ฉันกลับไปที่กระท่อมไม้หลังเล็ก แต่ฉันพบว่าบ้านของแม่ฉันถูกยึดด้วย
เหตุผลก็คือข้อตกลงที่ฉันเซ็นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ข้อตกลงการโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้แต่แรก ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงไม่ใช่ของฉัน มันยังเป็นของแม่เลี้ยง และตอนนี้เป็นของเซียวซือ
ฉันจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ต่อไป
เซียวซือโคตรไร้ความปรานี แม้แต่บ้านของแม่ฉันก็ให้ฉันไม่ได้
ฉันยืนอยู่หน้ากระท่อมน้อยด้วยความงุนงง หนีอีโจวก็พูดกับฉันว่า "ไปอยู่กับผม"
ไม่ใช่ว่าฉันกลัวว่าจะไม่มีที่อยู่ แย่แค่ไหนฉันก็ไปอยู่โรงแรมหรือบ้านของเฉียวอี้ได้ ไม่ถึงกับต้องนอนข้างถนน
ฉันกำลังจะหันหลังกลับ จู่ๆ ก็เห็นรถก่อสร้างเข้ามาจอดที่หน้าประตูตึกไม้หลังเล็ก
จากนั้นมีคนสองสามคนลงจากรถก่อสร้างและเดินตรงไปที่ตึกไม้หลังเล็กของแม่ฉัน ในมือยังถือเครื่องมือ ค้อนขนาดใหญ่อะไรอีก ฉันรีบไปหยุดพวกเขา "พวกคุณจะทำอะไร"
พวกเขามองมาที่ฉัน "รื้อตึก คุณเป็นใคร?"
“ทำไมต้องรื้อตึก?”
"นักพัฒนาได้ซื้อที่ดินไป ก็ต้องรื้อถอนตึกสิ"
ในเวลานี้ เครื่องดันดินก็แล่นตรงเข้ามายังตึกไม้หลังเล็กของแม่ฉัน
ด้วยความกังวลฉันไม่สามารถหยุดเครื่องดันดินได้ ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงหยุดคนที่พูดกับฉัน "นักพัฒนาเป็นใคร ใครซื้อที่ดินนี่ไป"
“บอกไปจะรู้เหรอ? เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การดูแลของเซียวซื่อกรุ๊ป!” ชายคนนั้นสะบัดมือฉันออก “อย่ามาขวางทาง ไปให้พ้น!”
พวกเขาผลักฉันและหนีอีโจวออก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซียวซื่อกรุ๊ปซื้อที่นี่ไปเมื่อไหร่
แต่ฉันรู้ว่าต้องเป็นฝีมือของเซียวซือแน่ ตามความสามารถการพัฒนาในปัจจุบันของเซียวซื่อกรุ๊ป ไม่จำเป็นต้องซื้อที่ดินผืนนี้เพื่อพัฒนา เซียวซื่อกรุ๊ปมีอาคารหลายหลังที่ยังไม่เสร็จ และแรงกดดันทางการเงินก็สูงมาก ตอนนี้ซื้อที่ดินผืนนี้เพื่อพัฒนานั้นมันไม่คุ้ม แต่ฉันรู้ว่าที่เซียวซือทำไม่ได้หวังกำไร แต่ต้องการโจมตีฉัน
ตอนที่ฉันยังตะลึงอยู่นั้น เครื่องดันดินได้ขับเข้าไป และได้ดันรั้วไม้ด้านนอกตึกล้มไปแล้ว
เมื่อท่อนไม้ที่ถูกถอนตกลงบนพื้นทีละท่อนจนกระทบพื้น ทำให้ฝุ่นฟุ้งขึ้น จนแทบจะมองไม่เห็นดอกไม้แต่ละกระถางในสวน
ดอกไม้พวกนั้นฉันจ้างนักจัดดอกไม้มาดูแลเป็นพิเศษเรื่อยๆ เพราะทั้งดอกไม้และกระถางเป็นของที่มีตั้งแต่แม่ยังอยู่
ฉันอยากจะวิ่งไปเก็บกระถางดอกไม้ของฉัน แต่หนีอีโจวกอดฉันแน่น "อย่าไปเซียวเซิง มันอันตราย"
“ปล่อยฉันนะ กระถางของแม่ ดอกไม้ของแม่”
“ตอนนี้มันแตกไปหมดแล้ว คุณไปก็ไม่ได้ช่วย พวกเขาถูกสั่งให้รื้อถอนตึก เราก็หยุดพวกเขาไม่ได้”
กระถางพวกนั้นส่งเสียงดังเมื่อกระทบกับพื้น และเครื่องดันดินก็ดันไปที่กระท่อมหลังน้อย อีกไม่นานที่นี่ก็จะเหลือแต่ซากปรักหักพัง และฉันคงช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ร่างกายของฉันแข็งทื่อในอ้อมแขนของหนีอีโจว ฉันพูดกับเขาอย่างอ่อนแรง "ไม่ต้องกอดฉันไว้ ฉันไม่ไปหรอก"
ตอนนี้ที่นั่นฝุ่นฟุ้งไปทั่ว ก้อนอิฐตกลงมาเสียงดัง ฉันไม่ใช่คนโง่ เข้าไปก็โดนก้อนอิฐและไม้หล่นใส่ แล้วฉันจะเออะไรกลับคืนได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...