เฉียวอี้บอกกับฉันบ่อยๆ ว่านิสัยแบบนี้เร่งให้เธอตายเร็วได้ สักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วต่อให้คนอื่นจะมาขี้มาเยี่ยวบนหัวฉัน ฉันก็ยังต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจเอาไว้
ในช่วงสุดท้ายของชีวิตของคุณแม่ ท่านมักจะจูงมือฉันและพูดกับฉันเสมอว่า “เสี่ยวเซิง หลังจากนี้ไปเมื่อแม่ไม่อยู่แล้ว และลูกได้กลับไปที่ตระกูลซางกับพ่อ จะต้องจำไว้ว่าอย่าสร้างความลำบากให้พ่อ ถ้าแม่เลี้ยงและคนอื่นๆ พูดจาอะไรไม่ดี ก็ให้ลูกทำเป็นไม่ได้ยิน ต้องมีความอดทน”
ฉันเชื่อฟังคำพูดของคุณแม่มาก และอดทนมาโดยตลอด พอนานเข้า การเก็บเรื่องราวไว้ในใจและพยายามอดทนอดกลั้นก็กลายเป็นนิสัยของฉันไปแล้ว
ต่อให้คำพูดของอีกฝ่ายจะแย่มากแค่ไหนฉันก็สามารถอดทนต่อไปได้
ตอนนี้เมื่อมาอยู่ที่ตระกูลสีแล้ว เพราะฐานะของฉันในตระกูลเซียวทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ต้อนรับฉัน แต่ฉันก็อดทนเอาไว้เหมือนกัน
เฉียวอี้บอกว่าฉันเป็นนักอดทน ประเภทที่ภายหลังจะผ่าท้องฆ่าตัวตาย โกรธแค้นทุกเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากตายไปแล้วก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนลอยไปลอยมา
คาดว่าพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองเห็นว่าฉันไม่โต้แย้ง คำพูดแย่ๆ ขนาดนี้ก็ยังสามารถอดทนได้ จึงยิ่งพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้าสามนี่ตาบอดจริงๆ มีตัวเลือกนับหมื่นนับพันดันไปเลือกคนแบบนี้มา”
“เขามีตัวเลือกนับหมื่นนับพันที่ไหนกันล่ะ เขาเป็นคนประเภทนอกจากผู้หญิงที่ตัวเองรักแล้วก็ไม่มีผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้ ตราบใดที่ไม่ใช่เซียวซือจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น”
ทั้งสองคนดูเหมือนจะปิดปากกระซิบกระซาบกัน แต่จริงๆ แล้วเสียงพวกเธอดังจนไม่จำเป็นต้องใช้ลำโพงด้วยซ้ำ
ฉันพยายามทานก๋วยเตี๋ยวเข้าไป จนตัวเองแทบจะสำลักอาหารตาย
“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รอง” ฉันได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจากเส้นผม โอ้ เป็นสีจิ่นยวน
สำหรับคุณชายสี่ที่เพิ่งกลับมาคนนี้ พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองยังคงพยายามแสดงน้ำใจไมตรีให้เขาเป็นอย่างมาก
“โอ้ จิ่นยวน ตื่นเช้าจัง? มานั่งนี่มา ป้าสวีๆ รีบเอาอาหารเช้าของคุณชายสี่มาเร็ว จิ่นยวนนายชอบกินอะไร? ไปโตอยู่เมืองนอกน่าจะชอบกินขนมปังกับนมสินะ! ”
“กินแบบนั้นทุกวันใครจะไปชอบกินกัน ถึงยังไงก็เป็นคนประเทศจีน กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อไหม วันนี้ในครัวตุ๋นซุปกระดูกวัว นายลองชิมดู...”
โชคดีที่สีจิ่นยวนปรากฏตัวได้ทันเวลา พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองจึงเปลี่ยนทิศทางและไม่สนใจฉันอีกต่อไป
ฉันรีบทานอาหารเข้าไปหลายคำและเตรียมตัวจะลุกขึ้น แต่สีจิ่นยวนกลับเอ่ยเรียกฉันด้วยรอยยิ้ม “เซียวเซิง”
เขาไม่ได้เรียกฉันว่าพี่สะใภ้สาม แต่ก็ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะเรียกฉันว่าอย่างไร
ฉันยิ้มให้เขา “คุณค่อยๆ กินนะคะ”
จากนั้นก็วิ่งออกไปจากห้องอาหารเหมือนกำลังวิ่งหนี
ฉันไม่รู้ว่าวันนี้ตัวเองควรจะทำอะไร แต่ไม่อยากอยู่ที่ตระกูลสี แม้ว่าฉันจะสามารถซุกตัวอยู่ในห้องของตัวเองได้ แต่ก็ต้องลงมาทานข้าวกลางวัน และยังต้องเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รอง
ตอนนี้พวกเธอแน่ใจแล้วว่าฉันขี้ขลาดมาก ดังนั้นจึงยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้นไปอีก
เพิ่งจะเดินมาถึงห้องรับแขก พี่ฮวาสาวใช้คนสนิทของคุณย่าก็เดินเข้ามาพูดกับฉัน “คุณนายสาม คุณย่าอยู่ในห้องพระค่ะ ท่านกำลังสวดมนตร์”
“ค่ะ” คุณย่านับถือศาสนาพุทธ เมื่อก่อนทุกเช้าฉันก็จะไปสวดมนตร์ และท่องพระสูตรเป็นเพื่อนคุณย่า คุณย่าให้สมุดเล่มเล็กๆ กับฉันมาเล่มหนึ่ง ฉันอ่านบ่อยๆ จนท่องออกมาได้แล้ว
คุณย่าก็เลยชมฉัน บอกว่าฉันฉลาดความจำดี มีความเชื่อในรากฐานของพระพุทธศาสนา
ตอนที่ฉันเดินเข้าไปในห้องพระ คุณย่าก็เพิ่งจะท่องพระคัมภีร์จบพอดี ฉันจุดธูปไหว้พระ ท่านดึงมือของฉันให้นั่งลงมาและหรี่ตามองฉัน “เสี่ยวเซิงเซิงของย่าผมลงหมดแล้ว! ”
คุณย่ามักจะคิดว่าฉันผอมอยู่ตลอด แต่ในช่วงหลายวันมานี้ฉันน้ำหนักลดลงไปนิดหน่อยจริงๆ
“คิดซะว่าเป็นการลดน้ำหนักละกันค่ะ” ฉันเอ่ย
“ลดน้ำหนักอะไร เดิมทีก็ผอมอยู่แล้วตอนนี้ก็ผอมลงไปอีก” คุณย่าลูบไล้หลังมือของฉัน จู่ๆ เบ้าตาก็แดงก่ำ “เสี่ยวเซิงเซิง สังคมภายนอกจะว่ายังไงก็ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา ส่วนสะใภ้ของเจ้าใหญ่กับเจ้ารอง ถ้าพวกเธอยังมาพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าต่อหน้าหนูอีก คอยดูนะว่าย่าจะฉีกปากของพวกเธอเอง”
คุณย่ามีพลังอภินิหาริย์จริงๆ ถึงไม่ได้ออกจากบ้านแต่ก็ยังรับรู้เรื่องราวของโลกภายนอก
“อันที่จริงแล้ว มันก็อาจจะเป็นเรื่องจริงค่ะ” ฉันเอ่ยเสียงเบา “คุณย่าคะ ถ้าหนูไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อ คุณย่าจะยังชอบหนูเหมือนเดิมไหมคะ? ”
“ไอหยา ยัยเด็กโง่ ถึงหนูจะไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อหนู งั้นคุณพ่อของหนูก็ต้องรู้อย่างแน่นอน แล้วเขาได้ไม่รักหนูเพราะว่าหนูไม่ใช่ลูกสาวของเขาไหม? เขาก็ยังคงดีกับหนูมากมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...