พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 54

สังคมสมัยนี้พัฒนาไปมาก เทคโนโลยีก็ก้าวหน้าล้ำสมัย ทำให้ร่นระยะเวลาการรอคอยไปได้เยอะเลยทีเดียว

เช่นเรื่องการตรวจดีเอนเอก็เช่นกัน ในสมัยก่อนต้องรอเป็นเวลาหลายวัน แต่ปัจจุบันนี้เพียงแค่สองชั่วโมงก็ทราบผลตรวจแล้ว

ฉันยื่นเส้นผมของตัวเองและของคุณพ่อให้กับทางคุณหมอ และเฉี้ยวอี้ก็นั่งรออยู่ด้านข้างเป็นเพื่อนฉัน

เธอปลอบใจฉันอยู่ตลอดเวลา “ไม่ว่าผลตรวจจะออกมายังไง อย่างน้อยคุณเองก็จะได้ชัดเจนเรื่องราวในอดีต?”

“เมื่อเช้าสีชิงชวนก็พูดเหมือนกันเป๊ะเลย”

“อ้อ?” เธอหันหน้ากลับมามอง “พวกคุณสนทนากันตั้งแต่เช้าเลยเหรอ?”

เธอโฟกัสคำพูดของฉันผิดจุด

“ค่ะ เมื่อคืนเรานอนด้วยกัน” เธอไม่อ้อมค้อมกับเฉียวอี้แม้แต่นิดเดียว พูดอย่างตรงไปตรงมา

เธอลูบไปที่คางของเธอเพื่อจะสอดส่อง “มิน่าล่ะวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่าผิวพรรณของเธอช่างดูเปล่งปลั่งยิ่งนัก”

“ไปให้พ้นเลยนะ” ฉันอารมณ์เสีย มือยันคางไว้มองไปข้างหน้า

“ตอนนี้คุณกับสีชิงชวนมีปัญหาอะไรรึเปล่า ทำไมถึงได้นอนกกจนติดเป็นนิสัย?”

“เมื่อไหร่ที่เขาโกรธก็มักจะนอนฉันอยู่ตลอด”

“แล้วทำไมเขาถึงโกรธล่ะ?”

“ก็เพราะเมื่อวานเขาใช้แชมพูสุนัขไปนะสิ”

“แล้วทำไมเขาถึงใช้มันไปได้ล่ะ?”

“ก็เพราะเมื่อวานฉันเก็บสุนัขตัวหนึ่งมาเลี้ยง”

“ห่ะ?” เฉียวอี้ให้ความสนใจ “จริงเหรอ เธอเลี้ยงสุนัขได้ยังไงกัน?”

“เก็บมาหน่ะ”

“เธอเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าบ้านตระกูลสีไม่อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์?”

“ก็เพราะสีจิ่นยวนนะสิ”

“สีจิ่นยวนเป็นใครกัน?” เธอดึงแขนฉันพร้อมกับจ้องเขม่งมาที่ฉัน “จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าฉันเป็นส่วนเกินในชีวิตของคุณขึ้นมา ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”

“เขาเป็นน้องของสีชิงชวน เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ”

“จริงเหรอ สีชิงชวนยังมีน้องชายอีกคน ทว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับน้องชายของเขาล่ะ?”

“เป็นเพราะเขาออดอ้อนให้ฉันเลี้ยงสุนัข จากนั้นก็เลยเก็บมันมาเลี้ยง และตอนเย็นเมื่อสีชิงชวนกลับมาเขาก็ได้ไปอาบน้ำในห้องของฉัน มิหนำซ้ำยังใช้แชมพูสุนัขไปอีกต่างหาก”

“แล้วทำไมสีชิงชวนต้องไปอาบน้ำที่ห้องของเธอด้วยล่ะ?” เฉียวอี้มักจะจับประเด็นกับคำพูดที่ฉันได้เอ่ยไปทั้งหมด

ฉันขบคิดอยู่สักพักก่อนจะบอกเธอ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เฉี้ยวอี้ขบริมฝีปากล่างครุ่นคิดเป็นเวลานาน “เซียวเซิง ถ้าเธอคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์กับสีชิงชวน มันจะแปลกประหลาดหรือเปล่า เธอคิดยังว่าเธอกับหนีอีโจวจะทำยังไงต่อ?”

“ฉัน” ฉันก็ขบริมฝีปากเช่นกัน “ฉันไม่อยากเจอหน้าเขาอีก ต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไร เธอก็ช่วยฉันส่งต่อด้วยเช่นกัน”

“เพราะเหตุใด?”

“ปัจจุบันฉันกับสีชิงชวนไม่เพียงแต่จะไม่ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์ ยังจะให้เจอหน้ากับหนีอีโจวอีกเหรอ?” ความกลุ้มใจแสดงออกทางสีหน้าเธออย่างชัเจน

“เธอไม่รักเขาแล้วหรือ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น”

เฉียวอี้นั่งยองๆตรงหน้าฉัน พร้อมกับยื่นหน้ามาวางไว้ตรงหัวเข่า “ถ้าเธอชอบหนีอีโจว ก็หย่ากับสีชิงชวนเถอะ!”

“ข้อตกลงของเรายังเหลืออีกครึ่งปีถึงจะหย่าร้างกันได้ ตอนนี้สีชิงชวนไม่มีวันปล่อยฉันไปแน่”

“งั้น” เฉียวอี้กลับกลอกลูกตาไปมา “ในเวลาครึ่งปีนี้เดี๋ยวฉันช่วยเธอสอดส่องหนีอีโจวเอง รับรองได้ว่าจะไม่ให้หญิงสาวคนไหนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด ดีไหมล่ะ?”

ฉันไม่ได้ตอบกลับ ทำได้เพียงถอนหายใจเฮือกหนึ่งแรงๆ

เวลาสองชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนจรวด คุณหมอเรียกชื่อฉันจากทางหน้าประตู “คุณเซียว เชิญคุณเข้ามาข้างในหน่อยครับ”

จู่ๆฉันก็ตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ น่องขาเกิดการสั่นไหว

เฉียวอี้ประคองฉันไว้ “เดี๋ยวฉันเข้าไปเป็นเพื่อน”

ฉันถามคุณหมอว่า “ได้ไหมคะ?”

คุณหมอพยักหน้า “ถ้าคุณไม่ถือสาครับ”

ฉันไม่ถือสาอยู่แล้ว ชีวิตของเฉียวอี้กับฉันได้รวมเป็นหนึ่งเดียว อยากจะแยกออกจากกันก็คงยาก

เธอเดินเข้าไปเป็นเพื่อนฉัน คุณหมอวางผลการตรวจดีเอนเอไว้บนโต๊ะตรงหน้า เลื่อนมันมาทางฉัน “ผลการตรวจออกมาแล้ว คุณเซียวเชิญดูได้เลยครับ”

ฉันปราดตามองหาเฉียวอี้แวบหนึ่ง กำลังลังเลใจ

เธอชิงหน้าหยิบขึ้นมาก่อน พร้อมกับเอ่ยขึ้น “งั้นให้ฉันดูแทนให้ไหม?”

“ได้” ฉันพยักหน้า “เธอช่วยฉันดูหน่อย แล้วมาบอกคำตอบฉันด้วย”

ฉันแค่อยากรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น ง่ายๆเพียงเท่านี้

เฉียวอี้เปิดรายงานผลการตรวจ ลูกตาของเธอกลิ้งเกลือกไปมา กวาดตามองดูแต่ละบรรทัดอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดเธอก็ดูเสร็จ เธอถือผลรายงานอยู่ในมือพร้อมกับชำเลืองสายตามาหาฉัน

สายตาคู่นั้นทำให้ฉันกระวนกระวายใจ ฉันกลืนน้ำลายไปหนึ่งคำ “เป็นยังไงบ้าง?”

“อันที่จริง เซียวเซิง คุณมีคำตอบในใจอยู่แล้วใช่ไหม?” จากที่เฉียวอี้เป็นคนตรงไปตรงมาก็เริ่มพูดจาวกไปวนมา เห็นเธอเป็นเช่นนี้ฉันก็เดาได้แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง

“เป็นยังไง เธอบอกมาตามตรงเลย”

“ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่เธอคิดไว้นั้นแหละ”

“เธอก็บอกฉันมาสิ” ฉันอดตะคอกใส่เธอไม่ได้ “อย่าทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้สิ”

ฉันรู้อยู่โทนโท่ว่าเธอไม่ได้อยากทำให้อยากแล้วจากไปหรอก เพียงแค่ไม่รู้จะอธิบายกับฉันยังไงก็เท่านั้นเอง

จู่ๆเธอก็อ้าแขนยืนมาโอบฉันไว้ “เซียวเซิง คุณยังมีฉันอยู่ทั้งคน ซ้ำยังมีพี่เสี่ยวฉวนอีกคน

ฉันเข้าใจแล้ว ทันใดนั้นฉันทราบผลตรวจทันที

รายงานผลการตรวจในมือเฉี้ยวอี้หล่นไปตกอยู่บนพื้น ดันปรากฎหน้าสุดท้ายพอดี สายตาของฉันดีมาก ดันเห็นตัวหนังสือของบรรทัดสุดท้ายอย่างชัดเจนแจ๋วแหวว

ในนั้นระบุไว้ว่า ผู้ส่งตรวจซึ่งก็คือเซียวเซิงและผู้ถูกส่งตรวจคือเซียวหยวนดีเอนเอไม่สอดคล้องกัน 99.99% รับรองได้ว่าไม่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกันอย่างแน่นอน

ฉันไม่ใช่ลูกสาวของพ่อจริงๆด้วย

ถึงแม้ฉันจะมีคำตอบในใจไว้แล้ว ทว่าในใจเหมือนมีคนขว้างก้อนน้ำแข็งมหึมาใส่เข้าทรวงอกพอดี ทำให้ฉันเย็นสะท้านตั้งแต่ข้างในไปถึงข้างนอก

เรือนร่างในอ้อมอกของเฉียวอี้แข็งทื่อไปหมด เธอพยายามตบหลังฉันเพื่อปลอบใจ “เซียวเซิง เธอเชื่อเถอะว่าคุณอาจะต้องรู้อดีตความเป็นมาของเธอตั้งนานแล้ว แต่ท่านก็ยังคงรักและทะนุถนอมเธอเหมือนเคย มิหนำซ้ำยังทิ้งมรดกไว้ให้ตั้งมากมาย

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความงุนงง “เธอคิดว่าคุณพ่อรู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอ?”

“แน่นอนสิ” เฉียวอี้เกาหนังศีรษะ “ฉันจำได้ว่าตั้งแต่ฉันยังแบเบาะได้ยินคุณแม่กับแม่เลี้ยงคุยกันเหมือนประมาณว่า เซิงเซิงคุณพ่อ สีคำนี้ แต่พ่อของเธอก็อยู่ด้วย ไม่เหมือนจะพูดถึงเขา

“เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“หลายปีก่อนแล้ว พอนึกขึ้นมาตอนนี้ก็รู้สึกน่าสงสัย”

ฉันกับเฉียวอี้จ้องตากันสักพัก จากนั้นก็สะดุ้งโหยงพร้อมกัน “แม่ฉันต้องรู้เรื่องแน่นอน! กลับบ้านไปหาแม่กัน!”

เฉียวอี้ดึงแขนฉัน ยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณคุณหมอก็ดันถูกดึงตัวออกจากห้องตรวจไปเสียแล้ว

แม่ของฉันมีความสัมพันธ์อันดีกับแม่ของเฉียวอี้ เพราะฉะนั้นแม่ของเธอจะต้องทราบเรื่องนี้เป็นแน่

เฉียวอี้ขับรถเร็วยังกับลูกธนู “แม่ฉันใจร้ายมากเลย เก็บความลับมาหลายปีไม่เคยปริปากพูดแม้แต่คำเดียว

จนกระทั่งถึงบ้านตระกูลเฉียว ประจวบเหมาะคุณแม่กำลังเตรียมจะออกไปดื่มชากับคุณย่าอยู่พอดี เฉียวอี้อ้าแขนขวางเธอไว้

แม่เฉียวเห็นฉันถึงกับดีอกดีใจ “หนูเซิงมา อาหลิวไปทำของว่างที่คุณหนูเซียวชอบกิน หนูเซียวเชิญนั้นตามสบายเลยนะ ฉันขอไปดื่มชาก่อน”

“แม่” เฉียวอี้ส่งซิกให้อาหลิวออกไป จากนั้นก็ได้ห้ามปรามพวกเธอไว้ “มีเรื่องจะถามหน่อย ถ้าไม่ตอบมาดีๆ วันนี้ก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”

“เด็กคนนี้หนิ เป็นอะไรไป?” แม่เฉียวขมวดคิ้วงุนงง “อย่าเกะกะขวางทาง อย่าเสียเวลาอวดรวยของฉัน แกดูสิ พ่อแกซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ให้ฉัน รุ่นจำนวนจำกัดเลยเชียววนะ” แม่เฉียวยกแขนขึ้นมาให้พวกเราดู “ด้านหลังทำด้วยอัญมณีทับทิม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)