เฉียวอี้หาวนอน และก็นอนลงบนโซฟาอย่างสบายๆ
“สีชิงชวนมีคฤหาสน์หลังนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขานี่ชีวิตดีจังเลยนะ ที่นี่ไม่เลวเลยแถมยังใหญ่และกว้างขวางมาก เฮ้อ ง่วงจังเลย ของีบสักหน่อยแล้วกัน”
“อย่าหลับนะ อย่าคิดว่าที่นี่เป็นที่ของฉันจริงๆ สิ ไปกันเถอะ กลับไปนอนที่บ้าน”
“ในเมื่อเธอยืมมาแล้วพวกเราก็อยู่ที่นี่สักสองสามวันจะเป็นอะไรไป? แล้วอีกอย่างนะเนี่ยฉี่อาจจะมาหาเธอที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ เธอไม่กลัวโป๊ะแตกเหรอ?”
ที่เฉียวอี้พูดก็พอจะดูมีเหตุมีผลอยู่บ้าง แล้วอีกอย่างก็ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะกล้าขออะไรจากสีชิงชวน ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะคืนให้เขาเร็วขนาดนั้น
ฉันตีเธอเบาๆ “ถ้ายังงั้นเธอก็ขึ้นไปนอนข้างบน มีห้องตั้งเยอะแยะ!”
“ใช่ ทำไมฉันต้องมานอนในห้องนั่งเล่นด้วยล่ะ? งั้นสองสามวันนี้พวกเราอยู่ที่นี่แล้วกันนะ”พอพูดจบเฉียวอี้ก็ขึ้นห้องไป
แต่ว่าฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเหมือนเธอ เพราะว่าวันนี้บังเอิญเจอกับพี่สะใภ้ของสีชิงชวนเข้าที่ร้านอาหาร และเธอก็ต้องกระจายข่าวไปทุกที่อย่างแน่นอน ฉันคิดว่าไม่แน่ตอนนี้สีชิงชวนอาจจะรู้เรื่องนี้แล้วก็ได้
แต่ถ้าเกิดว่าเขารู้แล้วทำไมเขายังนิ่งเฉยได้ขนาดนี้อีกล่ะ?
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แต่ว่าโทรศัพท์กลับไม่มีอะไรขยับเขยื้อนเลย อย่างน้อยเขาก็น่าจะโทรมาถามหน่อยไม่ใช่เหรอ?
พอฉันรู้สึกโกรธก็ออกไปเดินเล่นที่สวน เดินไปเดินมาก็เห็นดอกซากุระที่หน้าประตู
ตอนนี้เป็นฤดูที่ดอกซากุระบานพอดี ดอกซากุระนี้มีขนาดเล็กมาก มันเป็นสีขาว พอลมพัดก็ร่วงโรยหล่นลงมาเหมือนกับหิมะ
เธอยืนอยู่ใต้ต้นไม้ นึกถึงตอนงานวันเกิดของสีชิงชวน พวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ และเซียวซือก็เขย่งเท้าขึ้นมาจูบเขา
และตอนนั้นฉันก็พึ่งรู้ตัวว่าฉันรักสีชิงชวนเข้าให้แล้ว แต่พอมาคิดว่าตอนนั้นเซียวซือเป็นคนเริ่มก่อน แต่ทำไมสีชิงชวนถึงไม่ผลักเธอออกกันล่ะ?
ฉันยืนอยู่ใต้ต้นไม้สักพักและกำลังจะเดินออกไป หลังจากนั้นก็มีเสียงของสีชิงชวนดังขึ้นด้านหลัง “ได้ยินว่าคุณมีแฟนใหม่แล้วเหรอ?”
ฉันหันหน้าไปทันที และก็เห็นว่าสีชิงชวนมายืนอยู่ด้านหลังของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาเอามือไพล่หลัง สวมสูทสีน้ำตาลอ่อน กลีบดอกซากุระที่เหมือนเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาบนไหล่ของเขาราวกับหิมะ
สีชิงชวนมาที่นี่ได้ยังไง?
ฉันมองดูเวลา นี่ยังเป็นเวลางานอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
รอยยิ้มของเขาดูหยอกล้อ ฉันมองไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธอยู่หรือเปล่า
แต่ฉันเดาว่าน่าจะไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่
“คุณว่าไงนะ?” ฉันแกล้งทำเป็นโง่
“คุณเจอพี่สะใภ้ขนาดนั้นแล้วยังจะปฏิเสธอีกเหรอ?”
อ้อ ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าปากลำโพงของพี่สะใภ้สีชิงชวนนี่เอง
ฉันยักไหล่ “ใช่ ถ้าฉันจะมีแฟนใหม่แล้วมันจะทำไมกันล่ะ? ยังไงพวกเราทั้งสองคนก็หย่ากันแล้ว แถมคุณกำลังจะแต่งงานใหม่อีก”
“แต่ได้ยินว่าคุณใหเนาฬิการาคาแพงมากกับเขา จำได้ว่าเมื่อเช้าผมโอนเงินให้ใครบางคนเยอะมาก คุณคงไม่ได้ใช้เงินนั้นกับแฟนใหม่หรอกใช่ไหม?”
“เราหย่ากันและคุณก็ไม่ได้ให้เงินชดเชยอะไรฉัน ตอนนี้ฉันจะขอเงินสักหน่อยแล้วคุณรู้สึกเจ็บรึไง?”ตอนนี้ฉันกับสีชิงชวนกำลังปะทะกันต่อหน้า และฉันก็ยังคงพลังเยอะมาก
สีชิงชวนกลับหัวเราะออกมา หัวเราะจนฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังหลุดจากตัวตนของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...