พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 369

น้อยครั้งมากที่ฉันจะได้เห็นเซียวซือร้องไห้ ฉันเป็นฝ่ายร้องไห้มากกว่า เฉียวอี้บอกว่าต่อมน้ำตาของฉันทำงานได้ดี คาดว่าคนที่ร้องไห้บ่อยนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกเอ็นดู เพราะเมื่อเห็นบ่อยก็จะยิ่งรู้สึกด้านชา

เมื่อเซียวซือร้องไห้พลันทำให้จิตใจของผู้คนแตกสลายไปด้วย อย่างไรก็ตามถ้าหากฉันเป็นผู้ชายแล้วเห็นเธอร้องไห้ ฉันจะต้องสงสารเธออย่างแน่นอน

ฉันแอบมองท่าทางของสีชิงชวน เขาเป็นคนเลือดเย็นมาก ฉันไม่เห็นอารมณ์ใดบนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

กับแฟนเก่าก็ไม่จำเป็นจะต้องใจร้ายต่อกันขนาดนี้เลย!

ฉันค้นหากระดาษทิชชูทั่วร่างกายของฉัน จากนั้นยื่นให้กับเธอ เธอรับไปพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ

“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเลยว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า บางทีอาจจะไม่ใช่เนื้อร้ายก็เป็นได้” ฉันทำได้เพียงแค่ปลอบโยนเธอเช่นนี้

ฉันปลอบโยนคนอื่นไม่เก่งนัก เซียวซือใช้ทิชชูเช็ดน้ำตาของตน ใบหน้าไร้เมคอัพของเธอนั้นเมื่อมองดูแล้วก็ยิ่งน่าสงสาร

น่าสงสารกว่าฉันเสียอีก

เซียวซือไปยังห้องประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการรักษาของแม่เลี้ยง เซียวหลิงหลิงเดินตามหลังฉัน ฉับพลันสีชิงชวนก็กอดฉันไว้ภายในอ้อมแขนของเขา ฉันยังไม่ทันจะโต้ตอบ เขาเอ่ยกับฉัน “เซียวหลิงหลิงจะใช้ไหล่กระแทกคุณ”

“อ้อ” กากระทำแบบนี้ของเซียวหลิงหลิง ฉันเห็นจนคุ้นเคยแล้ว

เซียวหลิงหลิงกระแทกเข้ากับอากาศ หล่อนเซและเกือบล้ม จากนั้นหล่อนชำเลืองมองมองฉันด้วยความโกรธและเดินจากไป

“ดูเหมือนว่าคุณจะถูกหล่อนรังแกมานานแล้วนะ สงบนิ่งขนาดนี้ได้ไง”

“ช่างเถอะ ตั้งแต่เล็กจนโตก็เป็นแบบนี้” เมื่อฉันเอ่ยจบ ฉันก็เผชิญกับใบหน้าที่ไม่เห็นด้วยของสีชิงชวน

“งั้น หมากัดฉัน ฉันก็ไม่สามารถกัดตอบหมาได้”

“ดังนั้นคุณเลยยอมให้หล่อนกัด? คำพูดนั้นไม่ได้หมายความแบบนี้ คุณไม่ต้องกัดหล่อนด้วยตัวคุณเอง คุณให้สุนัขอีกตัวหนึ่งไปกัดหล่อน”

นี่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ทำให้ผู้คนได้เห็นอะไรแปลกใหม่ แต่ทว่าตอนนี้ฉันยังไม่สนใจ

แม่เลี้ยงป่วยหนัก เซียวซือกำลังยุ่งวุ่นวาย ตอนนี้ยังไม่เหมาะสมที่ฉันจะเปิดศึกชี้ชะตากับเซียวหลิงหลิง

ฉับพลันเซียวซือนิ่งงันและหันกลับมาพูดกับฉัน “เซียวเซิง เธอเข้ามาด้านในหน่อยได้ไหม?”

ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้รับความสำคัญ เดิมทีฉันเองก็คิดว่าจะเข้าไปด้านใน แต่ก็กลัวว่าพวกเธอจะรังเกียจ

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ฉันเลยเดินเข้าไปด้านใน สีชิงชวนเองก็ตามเข้ามาด้วย

ผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจมากที่สุดในการผ่าตัดสมองมารวมตัวกันอยู่ภายในห้องประชุม พวกเขาได้ทำการวิเคราะห์อาการของแม่เลี้ยงอย่างละเอียดพร้อมกับบอกกล่าวเซียวซือ เสนอแนะทางออกที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเปิดกะโหลกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจ ถ้าหากไม่ใช่เนื้อร้าย เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร

เซียวซือนั่งอยู่บนเก้าอี้และก้มหน้าตลอดเวลา มือที่ผอมแห้งนั้นประสานกันไว้ ผู้เชี่ยวชาญต่างก็รอคอยคำตอบของเธอภายใต้ความเงียบ

“แล้ว การผ่าตัดเปิดกะโหลกอันตรายหรือเปล่าคะ?”

“ตราบใดที่ขึ้นชื่อว่าการผ่าตัดย่อมมีความเสี่ยง แต่ทว่าโรคของคุณนายเซียวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด ดังนั้นการผ่าตัดจึงไม่ได้ยากอะไรเท่าไรนัก”

“การผ่าตัดเปิดกะโหลกไม่ใช่เรื่องยากงั้นเหรอ?” เซียวหลิงหลิงพูดแทรก “ฉันจะดูว่าเป็นการผ่าตัดเปิดกะโหลกอะไร?” เธอหันไปพูดกับเซียวซือ “แม่ของฉันสุขภาพดีมาก ไม่ได้เป็นอะไร เธอเล่นไพ่นกกระจอกและฆ่าได้ถึงสามครั้ง เก่งกาจเป็นอย่างมาก ไม่เป็นอะไรหรอก”

เซียวซือชำเลืองมองเธอ “เธอไม่ได้ยินที่หมอพูดเหรอ ตอนนี้ก้อนเนื้อนั้นมีขนาดใหญ่จำเป็นต้องผ่าตัด ไม่อย่างนั้นหากว่าก้อนเนื้อยิ่งโตขึ้นก็จะมีผลกระทบต่อประสาทตา”

“อย่าไปฟังคำพูดข่มขู่ของหมอ” เซียวหลิงหลิงพูดอย่างไม่พอใจ “ประสบการณ์การเข้าสังคมของเธอนั้นน้อยมาก ถูกหลอกได้ง่าย ฉันว่าเป็นความตั้งใจของเซียวเซิง ต้องการให้แม่ของพวกเราทำการผ่าตัดและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก”

เซียวหลิงหลิงนั้นปากพล่อยมากจริงๆ แม้แต่ฉันเองก็ยังอยากจะตบปากเธอ

เซียวซือตบโต๊ะในทันใด “เซียวหลิงหลิง ถ้าเธอให้แผนการที่ดีไม่ได้ก็ออกไป! ออกไปซะ!”

“เซียวซือ เธอทำผิดพลาดอะไรไปหรือเปล่า พวกเราสองคนเป็นพี่น้องกันนะ เธอกับเซียวเซิงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเลยแม้แต่น้อย? แถมหล่อนยังแย่งชิงผู้ชายของเธอด้วย”

“เซียวหลิงหลิง ออกไป!” เซียวซือชี้นิ้วไปทางประตู

ตราบใดที่เซียวหลิงหลิงอยู่ ไม่ว่าจะโอกาสใดก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้

เซียวหลิงหลิงลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน ทำให้เก้าอี้ที่หล่อนนั่งเมื่อสักครู่ล้มลงกระแทกกับพื้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)