ฉันไม่ได้มีความอดทนมานั่งรอให้เขาหัวเราะเสร็จ ฉันจึงเอ่ยขัดจังหวะเสียงหัวเราะของเขาขึ้นมาว่า “เฉียวเจี้ยนฉีตอนนี้ไม่ใช่ว่าเวลามาล้อเล่นนะ นั่นแม่ของคุณแล้วก็น้องสาวของคุณนะ คุณเองก็คงไม่อยากให้ทะเลาะกันใหญ่โต จนแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก”
“เรื่องทางฝั่งของคุณเอง คุณยังจัดการไม่ได้เลย ยังจะมามีกะจิตกะใจยุ่งเรื่องของเฉียวอี้อีกเหรอ? ”
“เฉียวอี้เป็นเพื่อนของฉัน เรื่องของเธอก็คือเรื่องของฉัน” ช่างเถอะ ถ้าเขาไม่ไป งั้นฉันไปดูเอาเองเลยละกัน
“ผมเพิ่งออกมาจากสนามบิน ตอนนี้เพิ่งได้ขึ้นรถแท็กซี่มา ผมไม่ได้มีปีกนะ บินไปนั่นไปนี่ทันทีไม่ได้ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงผมจะไปถึงที่นั่น”
ที่แท้เฉียวเจี้ยนฉีก็กำลังอยู่ระหว่างทางไปเฉียวกรุ๊ปนี่เอง แล้วเขาก็ยังจะมาพูดจาไร้สาระกับฉันอยู่อีกนะ
“งั้นรบกวนคุณด้วยนะ” ฉันพูดกับเขา
ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก ในเมื่อเฉียวเจี้ยนฉีไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่ไปแล้วละกัน
ฉันให้เฉียวเจี้ยนฉีโทรหาฉันอีกทีหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว แต่รออยู่ครึ่งค่อนวันเขาก็ยังไม่โทรมาสักที ฉันกำลังจะโทรไปถามเฉียวเจี้ยนฉี หร่วนหลิงก็วิ่งเข้ามาบอกสถานการณ์ล่าสุดในตอนนี้กับฉัน “บอสคะ ตอนนี้ที่หน้าประตูใหญ่ของเฉียวกรุ๊ปวุ่นวายมากค่ะ อู๋ซือเหมยนั่นจู่ๆ ก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าของเฉียวกรุ๊ปแล้วจะกระโดดลงมาค่ะ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปกันเยอะมากค่ะ ถนนตรงเฉียวกรุ๊ปถูกปิดหมดแล้วค่ะ”
ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์มันจะกลายมาเป็นสถานการณ์ร้ายแรงขนาดนี้ ก็ให้เฉียวเจี้ยนฉีเข้าไปจัดการแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยิ่งจัดการก็ยิ่งวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ?
ฉันวางปากกาลงกับโต๊ะจากนั้นก็ลุกขึ้น หยิบกระเป๋าที่แขวนอยู่บนพนักเก้าอี้ จากนั้นก็วิ่งออกไปข้างนอก “หร่วนหลิงเธอไปกับฉัน! ”
ระหว่างทางฉันโทรหาเฉียวอี้ตลอด แต่เธอไม่รับเลย คาดว่าสถานการณ์น่าจะวุ่นวายมากจนเธอไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ฉันร้อนใจจนนั่งแทบไม่ติด
หร่วนหลิงคอยปลอบฉันอยู่ตลอดทาง “ทางนั้นมีตำรวจอยู่จำนวนมาก น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
ฉันแค่กลัวว่าเฉียวอี้จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้วจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เมื่อพวกเราไปถึงเฉียวกรุ๊ป มีฝูงชนล้อมรอบอย่างแน่นขนัดอย่างที่คิดไว้จริงๆ
พวกเราเข้าไปทางประตูหลังและขึ้นไปที่ดาดฟ้า เมื่อขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้าฉันก็เห็นอู๋ซือเหมยยืนอยู่ที่ขอบด้านนอกราวจับของดาดฟ้า ส่วนเฉียวอี้ก็อยู่บนนั้นด้วยเช่นกัน
พวกเธอสองคนยืนห่างกันหนึ่งช่วง เฉียวอี้กำลังเดินเข้าไปใกล้ๆ อู๋ซือเหมยทีละก้าวๆ
อู๋ซือเหมยกรีดร้องขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “เฉียวอี้ ถ้าแกคิดจะหุบทุกอย่างไว้คนเดียวละก็ ฉันก็จะกระโดดลงไปจากตึกนี่ ทำให้แกถูกคนทั้งโลกรุมด่า! ฉันว่าแกนั่งตำแหน่งประธานต่อไปได้อีกไม่กี่วันหรอก! ”
“ป้าอู๋ ป้าใจเย็นๆ ก่อนนะ! ” บนดาดฟ้าลมแรงมาก เฉียวอี้จึงต้องตะโกนออกมา เสียงของเธอถึงจะไม่ถูกลมพัดหายไป “ตอนนี้คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ หุ้นของบริษัทจึงยังไม่ได้ทำการแบ่ง ฉันไม่มีอำนาจที่จะไปแบ่งหุ้นได้! ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอก ฉันไปหาพ่อของแก พ่อของแกก็ผลักเรื่องนี้มาให้แก ส่วนแกก็ผลักเรื่องนี้ไปให้พ่อแกอีกที พวกแกสองพ่อลูกคิดจะหุบหุ้นทั้งหมดของเฉียวกรุ๊ปเอาไว้ฝ่ายเดียว! ”
“เฉียวเจี้ยนฉีก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉียวเหมือนกัน เขาเป็นลูกขายของพ่อ หุ้นของบริษัทไม่หนีเขาไปไหนหรอก”
“งั้นแกไปถามพ่อของแกหน่อยสิว่าจะตายเมื่อไร? ป่วยจนรักษาไม่ได้แล้วก็ยังไม่ทำพินัยกรรมอีก”
ฉันมองออกว่าเฉียวอี้โกรธเธอมากจนเจ็บปวดใจไปหมด เธอกุมหน้าอกไว้สักพักจากนั้นจึงเอ่ยว่า “จะดีจะเลวยังไงป้าก็เป็นสามีภรรยากับพ่อฉันนะ ไม่ต้องถึงขนาดมาสาปแช่งอย่างโหดร้ายแบบนี้ก็ได้! ”
“ฉันเป็นสามีภรรยากับมันงั้นเหรอ ถุย ฉันเป็นศัตรูคู่แค้นกับมันต่างหาก!มันทำกับชีวิตพวกฉันสองแม่ลูกแบบนี้สมควรแล้วที่ป่วย! ”
เฉียวอี้เดินเข้าไปหาเธอสองก้าว อู๋ซือเหมยก็กรีดร้องขึ้นมาเสียงแหลม “แกอย่าเข้ามานะ ถ้าแกกล้าเข้ามา ฉันจะผลักแกลงไปก่อน แกเชื่อไหม เชื่อไหม? ”
“เฉียวอี้! ” ฉันอดตะโกนหาเธอไม่ได้ “เธอยืนเฉยๆ อย่าขยับนะ เธอลงมาก่อน! ”
ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามานั่งสนใจว่าอู๋ซือเหมยจะตกลงไปไหมหรอกนะ ฉันเป็นห่วงแค่เฉียวอี้เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...