พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 355

ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของบุคคลที่สองจริงๆ และฉันก็รู้สึกได้จริงๆ ว่าวิญญาณของฉันตกใจจนหนีออกจากร่างไปแล้ว

ฉันตกใจกลัวจนวิ่งตะบึงไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเงาของคนคนหนึ่งก็ปรากฎตัวออกมาจากพุ่มไม้ข้างทาง จากนั้นก็มาขวางหน้าฉันไว้

ฉันหยุดฝีเท้าไม่ได้ และพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ร่างนั้นที่ไม่รู้ว่าเป็นคนหรือผีจับไหล่ของฉันเอาไว้ ฉันตกใจจนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “ช่วยด้วย! ”

“ผมเอง เซียวเซิง” อ่อนโยน อ่อนโยนมาก อ่อนโยนจนฉันแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียดภายใต้ค่ำคืนอันมืดสนิท และพบว่าเขาคือสีชิงชวน

เขาไม่ได้ขับรถบึ่งออกไปจากตรงหน้าของฉันไปแล้วหรอกเหรอ? หรือจู่ๆ ก็ใจกว้างมีเมตตาขับรถกลับมา?

ฉันแทบจะทรุดตัวล้มลงไป ฉันฟุบตัวอยู่บนหน้าอกของเขาและไม่สามารถยืดตัวกลับขึ้นมาได้เลย

เขากอดฉันเอาไว้แน่น ในตอนนี้เวลานี้เขากอดฉันเอาไว้แน่นมากๆ

สีชิงชวนมีหลายบุคลิกอย่างแน่นอน มองจากท่าทีของเขาที่มีต่อฉันก็สามารถดูออกแล้ว

เมื่อสักครู่นี้เป็นอีกแบบหนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง “คุณเป็นบุคลิกไหนกัน? ” ฉันเงยหน้าขึ้นไปถามเขาด้วยความประหลาดใจ “เมื่อกี้เป็นบุคลิกแบบโหดเหี้ยม ตอนนี้เป็นบุคลิกแบบผู้ชายอบอุ่นอย่างนั้นเหรอ? ”

“ขอโทษนะ เมื่อกี้ผมไม่ควรทิ้งคุณไว้เลย” นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะขอโทษฉันด้วย

ฉันหวาดผวาจนยืดตัวขึ้นในอ้อมแขนของเขา และถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวทันที จากนั้นก็จ้องมองไปที่เขา “แกไม่ใช่สีชิงชน แกเป็นภูตผีปีศาจอะไรถึงได้แปลงร่างเป็นเขาได้? ”

“เซียวเซิง” เขาจับไหล่ของฉันเอาไว้ “ผมแค่อยากให้คุณได้เข้าใจว่าไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ข้างกายคุณ ต่อให้จะเป็นคนที่คุณไว้ใจมากที่สุดก็มีความเป็นไปได้ที่จู่ๆ พวกเขาจะจากคุณไปได้ทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าการจากไปนี้จะเป็นพวกเขาที่จากไปเองหรือถูกทำให้ต้องจากไปก็ตาม”

ในเวลานี้สีชิงชวนก็ยังคงสอนบทเรียนให้ฉันอยู่ ฉันฟังจนหัวใหญ่ขึ้นแทบจะระเบิด และโงนเงนไปมาจะล้มแหล่มิล้มแหล่

ฉันมองไปที่เขา “คุณก็บอกฉันมาเลยสิว่าฉันคือคำตอบของเธอ งั้นในเมื่อคุณจากไปแล้ว แล้วคุณกลับมาอีกทำไม? ”

เขาเดินเข้ามาหาฉันหนึ่งก้าว คว้าเข้าที่ข้อมือของฉันแล้วดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

เขากดจูบลงบนผมของฉัน จากนั้นก็หน้าผาก ตามด้วยที่แก้ม และสุดท้ายเขาประคองใบหน้าของฉันขึ้นมา แล้วกดจูบลงบนริมฝีปากของฉัน

ในค่ำคืนอันมืดมิดที่แค่ยื่นมือออกไปก็มองไม่เห็นนิ้วมือทั้งห้าแล้วนั้น บนเนินเขาที่ดูน่ากลัวราวกับสุสานที่ฝังศพสะเปะสะปะไปทั่ว จู่ๆ สีชิงชวนก็มาจูบฉันอย่างลึกซึ้งโรแมนติกแบบนี้ มันทำให้ฉันตื่นตระหนกตกใจทำอะไรไม่ถูก

ฉันตอบรับจูบของเขาตามอำเภอใจ จากนั้นก็พยายามใช้มือผลักเขาออก

“สีชิงชวน” ฉันผลักเขาออกด้วยความเหนื่อยหอบ และเห็นแสงไฟอันลุกโชนราวกับเปลวไฟในดวงตาของเขา “ถ้าคุณป่วยจริงๆ คุณก็ไปรักษาเถอะ ครอบครัวของคุณมีเงินตั้งมากมายขนาดนั้น คุณต้องรักษาหายอย่างแน่นอน”

“เซียวเซิง คำถามนั้นที่คุณถามผมเมื่อกี้นี้ ตอนนี้ผมตอบคุณได้แล้วนะ”

คำถามอะไร? หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ฉันก็ลืมไปหมดแล้ว

ฉันจ้องมองเขาอยู่นาน จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “เมื่อกี้นี้ฉันถามอะไรคุณไปเหรอ? ”

โอ้ ฉันนึกออกแล้ว ฉันถามเขาว่าจะจากฉันไปตอนไหน?

เอาล่ะ ฉันล้างหูรอฟังอย่างตั้งใจ ฉันเองก็อยากรู้คำตอบมากๆ เหมือนกัน สำหรับพวกเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วการได้รู้คำตอบไว้ก่อนมันก็ดี ฉันจะได้มีวิธีการรับมือ

ในขณะที่กำลังฉันรอคำตอบของเขา ในแววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งบางอย่าง เขายื่นมือออกมาลูบผมของฉัน ลูบจนฉันขนลุกเกรียวไปทั้งตัว “จริงๆ แล้ว...” ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาต่ำและแหบแห้งเล็กน้อย “ผมไม่ควรบอกคุณว่าผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณจากผมไปไหน แต่คุณในตอนนี้โดดเดี่ยวมากเกินไปแล้ว ผมจำเป็นต้องบอกคุณ เซียวเซิง คุณมีผมอยู่ข้างๆ นะและจะมีตลอดไป...”

เขาประสาทไปแล้ว เขาต้องเป็นโรคประสาทไปแล้วแน่นอน

ตัวเขาเองก็ป่วยแล้ว เลยอยากถือโอกาสทำให้ฉันเป็นบ้าไปด้วยหรือเปล่า?

จู่ๆ ก็มาพูดกับฉันว่าตลอดไป จู่ๆ ก็มาพูดว่าจะไม่มีวันปล่อยให้ฉันจากเขาไปไหน

ระหว่างฉันกับสีชิงชวนสามารถพูดคำว่าตลอดไปได้ด้วยเหรอ?

ไม่เพียงแต่จะพูดคำว่าตลอดไปไม่ได้ แม้แต่คำว่าเราก็ยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)