“เซียวเซิง เธอคงตกใจน่าดู แต่เธอก็ทำให้ฉันตกใจเหมือนกันตอนที่เธอเป็นลม”
“ขาของเธอ” ฉันมองไปที่ข้อเท้าของเฉียวอี้
“ฉันขาแพลงตอนที่ตกลงมาจากชั้นบน เซียวเซิงเธอไม่รู้หรอกว่าการตกจากตึกสูงมันน่าตื่นเต้นแค่ไหน เธอเคยลองกระโดดบันจี้จัมป์ไหม? อันนี้น่าตื่นเต้นกว่ากระโดดบันจี้จัมพ์มาก อย่างน้อยบันจี้จัมพ์ก็มีเชือกพันรอบเท้า แต่นี่ฉันตกลงไปโดยไม่มีอะไรเลย ฉันจะรอดูว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพฉันได้ไหม ฉันอยากจะเก็บวิดีโอนี้ไว้นาน ๆ ”
“เธอไม่มีเลือดเนื้อหัวใจก็ต้องรู้จักเวลาล่ำเวลา ถ้ายังจะตื่นเต้นอีกนิดก็ทำให้เธอตายได้เลยนะ เธอรู้ไหมว่ามันสูงแค่ไหน? 26 ชั้นเลยนะ!”
“มีตำรวจของประชาชนและนักดับเพลิงปกป้องฉันอยู่ ฉันไม่เป็นไรหรอก” เฉียวอี้ตบหน้าอกของเธอ “อีกอย่าง เธอคิดว่าฉันดูเหมือนผีอายุสั้นไหม?”
เธอไม่ได้อายุสั้น แต่เธอก็ทำให้เซียวเซิงตกใจจนใจหายหมด
“เฮ้ เซียวเซิง เธอใส่รองเท้าของใครเหรอ?”
ตอนนั้นเองที่ฉันนึกถึงสีชิงชวน เมื่อมองย้อนกลับไปก็เห็นเขากำลังเดินไปที่ห้อง เฉียวอี้ถามอย่างสงสัย “เขารีบไปไหน?”
ฉันเดาว่าเขาน่าจะไปดูผลตรวจของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันถึงกระทั่งทำให้สีชิงชวนตึงเครียดมาก
อย่างไรก็ตามแค่เฉียวอี้สบายดีฉันก็หมดห่วงแล้ว เพราะเฉียวอี้ตกลงมาจากที่สูงและต้องอยู่เฝ้าสังเกตอาการในโรงพยาบาลตลอดทั้งคืน เมื่อกี้เฉียวอี้ทำให้ฉันตกใจจนขาอ่อนแรง ฉันยังต้องกลับไปนอนที่ห้องพักผู้ป่วย
ฉันกลับไปถึงห้องและเห็นสีชิงชวนยืนอยู่หน้าเตียงของฉันโดยหันหลังให้ฉัน เขาถือกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ในมือซึ่งน่าจะเป็นผลตรวจที่แพทย์มอบให้เขาในเมื่อครู่นี้
จากมุมมองของฉัน หลังของเขาแข็งทื่อราวกับว่าเขาถูกตรึงไว้กับหลักไม้และแข็งทื่อไปทั้งตัว
เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเกิดอะไรผิดปกติกับฉันเหรอ?
“สีชิงชวน!” ฉันตะโกนเรียกเขา แต่เขาไม่ขยับเลยราวกับว่าจมอยู่ในห้วงนึกคิดอะไรบางอย่าง
“สีชิงชวน!” ฉันตะโกนเรียกเขาอีกครั้งด้วยเสียงดังขึ้นเล็กน้อย
ในที่สุดครั้งนี้เขาก็ได้ยินมันแล้วหันหน้ามาทางฉัน ฉันรู้สึกว่าตอนที่เขาหันมาเหมือนกับหุ่นยนต์ไม่มีผิด เขาเหมือนเครื่องกลมากที่ร่างกายหันมาทีละนิด นอกจากนี้สีหน้าของเขาก็แปลกมาก แม้แต่ดวงตาของเขาก็ว่างเปล่าและเหม่อลอย
ฉันไม่เคยเห็นสีชิงชวนเป็นแบบนี้มาก่อน ท่าทางของเขาทำให้ฉันประหลาดใจเล็กน้อย
เขาทำให้ฉันสงสัยว่าฉันเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่าและกำลังจะตาย
เขาทำให้ฉันประหม่าเล็กน้อย เมื่อกี้ที่เฉียวอี้ทำให้เธอตกใจจนขาอ่อน ตอนนี้ขาเธออ่อนแรงยิ่งกว่าเดิม
“สีชิงชวน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” หรือฉันควรถามว่าฉันเป็นอะไรไป
สีชิงชวนเหลือบมองมาที่ฉัน แล้วมองฉันอีกครั้ง
แววตาของเขาผิดปกติมากและดูเหม่อลอยไปทั้งร่าง
สีชิงชวนไม่เคยมีท่าทางแบบนี้มาก่อน
จู่ ๆ เขาก็เดินมาหาฉัน และหยุดตรงหน้าแล้วเอื้อมมือมาลูบหัวฉัน ฉันตกใจมากพร้อมคิดว่าเขากำลังจะตีฉัน
“เซียวเซิง” เสียงของซีชิงชวนแหบแห้งเล็กน้อยราวกับว่าเขาหวาดกลัวกับสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
เรื่องอะไรที่ทำให้สีชิงชวนตกใจกลัวได้ ฉันรู้สึกสงสัยและกลัวจริงๆ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?” เขาถามแปลก ๆ ซึ่งทำให้ฉันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะโรคร้าย
ตอนแรกก็ไม่รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหน แต่ตอนนี้เมื่อเขาถามคำถามนี้ ฉันก็รู้สึกเวียนและปวดขมับเล็กน้อย แถมยังรู้สึกไม่สบายท้อง ขาแขนเริ่มอ่อนแรงไปหมด
“ฉันบอกไม่ถูกว่าไม่สบายตรงไหน แต่ก็รู้สึกเหมือนไม่สบายไปทั้งตัว”
สีชิงชวนรีบอุ้มฉันขึ้นมาและวางฉันลงบนเตียงหลังจากได้ยินคำตอบแบบนี้จากฉัน
เขาวางฉันอย่างระมัดระวังมากราวกับว่าฉันกลายเป็นแจกันแก้วที่แค่สัมผัสเบา ๆ ก็จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...