พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 340

สรุปบท ตอนที่ 340 ฉันต้องตรวจสอบให้ชัดเจน: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

ตอน ตอนที่ 340 ฉันต้องตรวจสอบให้ชัดเจน จาก พ่ายรักเมียในนาม(จบ) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 340 ฉันต้องตรวจสอบให้ชัดเจน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ที่เขียนโดย Chompoo Prateung เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฉันรู้สึกได้ว่า เซียวซือดูไม่เป็นมิตรกับฉันนิดหน่อย

นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะฉันที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้

“เซียวซือ” ฉันจับมือเธอไว้ และพูดกับเธออย่างเยือกเย็น “ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน ? ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นคนทำ”

ดวงตาของเซียวซือเป็นประกายด้วยแสงที่ฉันไม่อาจเข้าใจได้ เธอเลียริมฝีปากซีด ๆ ของเธอ “เซียวเซิง ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันควรพูดว่าเธอมันโง่หรือเธอจิตใจดีกันแน่"

ฉันมองไปที่เธอ แล้วใช้แรงจับไปที่มือของเธอ “หรือเธอถูกคุณน้าบังคับกันแน่”

“เซียวเซิง ตอนนี้เธอยังจะอยากรู้อะไรให้ชัดเจนอีกทำไม ?"

“แน่นอนว่าฉันต้องรู้เรื่องให้ชัด ๆ เพื่อที่ฉันจะได้ช่วยเธอได้ ”

“อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนกอบกู้โลก ตอนนี้เธอน่ะคือคนที่อันตรายที่สุดแล้ว” เซียวซีดึงมือของเธอออกจากฝ่ามือของฉันและกอดตัวเองให้แน่นขึ้น "เซียวเซิง คำแนะนำสุดท้ายของฉัน ที่ฉันจะบอกเธอคือ รีบหนีไปจากสีชิงชวนเถอะ "

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ?”

“เธอมองฉันสิแล้วเธอจะรู้ สีชิงชวนทำกับฉันโดยไร้ความปราณี และไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์เก่า ๆ ที่มี เธอควรคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอในอนาคตได้แล้ว”

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสีชิงชวนยังไง ?”

เซียวซือมองมาที่ฉันอย่างมีความหมาย แต่เธอกลับไม่พูดอะไรออกมา แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมาแต่ฉันก็เห็นความหมายอันลึกซึ้งในดวงตาของเธอ

เธอมองมาที่ฉันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยกยิ้มมุมปากออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เซียวเซิง จริง ๆ เธอเป็นคนฉลาด เธอลองใช้สมองอันแสนฉลาดของเธอคิดดูดี ๆ สิ”

“เธอรู้อะไร เธอก็บอกฉันมา"

“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น และฉันก็จะไม่พูดอะไรด้วย เซียวเซิง เธอช่วยฉันไม่ได้หรอก”

“งั้นเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับเธอหรือเปล่า ?”

เซียวซีเอาแต่มองมาที่ฉันและหัวเราะ หัวเราะจนสมองฉันเบลอไปหมด สับสนวุ่นวายเหมือนกับซุปไข่ที่อยู่ในชาม ตักขึ้นมาก็ไม่ได้ ดื่มก็ไม่ได้

สุดท้ายเซียวซือก็ไม่ได้ตอบคำถามของฉัน และไม่ว่าฉันจะพูดอะไรกับเธอต่อ เธอก็ไม่คุยกับฉันเธอเอาแต่กอดเข่าของตัวเองม้วนตัวเป็นลูกบอลก้อนเล็ก ๆ

ดังนั้นการที่เลือกมาเจอเซียวซี ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ผิดพลาดมาก ๆ

เพราะฉันไม่ใช่แค่ไม่ได้คำตอบ แต่ยังเพิ่มความสับสนให้กับตัวเอง และยังทำให้สงสัยในตัวสีชิงชวนอีกด้วย

แม้เซียวซือจะพูดแบบนั้น แต่ความสงสัยในใจของฉันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรกมันเป็นเพียงแค่เมล็ดเล็ก ๆ ต่อมามันหยั่งรากและแตกหน่อขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ประมาณ 20 นาทีต่อมา คนคนนั้นก็เปิดประตูออกและยืนที่ประตูเพื่อเตือนฉัน “คุณนายสี เวลาเหลือไม่มาก ไม่สามารถปล่อยให้นานไปกว่านี้ได้แล้ว แบบนี้ฉันจะลำบากค่ะ”

โดยปกติของฉันแล้วฉันไม่ชอบทำให้คนอื่นลำบาก ฉันเลยลุกขึ้นยืน บางทีอาจเป็นเพราะอากาศถ่ายเทไม่สะดวกหรืออาจเป็นเพราะฉันนั่งยอง ๆ เป็นเวลานาน เลยทำให้สมองฉันตื้อนิดหน่อย"

ฉันมองไปที่ไรผมสีขาวราวกับหิมะระหว่างผมสีดำทึบของเซียวซือ “ถ้าหากเธอถูกใส่ร้าย เธอก็แค่บอกฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอติดคุกโดยเปล่าประโยชน์”

เซียวซือยังคงก้มหน้าและไม่ส่งเสียงอะไรออกมา

ฉันเดินออกมาจากห้องด้วยความยากลำบาก ตอนแรกที่เดินเข้าไปก็ไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นอะไรข้างใน แต่พอได้เดินออกมาก็รู้สึกว่าอากาศข้างนอกนั้นสดชื่นเอามาก ๆ

เดิมทีในนั้นมักมีกลิ่นอับอยู่เสมอ เซียวซือที่เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่มาตลอด มาวันหนึ่งจู่ ๆ ก็ถูกนำมาขังไว้ในที่แห่งนี้ จริง ๆ ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่นัก

บางทีฉันอาจจะมีความเห็นอกเห็นใจมากเกินไป จนท่วมท้นไปหมด

หลังจากที่ฉันเดินออกไปก็ตัดสินใจได้ว่า ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวของฉันเอง

ถ้าผลออกมาว่าเซียวซือเป็นคนทำจริง ๆ เธอก็ต้องถูกลงโทษอย่างที่ควรจะเป็น

“ตอนนี้เฉียวอี้ไม่อยู่ เธอยังประชุมไม่เสร็จ”

“เธอประชุมเสร็จแล้ว ผมไปประชุมกับเธอมา แต่ว่ามีผู้จัดการอาวุโสคนอื่นๆ มาตามหาเธอ ก็เลยให้ผมมารอที่ห้องทำงานก่อน”

“อืม พวกคุณยังมีอะไรต้องคุยกันอีกไหม ?”

"หลังจากการประชุมใหญ่ ผมก็จะต้องมาที่ห้องทำงานของเธอเพื่อประชุมย่อย”

“แล้วการที่ฉันมาอยู่ที่นี่จะกระทบอะไรพวกคุณหรือเปล่า ?”

“ไม่หรอก” เฉียวเจี้ยนฉีโค้งตัวลงมามองฉัน “ทำไมสีหน้าคุณยังดูแย่อยู่ล่ะ ? ไม่ใช่ว่าตอนนี้คุณเดินได้แล้วไม่ใช่เหรอ ?”

เรื่องที่เกิดในงานวันเกิดของแม่เลี้ยงไม่มีใครรู้ ดังนั้นเฉียวเจี้ยนฉีเองก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้

ในตอนนี้เฉียวอี้ก็ได้กลับมาแล้ว เธอกำลังพูดคุยกับผู้คนรอบ ๆ ตัวเธอขณะที่เธอเดินเข้าประตูไป

เฉียวอี้สวมสูทสีเบจ พอดูแล้วดูเป็นคนฉลาดมาก ๆ ฉันรู้ว่าเธอเริ่มต้นได้เร็ว และตอนนี้เธอก็ดูดีเลยทีเดียว

ผู้คนรอบตัวเธอตั้งใจฟังคำพูดของเธอ และคอยพยักหน้ากันไปมา

ได้ยินมาว่าในเฉียวกรุ๊ป เฉียวอี้ถือได้ว่าเป็นคนที่โน้มน้าวคนเก่ง ในตอนแรกมีพวกผู้อาวุโสบางคนที่ไม่ยอมรับเธอ แต่คนที่มีของจริง ๆ ผู้คนไม่ยอมก็คงไม่ได้

เฉียวอี้เงบหน้าขึ้นมาแล้วเจอเข้ากับฉัน เธอประหลาดใจมาก “เซียวเซิง ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ล่ะ ?”

“ฉันมีธุระกับเธอนิดหน่อย ก็เลยแวะมาหาเธอ”

“ธุระอะไรเหรอ ? ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ ?” เธอวิ่งมาหาฉันและมองอย่างละเอียดหัวจรดเท้าของฉัน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? เซียวเซิง ?”

“ไม่เป็นไร อย่าทำเหมือนมันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันทุกครั้งสิ” ฉันรีบบอกเธอ “เธอทำธุระของเธอเถอะ เดี๋ยวฉันรอเธอเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)