เฉียวอี้เป็นคนกำหนดธีมงานเลี้ยงวันเกิดฉัน ส่วนสีชิงชวนเป็นคนจัดหาสถานที่
เขามีคฤหาสน์สไตล์ยุโรปหลังหนึ่ง คฤหาสน์สามชั้นที่ทำเหมือนกับปราสาทอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อฉันเดินมาถึงประตูเมือง เฉียวอี้ก็บอกว่านี่มันเป็นปราสาทของเจ้าหญิงและเจ้าชายชัดๆ แต่ตอนท้ายเธอก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง เธอบอกกับสีชิงชวน “เจ้าชายนั่นน่ะ ไม่ใช่นายแน่นอน”
พวกเขาสองคนกัดกันไปกัดกันมาเหมือนหมา เมื่อไหร่ถึงจะหยุดลงได้สักทีนะ มันน่ากลุ้มใจจริงๆ
ความจริงฉันไม่ได้มีเพื่อนอะไรหรอก เพื่อนคนเดียวของฉันก็คือเฉียวอี้
เฉียวอี้เชิญหร่วนหลิงมา จากนั้นก็เป็นเพื่อนคนอื่นๆ ของเธอ แต่ฉันก็รู้จักเหมือนกัน
สีชิงชวนก็เชิญเพื่อนเขามาเหมือนกัน มีหลายคนที่เราเคยทานอาหารด้วยกันครั้งก่อน แล้วก็ต้วนอ้ายที่เป็นดาราภาพยนตร์ชื่อดังคนนั้น
ครั้งก่อนเรามีเรื่องทะเลาะกัน เมื่อเห็นเธอแล้วฉันก็ยังรู้สึกวางตัวไม่ถูกเท่าไหร่
สายตาเฉียบคมของเธอมองเห็นมงกุฎบนหัวฉัน จากนั้นก็ยื่นมือมาสัมผัสมัน “นี่มันของโบราณนี่ ราคาแพงไม่เบานะ สีชิงชวนให้คุณเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนฉันที่ชื่อเฉียวอี้ต่างหาก”
“คนไหนเหรอ?”
ฉันชี้ไปที่เฉียวอี้ที่กำลังเดินไปมาอยู่ท่ามกลางผู้คน
“เซียวเซิง ฉันว่าคุณโชคดีไม่เบาเลยนะ” ต้วนอ้ายเขย่าแก้วค็อกเทลในมือ และของเหลวในแก้วก็กระเพื่อมไปมา
“นอกจากจะมีสีชิงชวนที่อยู่ข้าวตัวคุณแล้ว ยังมีเพื่อนสนิทที่ทุ่มเทให้คุณมากขนาดนี้อีก”
ฉันจะถือว่าสิ่งที่ต้วนอ้ายพูดมันดีก็แล้วกันนะ วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ฉันเองก็ไม่อยากถือสาอะไรเธอมาก
คืนนี้ฉันเป็นตัวเองของงาน สายตาของทุกคนจึงจับจ้องมาที่ฉัน ทุกอย่างมันก็เพื่อฉัน
เฉียวอี้ยังออกแบบซีนละครที่พอถึงตอนเที่ยงคืนฉันต้องรีบออกจากงานไป และรองเท้าส้นสูงที่ฉันใส่ก็จะหลุดอยู่บนพื้น จากนั้นมันก็ถูกเจ้าชายเก็บได้ด้วย
ฉันคิดว่าฉันไม่ใช่ซินเดอเรลล่า แล้วสีชิงชวนก็ไม่ใช่เจ้าชายที่มีใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักใคร่จริงใจ
เขาน่ะโรคจิตจะตาย แถมยังแผนสูงอีก ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อฉันคือชอบหรือว่ารักกันแน่ หรือเป็นแค่ความสนใจประเดี๋ยวประด๋าว? หรือจะเป็นอะไรอย่างอื่น?
แต่เฉียวอี้บอกว่า เจ้าชายอาจจะไม่ใช่สีชิงชวน อาจจะเป็นแขกผู้ชายสักคนหนึ่งที่มางานวันนี้ก็ได้
เราสองคนยืนอยู่ที่ขั้นบันไดพอดี เธอโอบคอฉันแล้วก็ชี้ไปรอบๆ ให้เลือก “ผู้ชายพวกนั้น เธอชอบใคร เดี๋ยวฉันจัดการให้”
“เฉียวอี้ เธอเหมือนแม่เล้าในตึกอี๋หงเลยอะ”
“ตึกอี๋หงคือไร? ยังไงมันก็สถานขายบริการชายนั่นแหละ”
เธอยิ่งพูดมันยิ่งไม่มีขอบเขตมากไปทุกที แต่ว่าสีชิงชวนชอบความคิดบ้าๆ นี่ของเฉียวอี้ล่ะ
ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ฉันง่วงจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แต่เขากลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสนใจ เขาชี้ไปที่นาฬิกาบนข้อมือแล้วบอกกับฉัน “จะเที่ยงคืนแล้ว เดี๋ยวผมจะขอคุณเต้นรำเป็นเพลงสุดท้าย แล้วคุณก็หาข้ออ้างหนีนะ”
“คุณเคยเห็นซินเดอเรลล่าคนไหนหนีโดยที่เจ้าชายเป็นคนวางแผนให้บ้าง?”
“เราเป็นซินเดอเรลล่าเวอร์ชันใหม่ไง” เขาพูดอย่างกระตือรือร้น
น้อยครั้งที่จะได้เห็นสีชิงชวนทำอะไรเป็นเด็กๆ แบบนี้ เปิดโลกฉันมากจริงๆ
ท่าทางในการเต้นรำของสีชิงชวนไม่ดีเท่าฉัน เพราะยังไงฉันก็เป็นครูฝึกเต้นรำมาตั้งหลายปี ในที่สุดก็หาจุดที่สีชิงชวนด้อยกว่าฉันได้แล้ว
ฉันเต้นรำกับสีชิงชวนอย่างคล่องแคล่ว ถึงเขาจะเต้นได้ไม่ดีเท่าฉัน แต่ยังดีที่ไม่ได้เหยียบเท้าฉัน ยังพอถูๆ ไถๆ ไปบนฟลอร์เต้นรำได้อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...