“มิตรภาพระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางเปราะบางขนาดนั้นแน่นอน”
“ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหน มันก็เปราะบางมากๆ กันทั้งนั้น สิ่งนี้มันก็เหมือนเส้นไหมเส้นหนึ่ง ถ้าดึงแรงๆ มันก็ขาดออกจากกันได้”
“ไม่มีทาง ระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่ใช่แค่เส้นไหมเส้นหนึ่ง! ” ฉันไม่อยากคุยกับสีชิงชวนอีกต่อไปแล้ว เขาจะพูดอะไรมาฉันก็ไม่อยากฟัง และถึงฉันจะพูดอะไรออกไปเขาก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
ฉันถึงขนาดกับไม่อยากอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเขาอีกแล้ว ดังนั้นฉันจึงปลดเข็มขัดนิรภัย ผลักประตูเปิดออกไปแล้วกระโดดลงจากรถ จากนั้นก็วิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกับที่รถของเขาจอดอยู่ริมทางพอดี
สีชิงชวนน่าจะคาดไม่ถึงว่าฉันจะหนี ฉันจึงได้ยินเสียงปิดประตูรถดังมาจากข้างหลัง เขาลงจากรถและไล่ตามมาเช่นกัน
ฉันจะไปวิ่งสู้เขาได้ยังไง วิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าวฉันก็ถูกสีชิงชวนจับได้แล้ว เขาดึงแขนของฉันไว้ “นี่คือถนนนะ มีรถวิ่งผ่านไปมา คุณอย่าเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นนะ”
วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่มีดาวเลยสักดวง เมฆหนาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ในขณะที่ฉันพยายามดิ้นออกจากมือเขา ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า ชั้นก้อนเมฆหนาทึบเหมือนดึงม่านขนาดใหญ่ที่หนาทึบจนอากาศผ่านเข้าออกไม่ได้มาปิดไว้ ทำให้ฉันรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ฉันดิ้นออกจากเขาไม่หลุด จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “ไม่มีทาง” ฉันพูดกับตัวเองเหมือนคนละเมอเพ้อพก “ระหว่างฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางพังลงเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ”
“โดยทั่วไปแล้วมิตรภาพเป็นสิ่งที่เปราะบางมาก โดยเฉพาะมิตรภาพระหว่างเด็กผู้หญิงสองคน และเกินครึ่งเป็นเพราะผู้ชาย ถึงเธอกับผู้ชายคนนี้จะเป็นแค่การรักเขาข้างเดียว แต่ก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยาวนานหลายสิบปีของพวกคุณต้องขาดสะบั้นลง”
“ไม่มีทาง! ” คำพูดนี้ของสีชิงชวนทำให้ฉันโกรธมากจริงๆ ฉันแผดเสียงใส่เขาเสียงดัง เสียงที่ตะโกนออกไปฟังดูแตกระแหงมาก “คุณไม่มีเพื่อน คุณไม่รู้ว่าอะไรคือมิตรภาพ! ฉันกับเฉียวอี้ไม่มีทางแตกหักกันเพราะเรื่องขี้ปะติ๋วแบบนี้ วันนี้เธอแค่อารมณ์ไม่ดี พรุ่งนี้เธอก็จะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว! ”
“สำหรับคุณแล้วเฉียวอี้เป็นฟางข้าวช่วยชีวิต1ของคุณ ส่วนคุณก็เป็นเหมือนเถาวัลย์เส้นหนึ่งที่พอแยกจากเธอแล้วคุณก็จะตาย แต่ถ้าคุณพันรัดเธอแน่นเกินไป เธอก็จะเหี่ยวเฉา”
ในค่ำคืนที่ไร้ดวงดาวนี้ ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับอยู่ในดวงตาของสีชิงชวน ส่องสว่างจนฉันรู้เวียนหัวตาลายไปหมด
ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรมาร้องไห้ในตอนนี้ แต่น้ำตาของฉันกลับไหลออกมาไม่หยุด
ในโลกของฉันยังเหลือใครอีกบ้าง ในโลกของฉันเหลือแค่เฉียวอี้แล้ว
ตอนนี้ถ้าแม้แต่เฉียวอี้ก็ไม่สนใจฉันแล้ว ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
ฉันกลัวมากๆ ว่าชีวิตของฉันมันจะว่างเปล่า เวลาคิดย้อนกลับมาก็พบว่าไม่มีอะไรเลยที่คุ้มค่าพอให้ฉันได้คิดถึง
ฉันผละตัวออกมาจากการจับกุมของสีชิงชวน จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ
จริงแล้วๆ ที่สีชิงชวนพูดมามันไม่ถูกต้อง ฉันไม่ใช่ดอกฝอยทอง ฉันไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใครเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ และฉันก็ไม่มีทางเอาเรื่องยุ่งเหยิงของฉันไปทำให้เขาลำบากด้วย
แต่เมื่อสักครู่นี้ที่เฉียวอี้บอกกับฉันว่าเธอเหนื่อยมากแล้ว เป็นเพราะว่าเธอคอยช่วยบังลมบังฝนให้ฉันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้อย่างนั้นเหรอ?
“คุณว่าเฉียวอี้เหนื่อยแล้วจริงๆ หรือเปล่า? ”
สีชิงชวนเดินตามหลังฉันมาไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อฉันหยุด เขาก็หยุด
ฉันหันหลังกลับไป ไฟถนนตรงช่วงนี้พัง ดังนั้นในค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว และเห็นดวงจันทร์รางๆ มันจึงมืดมากเป็นพิเศษ มืดจนน่ากลัว
แต่ฉันก็ยังคงมองหาดวงตาของสีชิงชวนได้อย่างแม่นยำ และจ้องมองไปที่เขา
ฉันมีคำถามหนึ่งที่อยากถามเขา “เฉียวอี้โกรธเพราะเรื่องฉินกวนหรือเปล่า? ”
“คุณรู้สาเหตุของเรื่องนี้ดี” สายตาของสีชิงชวนมองทะลุผ่านหมอกบางๆ พุ่งตรงเข้ามาภายในใจฉัน “ในใจของคุณรู้ดีว่าที่วันนี้คุณทะเลาะกับเฉียวอี้จนกลายมาเป็นแบบนี้ มันไม่เกี่ยวข้องกับฉินกวน”
“งั้นเพราะอะไร? ”
“เพราะเธอเบื่อแล้ว ผมควรจะทำให้คุณเข้าใจสักทีว่าบนโลกใบนี้คนเดียวที่คุณสามารถพึ่งพาได้มีแค่ตัวคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น ต่อให้จะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด พี่น้อง หรือคู่ชีวิตที่พึ่งพาอาศัยร่วมเป็นร่วมตายกัน ก็สู้พึ่งพาอาศัยตัวคุณเองไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...