมา เมื่อเวลาผ่านไปนาน ฉันเลยอดไม่ได้ที่จะต้องเป็นคนเปิดปากพูดออกมาก่อน

“ฉันไม่ฟ้องเซียวซือหรอก ถึงยังไงเราก็เติบโตมาด้วยกัน เรื่องพวกนั้นก็ช่างมันเถอะ!”

“ช่างมันอะไร ?” สีชิงชวนขมวดคิ้ว พอได้เห็นเข้าแบบนี้แล้ว ทำไมเหมือนเราไม่ได้พูดเรื่องเดียวกันเลยล่ะ ?

“ที่ฉันจะพูดคือเรื่องเมื่อวานมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

“จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้ยังไง ?” เขาถามฉันกลับมา

ฉันปิดปากและตั้งใจฟังว่าเขาจะพูดอะไร “งั้นคุณอยากพูดอะไรกับฉันล่ะ ?”

สีชิงชวนมองมาที่ฉันอยากไม่ละสายตา สายตาของเขาในตอนนี้ดูแปลกเอามาก ๆ

จู่ ๆ สายตาแบบนี้ของเขาก็ทำให้ฉันคิดถึงช่วงเวลาที่เขากอดฉัน ในขณะกำลังร้องไห้อย่างหนักในห้องพักของโรงแรมเมื่อคืนนี้ อยู่ ๆ จิตใจฉันก็เกิดความวุ่นวายเหมือนหม้อโจ๊กปาเป่า ทั้งถั่วแดง , ลูกเดือยและทุกอย่างในหม้อ ดูวุ่นวายไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)