ฉันนั่งอยู่บนที่นั่งของฉันต่อไปและมองดูสีชิงชวนทานหอยนางรมจนหมด เขาไม่แม้แต่จะบีบมะนาว และโยนหอยนางรมเข้าปากไปเหมือนคนป่าที่กินเนื้อสัตว์ดิบๆ
ฉันทานหอยนางรม แต่ไม่ทานแบบสดๆ อย่างน้อยก็ต้องเอาไปย่างให้สุกก่อนถึงจะทานได้
เขาทานเสร็จแล้ว ฉันรู้สึกอิ่มมาก เหมือนหอยนางรมและสเต๊กพวกนั้นอยู่ในท้องของฉัน
เขาทานเสร็จก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากตรงหน้าของฉัน จากนั้นป๋ออวี่ที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องก็ลุกขึ้นไปจ่ายเงิน
หลังจากที่เขาใช้ประโยชน์จากฉันเสร็จก็ไม่แม้แต่จะมองมาที่ฉันอีกเลย
ฉันโทรหาเฉียวอี้ เธอบอกว่าเธอเพิ่งจะแยกกับหนีอีโจว เขายังต้องกลับไปที่สำนักงานกฎหมาย
ฉันให้เธอกลับมารับฉัน ฉันไม่ได้ขับรถมา หลังจากนั้นฉันก็เดินไปรอเฉียวอี้ที่หน้าประตู ผ่านไปสักพักเธอก็ขับรถมา ฉันเปิดประตูเดินขึ้นรถไป
“อีโจวเขาไม่ได้พูดอะไรใช่ไหม? ” ฉันถามออกไปด้วยความอกสั่นขวัญหาย
“เขาจะพูดอะไรได้ สีชิงชวนแสดงแบบนี้ ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกตกใจจนรำคาญ เธอว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เพราะอิจฉาเหรอ? เขาไม่ได้ชอบเซียวซือหรอกเหรอ? ”
“ไม่ได้อิจฉาแน่นอน ฉันกับหนีอีโจวกอดกันในลิฟต์และถูกเขามาเห็นเข้า เป็นไปได้ว่าเขารู้สึกขายหน้า เลยอยากกู้หน้ากลับมา”
“โอ้ นี่มันเป็นสไตล์ของสีชิงชวนมากๆ ” เฉียวอี้พยักหน้า และกลับรถ “จะไปที่ไหน? หรือจะไปที่บ้านฉันดี ไปอยู่สักสองสามวัน”
“โอเค” แน่นอนว่าฉันไม่อยากเจอสีชิงชวน
ฉันเพิ่งจะขานรับไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากป๋ออวี่
ฉันรับสายและเอาโทรศัพท์แนบข้างหู “สวัสดีค่ะ ผู้ช่วยป๋อ”
“คุณเซียว ขอความกรุณาคุณให้คุณเฉียวอี้ส่งคุณกลับตระกูลสีด้วยครับ ถ้าเธอไม่สะดวกผมสามารถกลับไปรับคุณได้”
“เอ่อ” ฉันรู้สึกกลุ้มใจมาก สีชิงชวนอยากกักขังฉัน แต่ก็ไม่แม้แต่จะโทรหาฉันด้วยตนเอง
ฉันเอ่ย “ฉันอยากไปพักที่บ้านของเฉียวอี้สักสองสามวัน”
“คุณสีรีบไปประชุมที่บริษัท เขาสั่งให้ผมมาบอกแบบนี้ครับ ถ้าอย่างนั้นพอคุณมาถึงค่อยคุยกับคุณสีเองอีกทีดีไหมครับ? ” ความหมายของคำพูดนี้คือเขาทำได้แค่สิ่งที่สีชิงชวนสั่งให้เขาทำเท่านั้น
แต่จะทำให้สีชิงชวนไม่พอใจก็ไม่ได้ ฉันเองก็เข้าใจ จึงไม่อยากทำให้เขาลำบากใจ
ฉันวางสายและพูดกับเฉียวอี้ว่า “เธอส่งฉันกลับไปที่ตระกูลสีหน่อย”
“จะไปกลัวเขาทำไม? ”
“มีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย”
“โอเค แล้วแต่เธอเลย” เธอหันหัวรถกลับอีกครั้ง และคาดว่ามันคงจะส่งผลกระทบกับรถที่ตามมาด้านหลัง คนคนนั้นชะโงกตัวออกมาจากรถและตะโกนว่า “คุณคิดว่าถนนเป็นบ้านคุณหรือไง คุณอยากจะขับยังไงก็ขับได้อย่างนั้นเหรอ? ”
เฉียวอี้เป็นคนอารมณ์ร้อน นิดๆ หน่อยๆ ก็หงุดหงิดแล้ว
เธอเปิดประตูรถและกระโดดลงรถไปทะเลาะกับคนขับรถคนนั้น “ถนนเส้นนี้ก็ไม่ได้บอกไว้ว่าห้ามกลับรถนี่ ฉันพบว่าฉันไปผิดทางเลยจะกลับรถแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ฉันเปิดสัญญาณไฟตั้งนานแล้ว คุณมองไม่เห็นเอง”
ชายคนนั้นเดินลงมาจากรถด้วยความโมโหเช่นกัน เดิมทีคงจะคิดว่าเฉียวอี้เป็นผู้หญิงจัดการได้ง่ายๆ แต่พอทั้งสองคนลงจากรถมายืนด้วยกันจึงพบว่าเขาเตี้ยกว่าเฉียวอี้หนึ่งช่วงศีรษะ และเอ่ยกับตัวเองว่า “โอ้ให้ตายเถอะ สูงชะมัด”
ชายคนนั้นเดินขึ้นรถไปอย่างหงอยเหงาเศร้าซึม เฉียวอี้พอต่อสู้ชนะก็เดินกลับขึ้นรถมาขับรถต่ออย่างอารมณ์ดี
ฉันอดไม่ได้ที่จะต่อว่าเธอ “นิสัยอารมณ์ร้อนของเธอนี่ช่วยเปลี่ยนมันหน่อยได้ไหม ไม่ทันทำอะไรก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ถ้าอีกฝ่ายเป็นชายร่างใหญ่อกกว้างไหล่ผึ่งล่ะจะทำยังไง? ”
“งั้นก็สู้สิ! ”
“เฮ้อ น่าเป็นห่วงจริงๆ ” ฉันถอนหายใจออกมา
“คนที่น่าเป็นห่วงคือเธอต่างหาก มีแต่เธอนั่นแหละที่ยอมให้สีชิงชวนปั่นหัว”
“ครั้งก่อนเธอยังพยายามผลักฉันไปหาสีชิงชวนอยู่เลย”
“ครั้งนี้กับครั้งนั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้พี่เสี่ยวฉวนกลับมาแล้วไม่ใช่หรือไง? คำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้นี้ทำให้ฉันตื้นตันใจจริงๆ เขาบอกว่าอยากแต่งงานกับเธอ เธอรีบไปแต่งงานกับเขาเร็ว! ”
ฉันจ้องมองไปที่เธอ “ฉันจะไปแต่งงานได้ยังไง? สีชิงชวนไม่ยอมปล่อยฉัน แล้วฉันจะแต่งงานได้ยังไง? พาสีชิงชวนไปแต่งงานกับเขาด้วยอย่างนั้นเหรอ? ”
“เธอก็ทำร้ายฉันได้ลงนะ พาลใส่แต่คนในบ้าน” เฉียวอี้เหลือบมองฉัน และขับรถเร็วมาก
เฉียวอี้พาฉันมาส่งที่หน้าประตูบ้านของตระกูลสี “ฉันขี้เกียจเข้าไป ส่งแค่ตรงนี้นะ เธอก็ให้ยามของตระกูลสีขับรถไฟฟ้าพาเธอเข้าไปละกันนะ”
เพราะตัวคฤหาสน์ของตระกูลสียังอยู่ลึกเข้าไปด้านในอีก ต้องผ่านทะเลสาบเทียมและสวนดอกไม้ไปจึงจะถึงตัวคฤหาสน์
“ฉันเข้าใจแล้ว เธอกลับไปเถอะ ไว้ค่อยติดต่อกันอีกที”
ฉันลงจากรถและเดินเข้าประตูใหญ่ไป ฉันไม่ได้เรียกให้ยามไปส่ง เพราะถึงยังไงมันก็ไม่ได้ไกลมากขนาดนั้น และสามารถเดินคนเดียวได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...