พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 354

“มิตรภาพระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางเปราะบางขนาดนั้นแน่นอน”

“ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหน มันก็เปราะบางมากๆ กันทั้งนั้น สิ่งนี้มันก็เหมือนเส้นไหมเส้นหนึ่ง ถ้าดึงแรงๆ มันก็ขาดออกจากกันได้”

“ไม่มีทาง ระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่ใช่แค่เส้นไหมเส้นหนึ่ง! ” ฉันไม่อยากคุยกับสีชิงชวนอีกต่อไปแล้ว เขาจะพูดอะไรมาฉันก็ไม่อยากฟัง และถึงฉันจะพูดอะไรออกไปเขาก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน

ฉันถึงขนาดกับไม่อยากอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเขาอีกแล้ว ดังนั้นฉันจึงปลดเข็มขัดนิรภัย ผลักประตูเปิดออกไปแล้วกระโดดลงจากรถ จากนั้นก็วิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกับที่รถของเขาจอดอยู่ริมทางพอดี

สีชิงชวนน่าจะคาดไม่ถึงว่าฉันจะหนี ฉันจึงได้ยินเสียงปิดประตูรถดังมาจากข้างหลัง เขาลงจากรถและไล่ตามมาเช่นกัน

ฉันจะไปวิ่งสู้เขาได้ยังไง วิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าวฉันก็ถูกสีชิงชวนจับได้แล้ว เขาดึงแขนของฉันไว้ “นี่คือถนนนะ มีรถวิ่งผ่านไปมา คุณอย่าเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นนะ”

วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่มีดาวเลยสักดวง เมฆหนาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ในขณะที่ฉันพยายามดิ้นออกจากมือเขา ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า ชั้นก้อนเมฆหนาทึบเหมือนดึงม่านขนาดใหญ่ที่หนาทึบจนอากาศผ่านเข้าออกไม่ได้มาปิดไว้ ทำให้ฉันรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย

ฉันดิ้นออกจากเขาไม่หลุด จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “ไม่มีทาง” ฉันพูดกับตัวเองเหมือนคนละเมอเพ้อพก “ระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางพังลงเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ”

“โดยทั่วไปแล้วมิตรภาพเป็นสิ่งที่เปราะบางมาก โดยเฉพาะมิตรภาพระหว่างเด็กผู้หญิงสองคน และเกินครึ่งเป็นเพราะผู้ชาย ถึงเธอกับผู้ชายคนนี้จะเป็นแค่การรักเขาข้างเดียว แต่ก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยาวนานหลายสิบปีของพวกคุณต้องขาดสะบั้นลง”

“ไม่มีทาง! ” คำพูดนี้ของสีชิงชวนทำให้ฉันโกรธมากจริงๆ ฉันแผดเสียงใส่เขาเสียงดัง เสียงที่ตะโกนออกไปฟังดูแตกระแหงมาก “คุณไม่มีเพื่อน คุณไม่รู้ว่าอะไรคือมิตรภาพ! ฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางแตกหักกันเพราะเรื่องขี้ปะติ๋วแบบนี้ วันนี้เธอแค่อารมณ์ไม่ดี พรุ่งนี้เธอก็จะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว! ”

“สำหรับคุณแล้วเฉียวอี้เป็นฟางข้าวช่วยชีวิต1ของคุณ ส่วนคุณก็เป็นเหมือนเถาวัลย์เส้นหนึ่งที่พอแยกจากเธอแล้วคุณก็จะตาย แต่ถ้าคุณพันรัดเธอแน่นเกินไป เธอก็จะเหี่ยวเฉา”

ในค่ำคืนที่ไร้ดวงดาวนี้ ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับอยู่ในดวงตาของสีชิงชวน ส่องสว่างจนฉันรู้เวียนหัวตาลายไปหมด

ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรมาร้องไห้ในตอนนี้ แต่น้ำตาของฉันกลับไหลออกมาไม่หยุด

ในโลกของฉันยังเหลือใครอีกบ้าง ในโลกของฉันเหลือแค่เฉียวอี้แล้ว

ตอนนี้ถ้าแม้แต่เฉียวอี้ก็ไม่สนใจฉันแล้ว ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

ฉันกลัวมากๆ ว่าชีวิตของฉันมันจะว่างเปล่า เวลาคิดย้อนกลับมาก็พบว่าไม่มีอะไรเลยที่คุ้มค่าพอให้ฉันได้คิดถึง

ฉันผละตัวออกมาจากการจับกุมของสีชิงชวน จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ

จริงแล้วๆ ที่สีชิงชวนพูดมามันไม่ถูกต้อง ฉันไม่ใช่ดอกฝอยทอง ฉันไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใครเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ และฉันก็ไม่มีทางเอาเรื่องยุ่งเหยิงของฉันไปทำให้เขาลำบากด้วย

แต่เมื่อสักครู่นี้ที่เฉียวอี้บอกกับฉันว่าเธอเหนื่อยมากแล้ว เป็นเพราะว่าเธอคอยช่วยบังลมบังฝนให้ฉันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้อย่างนั้นเหรอ?

“คุณว่าเฉียวอี้เหนื่อยแล้วจริงๆ หรือเปล่า? ”

สีชิงชวนเดินตามหลังฉันมาไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อฉันหยุด เขาก็หยุด

ฉันหันหลังกลับไป ไฟถนนตรงช่วงนี้พัง ดังนั้นในค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว และเห็นดวงจันทร์รางๆ มันจึงมืดมากเป็นพิเศษ มืดจนน่ากลัว

แต่ฉันก็ยังคงมองหาดวงตาของสีชิงชวนได้อย่างแม่นยำ และจ้องมองไปที่เขา

ฉันมีคำถามหนึ่งที่อยากถามเขา “เฉียวอี้โกรธเพราะเรื่องฉินกวนหรือเปล่า? ”

“คุณรู้สาเหตุของเรื่องนี้ดี” สายตาของสีชิงชวนมองทะลุผ่านหมอกบางๆ พุ่งตรงเข้ามาภายในใจฉัน “ในใจของคุณรู้ดีว่าที่วันนี้คุณทะเลาะกับเฉียวอี้จนกลายมาเป็นแบบนี้ มันไม่เกี่ยวข้องกับฉินกวน”

“งั้นเพราะอะไร? ”

“เพราะเธอเบื่อแล้ว ผมควรจะทำให้คุณเข้าใจสักทีว่าบนโลกใบนี้คนเดียวที่คุณสามารถพึ่งพาได้มีแค่ตัวคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น ต่อให้จะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด พี่น้อง หรือคู่ชีวิตที่พึ่งพาอาศัยร่วมเป็นร่วมตายกัน ก็สู้พึ่งพาอาศัยตัวคุณเองไม่ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)