พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 5

สรุปบท ตอนที่ 5 ฉันไปทำให้ใครเคืองใจ?: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

อ่านสรุป ตอนที่ 5 ฉันไปทำให้ใครเคืองใจ? จาก พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung

บทที่ ตอนที่ 5 ฉันไปทำให้ใครเคืองใจ? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Chompoo Prateung อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เกิดอะไรขึ้น ขอเวลาฉันคิดก่อนนะ ทว่ายังต้องคิดอะไรอีก ป๋ออวี่นอกใจ และหลักฐานก็อยู่ตรงหน้านี่ไง

ฉันยืนอึ้งตรงหน้าป๋ออวี่จนเขาหันมามองฉัน ที่นี่ค่อนข้างมืด แต่ฉันก็ยังเห็นเขาหน้าแดงอย่างเด่นชัด

อ่อ! ป๋ออวี่คือคนประเภทชอบหน้าแดงและนอกใจคู่เกย์ของตัวเอง

ฉันรีบหันหลัง ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าไล่มาติดๆ ป๋ออวี่วิ่งตามมาแล้วคว้าข้อมือของฉัน

“คุณเซียว”

“ไฮ” ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองใบหน้าอันร้อนรนของเขา “บังเอิญจังเลยนะคะ”

เมื่อความลับของเขาถูกฉันเปิดโปง เขาก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก

“คุณเซียว” เขาขบฟันเชิงมีความในใจ ทว่าไม่รู้จะสื่อออกมาอย่างไร

“คุณสบายใจได้ ฉันไม่ไปป่าวประกาศหรอก คุณอย่าฆ่าปิดปากฉันนะ” ฉันพูดกึ่งล้อเล่น

“หวังว่าคุณจะไม่ไปบอกคุณสีนะครับ” เสียงของเขาเบามาก

บอกไม่ได้อย่างแน่นอน และคนที่ถูกหักหลังมักจะรู้เป็นคนสุดท้ายของโลกเสมอ

ฉันพยักหน้าหงึกๆ “โอเค ฉันไม่บอกหรอก”

เขาจึงจะค่อยๆ คลายข้อมือฉันออก “งั้นผมไม่รบกวนคุณแล้วครับ”

“อืม” ฉันเดินผ่านตัวเขา ตอนมาถึงทางเลี้ยงก็อดหันกลับไปมองไม่ได้ ก่อนจะเห็นผู้ชายที่สวมกอดเขาก่อนหน้านี้มาตบไหล่เขา คล้ายกับกำลังปลอบใจเขาอยู่

สถานการณ์ตรงหน้าชัดเจนมากว่าป๋ออวี่ยืนเรือสองลำ ตอนบ่ายยังกระหนุงกระหนิงกับสีชิงชวนอยู่เลย แต่พอตอนค่ำก็มากอดผู้ชายอีกคน เห้อ! ฉันไม่เข้าใจโลกของคนรักเพศเดียวกันเลย

พอเข้าห้องน้ำเสร็จฉันก็กลับไปที่โต๊ะด้วยสภาพจิตใจที่ค่อนข้างหนักอึ้งพอสมควร

ไม่รู้ว่าด้านข้างเฉียวอี้มีหนุ่มหล่อเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคนตอนไหน เธอแนะนำให้ฉันรู้จัก “เขาชื่อเซิน”

ชายหนุ่มส่งยิ้มละมุนละไมให้ฉัน

ฉันกับเฉียวอี้หัวร่อต่อกระซิกกัน “เขาคิดว่าเธอเป็นชายหรือหญิง?”

“ก็ต้องเป็นผู้ชายอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาจะคุยกับฉันเหรอ?”

“เธอนี่ประสาทแดกจริงๆ” เฉียวอี้ทำตัวบ้าๆ บอๆ แบบนี้แหละ ชอบทำเรื่องแผลงๆจนแม่ของเธอต้องปวดหัวตลอด

ฉันรู้สึกหมดสนุกขึ้นมา หยิบกระเป๋าแล้วบอกเฉียวอี้ว่า “ฉันกลับก่อนนะ”

“ทำไม? พึ่งมาเองนี่ เธอบอกว่าเบื่อๆ อยากดื่มไม่ใช่เหรอ?”

“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะเมื่อกี้เห็นป๋ออวี่อยู่กับผู้ชายอีกคน จึงรู้สึกสงสารสีชิงชวนที่โดนสวมเขาละมั้ง ถึงแม้ฉันจะไม่มีเหตุผลเห็นอกเห็นใจเขาก็ตาม

“เธอทำเรื่องบ๊องๆ ต่อเหอะแต่ฉันขอแนะนะให้กะประมาณด้วยนะ” ฉันตบไหล่เฉียวอี้ “เธอพาบอดี้การ์ดมาอยู่ใช่ไหม?”

“อืม”

“งั้นฉันไปละ”

เมื่อฉันเดินออกจากร้านบาร์ลมหนาวก็พัดมากระทบจนฉันต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อากาศปลอดโปร่งด้านนอกทำให้ฉันสดชื่นขึ้นมาบ้าง

เมื่อก่อนฉันคิดว่าเรื่องรักเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับฉัน แต่ตอนนี้มันกับรายล้อมตัวฉันอย่างคาดไม่ถึง

ตอนฉันกลับถึงบ้านตระกูลสีก็ไม่ได้ดึกอะไรมาก สี่ทุ่มกำลังดี

แม่ของสีชิงชวนกับแก๊งคุณนายกำลังเล่นนกกระจอกในห้องโถง บ้านตระกูลสีก็มีห้องเล่นนกกระจอกโดยเฉพาะ ทว่าพวกเธอกลับเลือกที่จะเล่นในห้องโถง

เท้าที่ฉันก้าวเข้าไปต้องดึงกลับมาอีกครั้ง

ช่างเถอะ รอให้พวกเธอเลิกเล่นก่อนแล้วฉันค่อยเข้าไป แม่ของสีชิงชวนไม่ชอบฉัน เธอรังเกียจชาติกำเนิดของฉัน ดังนั้นหากการปรากฏตัวของฉันทำให้เธอขายหน้าเพื่อนฝูงก็คงไม่ดี

ฉันจึงตัดสินใจเดินเล่นในสวนดอกไม้ภายในบ้านตระกูลสี ยามนี้ท้องฟ้ามืดสนิท และยังหนาวอีกต่างหาก ฉันจามติดต่อกันหลายครั้งแล้ว

จากนั้นฉันก็เห็นแสงไฟเปล่งประกายอยู่ในมุมหนึ่งของสวนดอกไม้ เมื่อฉันทำการดมโดยละเอียดแล้วก็ได้กลิ่นของบุหรี่

ใครสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น?

ฉันเดินย่องเข้าไปตรงนั้น จากนั้นก็เห็นชายหนุ่มนั่งคุยโทรศัพท์บนโต๊ะหินอ่อน

“นายอยู่ไหน ทำไมรับสายช้าแบบนี้? ป๋ออวี่...”

หมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ

ฉันดิ้นขัดขืน หมายจะผละออกจากอ้อนแขนของเขา ทว่าเขากลับจับข้อมือฉันแน่น ก่อนจะมองรอบๆ ตัว “นี่นี่บรรยากาศไม่เลวเลย”

หมายความว่ายังไง? ฉันเบิ่งตาโต สีชิงชวนโอบเอวฉันแล้วพลิกตัวฉัน กลายเป็นว่าฉันเป็นฝ่ายพิงโต๊ะหินอ่อน ส่วนเขาก็คร่อมตัวฉัน

สวนดอกไม้ที่แสงไฟไม่ค่อยสว่างมากนัก เงาต้นไม้สะท้อนบนใบหน้าหล่อของสีชิงชวน ทำให้ใบหน้าเขามีสว่างกับมืดสลับกันไป และฉันอ่านอารมณ์ของเขาจากสีหน้าไม่ออกเลย

เขาหล่อมาก ทว่าฉันก็ยังโลเลอยู่ดี ใบหน้าส่วนที่มองไม่เห็นของเขา มันช่างลี้ลับเหลือเกิน ส่วนใบหน้าที่มีแสงสว่างของเขามันเจือความกลุ้มใจที่ยากจะหยั่งถึงร่วมด้วย

เขาเป็นคนซับซ้อนอยู่แล้ว ฉันกะพริบตัวถี่ๆ ใบหน้าของเขาแนบชิดติดกับของฉันเรียบร้อยแล้ว

ตอนที่ลิ้มเย็นเฉียบของเขาสัมผัสริมฝีปากของฉัน ฉันก็นึกถึงคำพูดของเฉียวอี้ขึ้นมากะทันหัน

เธอบอกว่า “บางคนจะชอบมีเซ็กส์ในที่แปลกๆ เช่นบนทุ่งหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา และเช่นที่สุสานอันวังเวง...”

เธอเดาแม่นมาก สีชิงชวนมีความชอบแนวพิเรนทร์จริงๆด้วย

ค่ำคืนอันหนาวเหน็บในสวนดอกไม้นี่เขาดึงคอเสื้อของฉันแรงๆ

ฉันร้องคร่ำครวญ “อันนี้เสื้อเลขาสาวของคุณไม่ใช่เหรอ?”

ฉันถูกเขาฉีกกระโปรงทิ้งสองครั้งภายในหนึ่งวัน

สีชิงชวนคือหมาป่าตัวหนึ่ง เขาจะทำตามความปรารถนาและความหื่นกระหายของตัวเอง

เขามีแรงเยอะมาก แม้ฉันจะดิ้นสุดกำลัง ทว่าก็สู้เขาไม่ไหว ได้แต่ปล่อยให้เขารุกรานต่อไป

เขาก็ไม่ได้ลืมความเป็นมนุษย์ไปจนหมดสิ้นหรอกนะ เขาอุ้มฉันขึ้นแล้วใช้เสื้อของเขาปู จากนั้นก็วางฉันลงอีกครั้ง ต่อด้วยโน้มตัวมาหาฉัน

ราวกับได้กลิ่นของดอกแมกโนเลียโชยมาแตะจมูก และยังมีความเร่าร้อนของสีชิงชวนแผ่ซ่านอยู่บนกายฉันด้วย

ฉันเป็นภรรยาของเขา ไม่มีเหตุผลที่จะผลักเขาออก เพียงแต่ฉันกำลังคิดว่าทำไมฉันเป็นตัวสำรองของป๋ออวี่ไปได้ สีชิงชวนไม่ได้ตักตวงความสุขจากกายป๋ออวี่เมื่ดใดก็จะมาลงที่ฉันเมื่อนั้น

ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็จู่โจมตรงใบหูของฉัน สีชิงชวนกระซิบข้างหูฉันว่า “อย่าใจลอยสิ ตั้งใจทำหน่อย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)